นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ร่วมประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ด้านโฆษกรัฐบาลเรียกผู้บริหารฟรีทีวีเข้าพบ
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ พร้อมด้วยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายพีรศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อเวลา 18.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ เพื่อเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้นได้เดินทางกลับมาประชุม
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้เรียกผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลทั้งหมดเข้าหารือ
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้ระบุในมาตรา 2 ความว่า ให้บทบัญญัติของหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ซึ่งยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ยังคงใช้บังคับต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญนี้
โดยมาตรา 23 หมวดที่ 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ระบุว่า ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ