“บิ๊กต๊อก” ส่งหนังสือทูตขอความร่วมมือส่งตัวพวกหมิ่นฯ ชี้มาตรการทางสังคมดีที่สุด

รมว.ยุติธรรม ให้ดีเอสไอตามคดี ม.112 อยู่ เผย รบ.ตั้งชุดเฉพาะกิจเอาผิดคนหมิ่นฯ ในต่างแดน ชี้เป็นกลุ่มเดิม 6-7 กลุ่ม สั่งหน่วยเกี่ยวข้องเกาะติด ส่งหนังสือไประดับทูตขอความร่วมมือ ย้ำทำงานเรื่องนี้มาตลอด แต่ติด กม.ต่างจากต่างประเทศ ยกมาตรการทางสังคมดีที่สุด

วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าผู้กระทำผิดมาตรา 112 ว่าตนได้ให้พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการดำเนินการอยู่ ซึ่งเราได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอดตามที่รัฐบาลได้มอบหมาย นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ยังมีการจัดตั้งกรรมการติดตามเอาความผิดมาตรา 112 ในต่างประเทศ ที่มีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เป็นรองประธาน ขณะที่ปัจจุบันรัฐบาลได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้น คือ ชุดของศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ตนจึงได้ให้ทางอธิบดีดีเอสไอประสานกับ ศตส. กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อติดตามเรื่องนี้

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้กระทำความผิดมาตรา 112 เป็นกลุ่มเก่า มีประมาณ 6-7 กลุ่ม โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมาตนได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่าคนเหล่านี้ไปเคลื่อนไหวอยู่ประเทศใด แล้วมาร่างหนังสือให้ตน ตนจะเซ็นในฐานะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักรเพื่อส่งหนังสือไปยังเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยตามประเทศที่เขาเคลื่อนไหว แต่เราจะต้องมั่นใจก่อนว่าคนเหล่านี้ไปเคลื่อนไหวอยู่ที่ประเทศไหนบ้าง เรื่องนี้ต้องเห็นใจคนทำงาน เพราะคนพวกนี้บางครั้งเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ เว็บไซต์ต่างๆ ออกมาจากต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำงานเราทำมาตลอด แต่เราติดเรื่องกฎหมายต่างประเทศ

“ยืนยันว่าผมติดตามตลอด ไม่ใช่แค่ช่วงนี้เท่านั้น แต่มักจะติดเรื่องการเคลื่อนไหวในต่างประเทศ ในแง่กฎหมายเราเคารพอธิปไตยประเทศอื่น ที่ผ่านมาเราก็ทำหนังสือไปในระดับรัฐมนตรีในประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ในแง่การทำงานอยู่ และเราจะทำหนังสือไปอีกครั้งในส่วนคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร แต่ในส่วนรัฐบาลและหน่วยงานอื่นก็ให้ประสานมายัง ศตส.จะได้ทำควบคู่กัน” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ประชาชนล้อมร้านขายน้ำเต้าหู้ชื่อดัง จ.ภูเก็ต หลังโพสต์ข้อความเข้าข่ายผิดมาตรา 112 พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนเคยพูดแล้วว่าไม่มีอะไรดีกว่ามาตรการทางสังคม เช่นเดียวกับคนที่ไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ เราก็มีประชาชนที่เคารพรักสถาบันฯ ดูอยู่ โดยเราทำหนังสือส่งไปตามประเทศต่างๆ ชี้แจงโดยอาศัยความเห็นใจในฐานะมิตรประเทศ ใช้ความรู้สึกในประเทศของกันและกัน เป็นความรู้สึกของคนไทยเพราะเราไม่เคยละเมิดกฎหมายเขา ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกัน ส่วนโอกาสที่เขาจะส่งตัวให้เราหรือไม่นั้นไม่ง่าย เพราะเราต้องเคารพอำนาจอธิปไตยเขาไปพร้อมๆ กับทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดด้วย

“ขอให้ประชาชนที่พบเห็นการทำความผิดอย่าเผยแพร่ต่อเพราะจะผิดกฎหมายด้วย ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เขามีกฎหมายดูแลได้ทำงานดีกว่า” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว