รองนายกรัฐมนตรี ระบุคณะองคมนตรีเลือก “ธานินทร์ กรัยวิเชียร” ปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรีชั่วคราว ตั้งแต่ 14 ต.ค. ยัน “ป๋าเปรม” ยังกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อพ้นจากผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยไม่ต้องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ ส่วนตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่เอกสารสำนักเลขาธิการทำเนียบองคมนตรี แจ้งมายังปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าคณะองคมนตรีได้เลือกนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรีทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราว ผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า เอกสารจริงหรือปลอมไม่รู้ แต่ข้อเท็จจริงคือเมื่อประธานองคมนตรี คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 24 ระบุไว้ โดยได้เขียนว่า ในระหว่างที่ประธานองคมนตรีปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวนั้น ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ของประธานองคมนตรีด้วย แม้ว่าจะยังเป็นประธานองคมนตรีอยู่ก็ตาม ต้องแยกกัน และรัฐธรรมนูญมาตรา 25 ได้เขียนต่อรองรับไว้ว่า กรณีที่เกิดเหตุเช่นว่านี้ ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีขึ้นมาคนหนึ่งมาปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
นายวิษณุกล่าวว่า โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. คณะองคมนตรีได้มีการปรึกษาและเลือกนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรีให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน โดยไม่ใช่ให้เป็นประธานองคมนตรี และเมื่อถึงเวลาที่ พล.อ.เปรมได้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ของประธานองคมนตรีตามปกติ โดยไม่ต้องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ พล.อ.เปรมจะมีตำแหน่งประธานองคมนตรีและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรีไม่ได้เท่านั้นเอง และรัฐบาลได้รับแจ้งเรื่องนี้แต่เรื่องแล้ว และไม่ต้องมีการประกาศเช่นเดียวกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
เมื่อถามว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคต คณะองคมนตรีต้องพ้นไปด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีการบัญญัติไว้แบบนั้น แต่กลับเขียนไว้อีกอย่างว่า การดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ธานินทร์ กรัยวิเชียร ปัจจุบันอายุ 89 ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยลอนดอน สหราชอาณาจักร และเนติบัณฑิตอังกฤษจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายของเนติบัณฑิตยสภา สำนักเกรย์สอินน์ อังกฤษ เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 14 หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้ทำการรัฐประหารรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ก่อนที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2520