"สมชัย" เผย กกต.เตรียมตั้งกก.สอบจริยธรรม "ธีรวัฒน์" กรณีพฤติกรรมผิดจริยธรรม ให้ฝ่ายกม.เสนอชื่อกก. ยันไม่ถ่วงเวลา ไม่ปกป้อง รองเลขาฯกกต. ลั่นไม่ประนีประนอม "เก่งการุณ" ขอผ่อนจ่าย 180 งวด งดดอกเบี้ย ค่าชดเชยเลือกตั้งซ่อม 5.3 ล้าน รอศาลอุทธรณ์พิพากษา
วันนี้ (4ต.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง กล่าวว่า ที่ประชุมกกต. มีมติรับทราบหนังสือของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ แจ้งมติของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เห็นว่า นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการกกต. มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมตามที่ประธานสภาพัฒนาการเมืองได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ และดำเนินการตามระเบียบกกต.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของกกต. กกต.จังหวัด และพนักงานกกต. พ.ศ. 2551 แล้ว โดยระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้นายธีรวัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาได้ออกจากห้องประชุม ซึ่งที่ประชุมกกต.ที่เหลือได้พิจารณาโดยมีมติให้ตั้งกรรมการสอบโดยให้สำนักกฎหมาย ของสำนักงานเสนอชื่อกรรมการ 3-5 คนเพื่อดำเนินการตามประมวลจริยธรรมให้กกต.พิจารณาโดยเร็ว ซึ่งประธานคณะกรรมการสอบต้องมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากับผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้กรรมการสอบทั้งหมดอาจเป็นคนในหรือคนนอกก็ได้ โดยที่ประชุมกกต.ยังไมได้มีการพูดคุยกันถึงประเด็นการสอบว่าจะต้องเริ่มสอบใหม่ทั้งหมด หรือจะใช้สำนวนของผู้ตรวจในการสอบสวนต่อ ยืนยันว่า กกต.ไม่มีการรปกป้องหรือดึงเรื่องให้ช้าทุกอย่างเป็นไปตามประมวลจริยธรรมของกกต. แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้กกต.ก็จะทำไปเลยโดยไม่ต้องรอผลสรุปจากปปช.ที่มีผู้ไปร้องเรียนด้วย
สำหรับนายธีรวัฒน์ ถูกสภาพัฒนาการเมืองร้องเรียนว่ากระทำการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ และมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดจริยธรรมอย่างร้ายแรงในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อเนื่องจนดำรงตำแหน่งกกต. ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติยุติเรื่องในประเด็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์เนื่องจากผู้ร้องได้มีการยื่นร้องต่อป.ป.ช.ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อกล่าวหาที่มีต่อนายธีรวัฒน์ จะเข้าองค์ประกอบความผิดตามระเบียบกกต.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของกกต. กกต.จังหวัด และพนักงานกกต. พ.ศ. 2551 หมวด 2 มาตรฐานจริยธรรม ข้อ 4 (1) (2) และข้อ 8 ที่ระบุว่า กกต. กกต.จังหวัด และพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรม อันเป็นค่านิยมหลัก 9 ประการ (1) การยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ( 2) การมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ และข้อ 8 กกต. กกต.จว. และพนักงานทุกคนต้องไม่ประพฤติตนอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งในกลไกและระบบการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้อ 18 วรรคสาม ก็บัญญัติไว้ว่า กรณีมีการร้องเรียนหรือปรากฏเหตุว่ากกต. คนหนึ่งคนใด ประพฤติปฎิบัติฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ให้กกต.ที่เหลืออยู่เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการ
อย่างไรก็ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2552 มาตรา 38 และมาตรา 39 ได้บัญญัติไว้กรณีหากผู้ตรวจแผ่นดินส่งให้เรื่องให้ผู้ที่รับผิดชอบในการบังคับการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมแล้วไม่มีการดำเนินการ หรือเชื่อได้ว่าการดำเนินการของผู้ที่รับผิดชอบจะไม่เป็นไปด้วยความเป็นธรรม ผู้ตรวจฯสามารถไต่สวนและเปิดเผยผลการไต่สวนต่อสาธารณะได้
ด้านนายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติไม่ประนีประนอม กรณีนายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่งหนังสือขอประนีประนอมยอมจากเหตุสำนักงานกกต.กทม.ยื่นฟ้องแพ่งหลังนายการุณถูกสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้รับผิดชอบค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 12 กทม. เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 จำนวนเงิน 5 .2 ล้านบาท ซึ่งศาลแพ่งพิพากษาให้ชดใช้ตามที่กกต.กทม.ยื่นฟ้องไว้ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ของเงิน 5.2 ล้านบาท รวม 5.3 ล้านบาทเศษ ต่อมานายการุณ ยื่นอุทธรณ์แต่ในขณะรอฟังคำพิพากษาก็ได้ขอไกล่เกลี่ย โดยขอชดใช้ค่าเสียหายให้ในจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้และของดเว้นดอกเบี้ย โดยระบุจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ รวม 180 เดือน แต่กกต.เห็นว่าเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป รวมทั้งไม่เห็นด้วยที่มีการของดเว้นดอกเบี้ยเพราะอาจทำให้ราชการเสียหาย จึงมีมติไม่ประนีประนอมยอมความแต่ให้รอฟังคำพิพากษาต่อไป