ผู้ริเริ่มตั้งพรรค ปชช.ปฏิรูป ยื่นข้อเสนอ 4 ประเด็น ต่อร่าง กม.ลูกพรรคการเมือง-เลือกตั้้ง มุ่งปฏิรูปพรรคการเมืองเป็นพรรคระดับชาติ ให้ความสำคัญสมาชิกพรรค ปฏิรูปการประชาสัมพันธ์ผู้สมัคร และวิธีการหาเสียงโดยผู้สมัคร เชื่อแก้ปัญหาการเมือง ลดใช้เงิน คาดจดทะเบียนตั้งพรรค ก.พ.
วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้ริเริ่มก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป เข้ายื่นข้อเสนอต่อการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ใน 4 ประเด็น คือ 1. ต้องปฏิรูปพรรคการเมืองให้เป็นพรรคระดับชาติ โดยจะต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดขั้นต่ำให้พรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของ 350 เขต หรือไม่น้อยกว่า 117 เขตขึ้นไป และจะต้องผู้สมัครทั้ง 4 ภาค เพื่อเป็นการยกระดับไม่ให้มีจำนวนพรรคมากจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการลดภาระให้ กกต.ในการจัดพิมพ์ประวัติและข้อมูลพรรคส่งให้ผู้มีสิทธิออกเสียง 2. ต้องปฏิรูปให้ความสำคัญของสมาชิกพรรค โดยให้ กกต.เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง และให้บัญญัติไว้ในกฏหมายว่า ในกรณีที่สมาชิกพรรคมีความประสงค์จะลาออกจากพรรคเดิมไปพรรคใหม่นั้น โดยไม่ต้องยื่นใบลาออกจากพรรคเดิม แต่ให้สมาชิกผู้นั้นไปยื่นความประสงค์กับพรรคใหม่ และให้พรรคใหม่นำส่งใบสมัครแจ้งไปยัง กกต.เพื่อลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคใหม่ เหมือนกับวิธีการย้ายค่ายเบอร์โทรศัพท์มือถือที่สามารถไปยื่นย้ายที่ค่ายใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปแจ้งกับค่ายเดิม
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า 3. ต้องปฏิรูปการประชาสัมพันธ์ผู้สมัคร ดำเนินการโดย กกต.เป็นผู้จัดพิมพ์ข้อมูลส่วนตัว นโยบายของพรรคการเมือง ตามที่ผู้สมัครส่งประวัติมายัง กกต.ขนาดความยาว 1 หน้ากระดาษ A4 ต่อผู้สมัครหนึ่งราย เพื่อนำแจกจ่ายไปให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม เพราะเมื่อ กกต.เป็นผู้จัดพิมพ์และจัดส่ง จะทำให้ผู้สมัครเสียค่าใช้จ่ายในการต้องหาเสียงน้อยลง ทำให้ไม่ตกอยู่ในอิทธิพลของนายทุนพรรคการเมือง หรือนายทุนธุรกิจการเมือง และ 4. ต้องปฏิรูปวิธีการหาเสียงโดยผู้สมัคร เพราะเมื่อ กกต.มีการประชาสัมพันธ์ส่งข้อมูลผู้สมัครไปถึงผู้มีสิทธิออกเสียงทุกครัวเรือนแล้ว จึงควรลดการติดป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้สมัคร ต้องมีมาตรการควบคุมการหาเสียง การใช้รถแห่ เครื่องเสียงต่างๆ โดยเทียบเคียงระบบแจแปนโมเดลจำกัดให้เฉพาะผู้สมัครหาเสียงด้วยตัวเองเท่านั้น อนุญาตให้มีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 5 คน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของประชาชน 79.84% จากการสำรวจของนิด้าโพล และห้ามไม่ให้มีการจัดเวทีการปราศรัยใหญ่ หรือใช้รถแห่จำนวนมากเปิดเทปขยายเสียงหาเสียงเพื่อวนรอบเขตเลือกตั้งเป็นการรบกวนประชาชนทั่วไป
“เชื่อว่าหาก กรธ.พิจารณาตาม 4 ข้อเสนอดังกล่าวนี้จะถือว่าเป็นการปฏิรูปพรรคการเมือง การแก้ไขปัญหาการเมือง ลดการใช้เงิน และป้องกันนายทุนพรรค และสามารถแก้ปัญหาความล้มเหลวของการเมืองในอดีตได้” นายไพบูลย์กล่าว และว่าทราบว่า พ.ร.บ.พรรคการเมือง กรธ.จะยกร่างเสร็จในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ และส่งให้ สนช.พิจารณาอีก 60 วัน คาดว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม จากนั้นตนจะไปยื่นจดทะเบียนตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปต่อ กกต.ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ต่อไป