นายกรัฐมนตรีไทยหารือทวิภาคีนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ต่างเห็นพ้องรื้อฟื้นกลไกประชุมการค้าร่วม หวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันหลังชะงักมากว่า 5 ปี ผลักดันเปิดตลาดนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ขณะเดียวกันต่างเห็นชอบให้เร่งทำแผนแม่บทความร่วมมือเศรษฐกิจในระยะ 5 ปี พร้อมลงนาม MOU ด้านการศึกษา
ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทร้พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือทวิภาคีกับนายฮวาง คโย-อัน (Mr. Hwang Kyo-ahn) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมคณะ อาทิ นาย Lim Sungnam ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นาย Lee Young ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนาย Shim Otaeg เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ที่เดินทางเข้าร่วมประชุม ACD Summit ครั้งนี้ และยินดีที่ทราบว่าการเดินทางมาครั้งนี้ เป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงและคำขอบคุณไปยังประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ที่ให้ความสำคัญกับ ACD และกรุณามอบหมายให้นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ เป็นผู้แทนมาร่วมประชุมฯ พร้อมกล่าวย้ำคำเชิญประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เกาหลีใต้ที่มีพัฒนาการหลายด้าน และกล่าวขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมชื่นชมรัฐบาลไทยที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 2
ด้านการค้าและการลงทุน ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการรื้อฟื้นกลไกการประชุมการค้าร่วม (Joint Trade Commission : JTC) โดยเร็วที่สุด เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันและแก้ไขปัญหาตัวเลขการค้าระหว่างกันที่ชะงักงันมาแล้วกว่า 5 ปี รวมถึงหารือถึงการดำเนินการเพื่อเปิดตลาดนำเข้าไก่สดแช่เย็นและแช่แข็งจากไทยไปยังเกาหลีใต้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เร่งรัดสรุปการจัดทำ Blueprint แผ่นแม่บทข้อริเริ่มทางความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-เกาหลีใต้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางในการดำเนินความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ระยะเวลา 5 ปี โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำร่าง Blueprint ให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว
พล.ท.วีรชนแถลงต่อว่า ไทยและเกาหลีใต้ต่างยินดีกับการจัดตั้งคณะทำงานร่วมในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวง จ.หนองคาย และอุดรธานี ซึ่งเกาหลีใต้จะให้ความร่วมมือด้านเทคนิคในการบริหารจัดการน้ำในโครงการดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้หวังว่าโครงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำของทั้งสองประเทศต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนเกาหลีใต้ในการศึกษาเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก แม่สอด-มุกดาหาร รวมทั้งยินดีที่เกาหลีใต้สนใจลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการดาวเทียม THEOS-2 รวมถึงพิจารณาการใช้ยางพาราจากไทย
ด้านความร่วมมือด้านการศึกษา ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ภายหลังจากการหารือ ไทยและเกาหลีใต้จะมีการลงนาม MOU ด้านการศึกษาระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า MOU ดังกล่าวเป็นการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาและแลกเปลี่ยนบุคลากร ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุค Thailand 4.0 ที่เน้นการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่เกาหลีใต้มีส่วนกับการปฏิรูปประเทศไทยในครั้งนี้ และแสดงความประสงค์ให้เกาหลีใต้ให้ความสนใจและผลักดันให้เอกชนเกาหลีใต้ในไทยมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรทางด้านอาชีวะศึกษาของไทยด้วย
สำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียินดีที่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางมาไทยจำนวน 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 จากปีก่อนหน้า ผู้นำทั้งสองฝ่ายหวังว่าไทยและเกาหลีใต้จะร่วมมือกันส่งเสริมให้ประชาชนของทั้งประเทศเดินทางไปท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน รวมถึงเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างกันให้มากขึ้นเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยจะดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่มาท่องเที่ยวในไทยเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ไทยและเกาหลีใต้ยังหารือถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลไทยมีความกังวลเช่นกันในเรื่องการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความสงบสุขต่อภูมิภาคเอเชียและต่อโลก ไทยจึงยินดีปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ดังนี้
(1) ความตกลงในการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางไทย-เกาหลีใต้ ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกับเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย และเป็นการต่ออายุความร่วมมือในการพัฒนาระบบรางของไทยผ่านความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับเกาหลีใต้
(2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-เกาหลีใต้ ซึ่งลงนามโดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการของทั้งสองฝ่าย มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บุคลากร งานวิจัยระหว่างกัน รวมทั้งพัฒนาระบบอาชีวศึกษาของไทยผ่านการฝึกอบรมโดยเกาหลีใต้