ตัวแทนศิลปินค่ายกรีนไลฟ์ ร้องเรียน “ประยุทธ์” ถูกเอไอเอสละเมิดลิขสิทธิ์เพลงนำไปค้ากำไรโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุคดีไม่คืบ ขอตรวจสอบ ตร.ละเว้นหน้าที่ ด้านสมาคมธุรกิจรถตู้ยื่นหนังสือต่อให้ทบทวนจัดระเบียบรถตู้ที่ให้ย้ายจากอนุสาวรีย์ฯ ชี้กระทบ ปชช.หนัก เพิ่มค่าใช้จ่าย-เวลาเดินทาง ผู้ประกอบการรายได้ลด
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายอัตพร ช่วยซบ ตัวแทนศิลปินและเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงค่ายกรีนไลฟ์ และนายกิ่งแก้ว โยมเมือง ผู้ประสานงานด้านกฎหมาย เข้าร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีถูกบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัทในเครือละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินคดีต่อเอไอเอสว่าได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ทั้งนี้ เอไอเอสได้ละเมิดลิขสิทธิ์โดยการนำผลงานมิวสิกวิดีโอเพลงคาราโอเกะไปให้บริการและเก็บเงินผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่ต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันคาราโอเกะบนมือถือ ที่เรียกว่าเอไอเอสเพลย์ หรือเอไอเอสคาราโอเกะ เป็นการแสวงกำไรเพื่อประโยชน์การค้าของบริษัทฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง
โดยงานมิวสิกวิดีโอเพลงคาราโอเกะในอัลบั้มเพลงรักคนเลว ได้แก่ เพลงหัวปักหัวปำ, ใหม่มันดี, ใจยับเยิน, ชวนน้องล่องใต้ และนิทรา ขับร้องโดยศิลปินชื่อ นันท์ กรีนไลฟ์ และงานมิวสิกวิดีโอเพลงคาราโอเกะ ในอัลบั้มคนใต้ใจเต็ม ได้แก่ เพลงแกล้งรัก, วางไว้ตรงนั้น, คนใต้ใจเต็ม, แหลงเจ้าเมือง ฯลฯ ขับร้องโดยศิลปินเสาร์ห้า งานทั้งสองอัลบั้มมีนายอัตพรเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ อีกทั้งก่อนหน้านี้กลุ่มศิลปินได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ต่างๆ รวม 21 แห่ง แต่ไม่มีความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายบุญส่ง ศรีสกุล รักษาการนายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ทบทวนกรณีรัฐบาลเริ่มจัดระเบียบรถตู้สาธารณะให้ย้ายออกไปจากบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปอยู่ที่สถานีขนส่งจตุจักร (หมอชิต) สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และสถานีขนส่งเอกมัย
นายบุญส่งกล่าวว่า การย้ายรถตู้ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบหนักสุดคือประชาชน เพราะเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงเพิ่มระยะเวลาในการเดินทาง จากเดิมที่สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้จะส่งผลให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ส่วนตัวแทนซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะมีรายได้ลดน้อยลง เพราะต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการรถบัสที่มีอยู่เดิมแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลทบทวนเลื่อนการจัดระเบียบรถตู้ออกไปก่อนเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัวก่อน อีกทั้งรถตู้ร่วม บขส.นั้นจะหมดอายุการใช้งานตามกฎระเบียบข้อบังคับของกรมขนส่งทางบก ต้องเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถมินิบัสในปี 2562 อีกทั้งบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มีนโยบายที่จะย้ายรถบัสออกจากสถานีขนส่งหมอชิตไปอยู่สถานีขนส่งรังสิตในปี 62 ด้วยเช่นกัน