xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เล็งแก้ระเบียบฯ ดึงองค์กรเอกชนร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งทุกระดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประวิช รัตนเพียร
กกต.เตรียมแก้ระเบียบฯ หลังพบเอกชนเมินร่วมงาน เหตุยุ่งอยากซับซ้อนไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน หวังดึงองค์กรเอกชน ร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งมากขึ้นในทุกระดับ ตั้งเป้าทุกจังหวัดมีภาคเอกชนร่วม “ประวิช” ย้ำไม่หวั่นกระแสเซตซีโร่องค์กรอิสระ ยันยังเดินหน้าสรรหาเลขาฯ กกต.

นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือและรับทราบความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับองค์การเอกชน และร่างระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล พ.ศ. ...

นายประวิชกล่าวว่า สำนักงาน กกต.ได้ศึกษาผลการวิจัยขององค์การเอกชนในการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานบางประการ บางส่วนเกิดจากระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีความยุ่งยากซับซ้อนไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงานทำให้องค์การเอกชนที่มีอยู่ประสบปัญหาในทางปฏิบัติ อีกทั้งอาจมีจำนวนลดน้อยลง จึงได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานขององค์การเอกชน โดยมุ่งหวังให้เครือข่ายองค์การเอกชนเข้ามาเป็นกลไกช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ในภารกิจการช่วยเหลือตรวจสอบการเลือกตั้งเมื่อมีการเลือกตั้งทุกระดับ

ทั้งนี้ หลักดำเนินการของ กกต.ตั้งแต่ก่อตั้งมา 18 ปี คือ กระบวนการจัดการเลือกตั้งต้องร่วมมือกับผู้คนในการจัดการเลือกตั้งเกือบ 100,000 หน่วย มีคนที่เกี่ยวข้องกว่า 1 ล้านคน ส่วนอีกหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของ กกต.คือ ความสุจริต และเที่ยงธรรม เป็นสิ่งที่ต้องมีคนมาช่วยตรวจสอบว่าสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ จึงต้องมีองค์การเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในการให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้ง การส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมทางการเมือง และการช่วยตรวจสอบ ปัจจุบันองค์การเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมลดน้อยลงเหลือเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ จึงจัดการประชุมทบทวนในการประเมินปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อปรับระเบียบและเตรียมการก่อนมีการเลือกตั้งในครั้งต่อไป เมื่อร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.ประกาศใช้ จะได้มีการปรับระเบียบเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องทำความเข้าใจกับองค์การต่างๆ ต่อไป

“การทำงานร่วมกับองค์การต่างๆ บทบาทควรจะอยู่แค่ไหน แค่การรายงานผล หรือควรจะบอกได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร จะเชื่อมโยงการทำงานกันอย่างไรกับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เรามี เช่น แอปพลิเคชันตาสัปปะรด ซึ่งผมเห็นว่าทุกจังหวัดต้องมีองค์การเอกชนอย่างน้อย 1 แห่ง และจะทำอย่างไรให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมลงไปทุกหน่วยเลือกตั้งให้มากที่สุด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กกต.กับกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล หรือ ศส.ปชต.ทุกตำบล จำนวน 7,428 ศูนย์ ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเป็นพลเมืองสอดแทรกความรู้ ผ่านกิจกรรมในวิถีชีวิตประจำวัน และพัฒนาขยายเครือข่ายพลเมืองที่มีคุณภาพ โดยมีกรรมการ ศส.ปชต.จำนวน 74,280 คน ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้จัดการหน่วยเลือกตั้งมืออาชีพที่มีคุณภาพ หน่วยละ 1 คน ใน 96,000 หน่วย รวมกว่า 104,000 คน ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ จึงได้จัดทำร่างระเบียบดังกล่าวขึ้นเพื่อให้การขับเคลื่อนกิจกรรมของ ศส.ปชต.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม กกต.ได้กำหนดโรดแมปการขับเคลื่อนกิจกรรมการให้ความรู้และการศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย และการดำรงรักษาเครือข่ายสำคัญๆ ของ กกต. เช่น รด.จิตอาสา ลูกเสืออาสา กกต. ดีเจประชาธิปไตย และเครือข่ายนักศึกษาระดับอุดมศึกษาไว้ต่อไป โดย ศส.ปชต.จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองของพลเมือง รวมไปถึงเรื่องการเสริมสร้างเครือข่ายทำหน้าที่ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ให้เกิดความยั่งยืนและต่อเนื่อง เพื่อจะได้มีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในคราวต่อไป ซึ่งองค์การเอกชนและ ศส.ปชต.นับเป็นเครือข่ายที่มีความสำคัญในการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ที่ผ่านมา

นายประวิชยังกล่าวถึงแนวคิดของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. เรื่องการเซตซีโร่องค์กรอิสระว่า ทั้งหมดไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องไปหวั่นไหวหรือกังวลใจอะไร ตนได้ย้ำหลายครั้งว่าขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญจะให้อยู่หรือไม่ และขณะนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำลังพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จะเป็นตัวชี้ว่าจะอยู่หรือไป และถ้าอยู่ อยู่อย่างไร ซึ่งเราก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับ ไปตามหน้าที่แล้ว และ กกต.อีก 4 คนก็ไม่ได้กังวล เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

ส่วนเรื่องของการสรรหาเลขาธิการ กกต. ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของคณะอนุกรรมการฯในการสรรหา ที่ขั้นตอนยังคงดำเนินไป ไม่ได้มีการหยุด เบื้องต้นจากที่ได้สอบถามคณะอนุกรรมการฯหลังมีผู้สมัครร้องเรื่องคุณสมบัติไปที่ศาลปกครองก็ได้ให้เวลาระยะหนึ่ง แต่ก็ผ่านมาพอสมควรแล้วก็จะเดินหน้าต่อไป ยืนยันว่าไม่มีการล้มการสรรหาเลขาธิการ กกต.ที่ทางสำนักงานได้เปิดรับสมัครมา การที่มีผู้สมัครไปยื่นร้องต่อศาลปกครองเป็นเรื่องปกติ หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมองว่าการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯไม่สอดคล้องกับประกาศในการรับสมัคร

ทั้งนี้ กกต.ตั้งใจที่จะสรรหาเลขาธิการ กกต.อยู่แล้ว เพื่อไม่ให้การบริหารหรือการทำงานของ กกต.ว่างเว้นเลขาฯ ส่วนหากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เราก็ค่อยพิจารณาไป


กำลังโหลดความคิดเห็น