xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชี้บึ้มใต้โชว์ศักยภาพ ย้ำคดี “ปู” คำสั่งศาลไม่ขัดเจตนารมณ์ รับสนิทมาเลย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” เผยบึ้มปัตตานีเป็นการแสดงศักยภาพ หลังมีกระบวนการพูดคุย ย้ำ รบ.เร่งแก้ไฟใต้เต็มที่ทุกมาตรการ เน้นงานการข่าว โต้ “ทนายยิ่งลักษณ์” คำสั่งศาลปกครองไม่ขัดเจตนารมณ์ เย้ยทุกคนมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ ย้ำไม่เคยมีเพจส่วนตัว พร้อมตั้งข้อสังเกตเลียนแบบต่างประเทศมา ยันสนิทมาเลย์ไม่ยุ่งกิจการภายใน ย้ำแผนงบใหม่ต้องบูรณาการแผนงานชัดเจน

วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเหตุระเบิดตลาดโต้รุ่ง เทศบาลเมืองปัตตานี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตราบใดที่ยังมีฝ่ายที่จ้องจะกระทำอยู่ก็อาจจะมีเหตุเกิดขึ้น เราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏกายอย่างชัดเจน แต่จะอยู่ปะปนกับประชาชน ขณะนี้หลายๆ อย่างก็ดีขึ้น แต่เรื่องตรงนี้ก็มีผลกระทบที่อาจจะมาจากเรื่องกระบวนการพูดคุย เป็นการสร้างศักยภาพฝ่ายเขา ฉะนั้นตนก็ไม่อยากให้เราให้ความสำคัญเรื่องการข่าวมากนัก เป็นเรื่องของการเสนอข้อเท็จจริงไป รัฐบาล หน่วยข่าวต่างๆ ก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุดในทุกมาตรการ

“ไม่อยากให้การเพิ่มศักยภาพ แล้วเป็นการสร้างหวาดกลัว มันก็จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดไป ถ้าเราให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านั้นมากเกินไป ขอให้เจ้าหน้าที่เขาทำงาน เจ้าหน้าที่เขาก็เสี่ยงด้วย ไม่ใช่แค่ประชาชน ก็ขอให้เห็นใจด้วยกัน เจ้าหน้าที่ก็พร้อมเสียสละอยู่แล้ว ไม่อยากให้ประชาชนบาดเจ็บสูญเสียแม้แต่คนเดียว ก็จะเน้นงานการข่าวซึ่งก็ดีขึ้นมามากมาย และเราไม่อยากให้ความสำคัญกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียม ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่ออุทธรณ์ที่มีคำสั่งทางปกครองเรียกชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท ในเดือน พ.ย.นี้ ว่าถือเป็นสิทธิ ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเรียกร้อง หรือยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายระบุว่าตามขั้นตอนหากอุทธรณ์ไม่ได้ก็อาจจะไปขอทุเลาในชั้นศาลได้ ถือเป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ตนมีหน้าที่ในการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น และไม่เคยบอกว่าสิ่งที่เกิดนั้นถูกหรือผิด แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากพอสมควร ก็ต้องไปชี้แจงกันในชี้ศาล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนที่มองว่าคำสั่งศาลปกครองขัดเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2539 นั้น ตนได้ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เมื่อปี 2539 ยืนยันว่าไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ แล้วจะให้ตนว่าอย่างไรต่อได้

“มันเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ ฝ่ายกฎหมายยืนยันว่าไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ ดังนั้นหากมีข้อชี้แจงอย่างไรก็ขอให้ไปชี้แจงในชั้นศาล อย่ามาชี้แจงกันในสื่อ ผมจะไม่ขอพูดตอบโต้ในเรื่องเหล่านี้อีก เพราะผมถือว่าผมนำเรื่องเหล่านี้เข้าไปแล้ว อย่างไรก็ขอให้ไปชี้แจงด้วยหลักฐานที่มีอยู่ อย่าลืมว่าทุกคดีผมไม่ได้เริ่มต้น เป็นคดีที่ค้างคามานาน ผมก็ต้องรับมาปฏิบัติต่อไปในกระบวนการยุติธรรม เมื่อเช้าไปแล้วก็ถือว่าหมดหน้าที่ของผมตรงนี้ ขอให้รอฟังว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่อยากให้สร้างความขัดแย้งต่อไปในทุกเรื่อง ในสิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบเรียบร้อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีมีผู้แอบอ้างชื่อนายกฯ ในทวิตเตอร์กล่าวหาผู้นำประเทศเพื่อนบ้านว่า ยืนยันว่าไม่เคยมีเว็บเพจเป็นของตัวเอง และที่มีชื่อตนนั้นต้องไปดูว่าเจตนารมณ์เขาทำเพื่ออะไร เท่าที่ตนตรวจสอบมีหลายครั้งที่ออกมาทำนองนี้ และต่างประเทศก็มีแบบนี้ อาจจะไม่ใช่ของตนคนเดียว แม้กระทั่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็มีลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน แสดงว่าเป็นการเอาเยี่ยงอย่างมาหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ ซึ่งตนกับทางประเทศมาเลเซีย เป็นเพื่อนสนิทกัน เป็นผู้นำประเทศเหมือนกัน ฉะนั้นเรื่องใดก็ตามที่เป็นกิจการภายในของแต่ประเทศ ซึ่งอาเซียนตกลงกันแล้ว เรื่องใดที่เป็นเรื่องภายในประเทศก็แก้ปัญหากันไป แต่เรื่องใดที่สร้างสรรค์ก็เป็นความร่วมมือระหว่างอาเซียน ขอแยกแยะให้ออก

“ขอขอบคุณคนที่หวังดีกับรัฐบาลและผม อะไรก็แล้วแต่ผมถือว่าหวังดี แต่ขอให้มองสองด้าน ถ้าเราทำมากเกินไป ย่อมมีคนไม่ชอบ ต้องมีสองอย่างเสมอ ขอให้เข้าใจต้องทำอย่างไรให้คนทั้งประเทศมีเหตุผลในการดำเนินชีวิต ต่อไป โดยที่ประเทศชาติจะไม่มีความขัดแย้ง ไม่แบ่งสีแบ่งพวกอะไรอีกแล้ว ต้องไม่มีอีก ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยู่กับเรามาตลอด พระองค์ท่านทรงไม่มุ่งหวังให้ประชาชนขัดแย้งต่อไป” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เรื่องสำคัญวันนี้ที่สั่งการ หลังจากที่ตนได้เปิดประชุมเรื่อง พ.ร.บ.การจัดทำงบประมาณใหม่ในปี 60-61 จะมีการจัดทำงบประมาณให้ชัดเจนขึ้น เป็นการพิจารณาแบบบูรณาการแผนงานโครงการ ซึ่งในกระทรวงเดียวกันแต่ละกรมต้องเอากิจกรรมมาจับและใช้งบประมาณแต่ละกรมมาเสริมกัน จากนั้นก็ข้ามไปสู่แต่ละกระทรวงและขับเคลื่อนไปสู่กิจกรรมหลักของประเทศ เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่ปีนี้ให้เริ่มใช้ไปก่อน และต้องให้สอดคล้องกับรายไตรมาสที่มีอยู่ ขณะที่งบประมาณใหม่ต้องเสนอให้ตรงกรอบ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ทั้งหมดต้องวางแผนล่วงหน้า มีการกำหนดว่าทำได้กี่เปอร์เซ็นต์ หากทำไม่ได้ต้องไปชี้แจงกันเอง เพราะตนไม่สามารถจะไปไล่ล่าใครได้ ต้องชี้แจงประชาชนที่เลือกรัฐบาลเข้ามา ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นหลักเกณฑ์กับประชาชนได้ติดตาม มากกว่าที่จะรับในสิ่งตอบแทนเล็กน้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น