“บิ๊กเจี๊ยบ” กำชับทุกหน่วยประสานช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วม

เลขาฯ คสช.ห่วงสถานการณ์อุทกภัย กำชับทุกหน่วยในพื้นที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชน พร้อมให้กำลังพลเข้าตรวจสอบดูแลไม้ที่ถูกยึดเป็นของกลางในจุดต่างๆ ไม่ให้สูญหาย สนับสนุน อคส.เปิดคลังข้าวในสต๊อกเพื่อตรวจนับประจำปี ย้ำ กกล.รส.ดูความเรียบร้อยประชุม ACD อย่างต่อเนื่องจนจบการประชุม

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า วันนี้ (10 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากปัจจัยหนุนในหลายด้าน เช่น การระบายน้ำออกจากเขื่อน สภาวะฝนตกที่ยังคงมีต่อเนื่อง พื้นที่รองรับการระบายน้ำมีจำนวนจำกัด และประกอบกับน้ำทะเลที่หนุนสูงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเลขาธิการ คสช.ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ศบภ.ทบ., ศบภ.ทภ. และหน่วยทหารประจำพื้นที่ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งการทำงานร่วมกับทาง กทม.ในการวางแผนรับมือและช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์น้ำซึ่งในปัจจุบันทุกส่วนได้ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรและการขนย้ายสิ่งของ

นอกจากนี้ เลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้ กกล.รส.ในทุกกองทัพภาคเร่งดำเนินการตามบัญชาของนายกรรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ คสช.เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลไม้มีค่า และไม้ของกลางที่ได้จากการตรวจยึดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ในทุกพื้นที่ โดยขณะนี้มีการเก็บรักษาไม้ดังกล่าวไว้ในสถานที่เก็บไม้ของทางราชการ เพื่อรอการนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป โดยให้มีการตรวจสอบ กำกับดูแล และมีการประสานงานร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบ เพื่อให้การดูแลไม้มีค่าและไม้ของกลางมีความถูกต้อง ป้องกันการสูญหายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ตามแผนงานที่กำหนด

นอกจากนี้ จากการที่ คสช.มอบหมายให้ กกล.รส.ในพื้นที่ต่างๆ ให้การสนับสนุนองค์การคลังสินค้าตามการร้องขอในเรื่อง “การระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 2/59” จำนวน 52,397 ตันเศษ ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือน ต.ค.นี้ และการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการร่วมเปิดคลังสินค้ากลางข้าวสารในความดูแลของ อคส.ในจังหวัดต่างๆ เพื่อตรวจนับสินค้าประจำปี โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน ซึ่งการให้การสนับสนุน อคส.ดังกล่าว เลขาธิการ คสช.ได้กำชับให้ กกล.รส.เคร่งครัดในการปฏิบัติตามกรอบความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ และเป็นการสนับสนุนรัฐบาลในการบริหารจัดการสต๊อกข้าว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า จากการที่ในช่วง 8-10 ตุลาคม 2559 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD SUMMIT) ซึ่งทุกส่วนได้ร่วมกันเตรียมงาน การอำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมประชุม และการดูแลความปลอดภัยในภาพรวม โดยในส่วนของ คสช.มอบหมายให้ กกล.รส.ทภ.1 จัดกำลังสนับสนุน สตช.ในภารกิจรักษาความปลอดภัยตลอดการประชุม ซึ่ง ลธ.คสช.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย ขณะเดียวกัน ในเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยของสังคมเป็นส่วนรวมยังคงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องให้ความสำคัญและกำกับดูแลให้เกิดความรอบครอบเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในทุกพื้นที่

ทั้งนี้ จากความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่ง คสช.ได้เข้ามามีส่วนแก้ไขปัญหาดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2557 และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้ที่ประกอบธุรกิจเงินกู้นอกระบบให้มีความทันสมัยและครอบคลุมในทุกพื้นที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งเป็นการดูแลให้เกิดความเป็นธรรมทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้