“สมชัย” นำคณะ กกต.แจกลองกองใต้ ปชช.แสดงความอาลัยถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ ๙ เป็นเวลา 30 วัน ช่วยเหลือเกษตรกรไปในตัว พนักงาน กกต.ร่วมงานได้ไม่หักวันลา พร้อมเทิดทูนพระองค์ท่านช่วยประเทศคงความสามัคคี
วันนี้ (20 ต.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารกลาง พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงาน กกต. ร่วมกับสมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้แจกผลไม้ลองกอง สนับสนุนและส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรชาวภาคใต้ ภายในถุงมีกระทงสำหรับใส่เปลือกผลไม้ ที่มารดาอายุ 99 ปี ของนายสมชัยเป็นผู้พับเพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยฯ ที่บริเวณท้องสนามหลวง เต็นท์ที่ 32 เยื้องประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการแจกจ่ายดังกล่าวจะดำเนินการเป็นเวลา 30 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทั้งนี้ นายสมชัยกล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นดำริของ กกต.ร่วมกับสำนักงาน กกต. และสมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง หรือหลักสูตร พตส.ทั้ง 7 รุ่น ทุกคนเห็นว่าช่วงนี้เป็นโอกาสสำคัญที่สุดในการแสดงความจงรักภักดีด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ร่วมบริการให้แก่พี่น้องประชาชนที่ท้องสนามหลวง ที่ขณะนี้ได้มีหน่วยงานหลายภาคส่วนได้แจกน้ำดื่มและอาหารไปแล้ว ทาง กกต.จึงไปรับลองกองจากภาคใต้มาแจก เพราะนอกจากประชาชนจะได้ทานผลไม้ที่อร่อยแล้วยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรภาคใต้ด้วย ถือว่าได้ผลประโยชน์สองต่อ สำหรับเจ้าหน้าที่ กกต.ที่สนใจร่วมงานสามารถขออนุญาตผู้บังคับบัญชามาเป็น กกต.จิตอาสาได้โดยไม่ถือว่าเป็นวันลา ทั้งนี้เราจะดำเนินการแจกสิ่งของอย่างต่อเนื่อง 30 วัน โดยใช้เงินที่ได้รับบริจาคจาก พตส. หรือถ้าประชาชนท่านใดสนใจร่วมบริจาคของช่วยเหลือ ก็สามารถมาร่วมกันแจกจ่ายได้ที่เต็นท์หมายเลข 32 ของ กกต.ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีบทบาทต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งอย่างไรบ้าง นายสมชัยกล่าวว่า ถ้าสังเกตประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะพบว่าโดยหลักของรัฐธรรมนูญแล้ว พระองค์ท่านทรงอยู่เหนือการเมือง แต่ทุกครั้งที่มีวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศชาติ เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และพฤษภาทมิฬ 2535 พระองค์ท่านก็ทำให้บ้านเมืองสงบ ทรงติดตามสถานการณ์ต่างๆ และลงมาในจังหวะที่เหมาะสมที่สุดเพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลาย ถือว่าสิ่งที่พระองค์ท่านได้ดำเนินการเป็นการช่วยให้ประเทศไทยคงความสามัคคี และสามารถทำให้ประเทศไทยดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งเช่นปัจจุบัน