นายกฯ เสียใจเหตุเรือล่ม “บิ๊กป้อม” สั่ง พม.-มท.เยียวยา “อาคม” ยันเอาผิดเจ้าของเรือ

“ประวิตร” สั่งให้ ก.พัฒนาสังคมฯ และมหาดไทย เยียวยาผู้ประสบภัยเรือล่มอยุธยา ด้านโฆษกรัฐบาลเผย รมว.คมนาคมแจงคณะรัฐมนตรี 3 สาเหตุหลักเรือล่ม บรรทุกหนักเกินเกือบสองเท่า เครื่องชูชีพไม่ครบ ไม่เห็นตอม่อ พร้อมกำชับดูแลขนส่งทั้งระบบ ยันเอาผิดทางแพ่งต่อเจ้าของเรือ และทางอาญา ยกเป็นอุทาหรณ์ รับนายกฯ ฝากแสดงความเสียใจถึงญาติผู้สูญเสีย สั่งสอบใครประมาท ดูกฎหมายจราจรทางน้ำ

วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเรือบรรทุกผู้โดยสารอับปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ว่าขณะนี้ได้ให้กระทรวงคมนาคมไปดูรายละเอียด ส่วนทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยจะดูว่าสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเพราะรัฐบาลเยียวยาเต็มที่ และขณะนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงไปดูแลแล้ว

ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่านายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงสาเหตุว่า ประการแรกสาเหตุที่ทำให้มีอุบัติเหตุและมีการเสียชีวิตจำนวนมากนั้นเนื่องจากเรือลำดังกล่าวสามารถรับผู้โดยสารได้จำนวนหนึ่ง แต่ในขณะเกิดเหตุนั้นบรรทุกไปเกือบสองเท่าของจำนวนผู้โดยสารที่จะรับได้อย่างปลอดภัย ผู้ที่ควบคุมเรือก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว่าจะให้ทำอย่างไรในเมื่อโดยสารเขาจะขึ้นมา ประการที่ 2 ผู้โดยสารเองทั้งที่เห็นแล้วว่าเรือค่อนข้างจะเต็มและแออัดแต่ยังจะใช้บริการ รวมถึงคือเครื่องชูชีพที่จะใช้ช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็มีไม่ครบ และประการสุดท้ายคือตอม่อจุดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซึ่งติดอยู่กับโป๊ะ โดยเวลาปกติเมื่อน้ำน้อยจะมองเห็น แต่เมื่อน้ำมากก็จะจมใต้น้ำทำให้เรือมองไม่เห็นจนเกิดการชนขึ้น อีกทั้งโป๊ะท่าดังกล่าวไม่ใช่ของส่วนราชการ แต่เป็นที่วัดจัดทำขึ้น ทั้งหมดนี่คือสาเหตุหลัก

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการมาว่า ขั้นตอนแรกให้สอบสวนกันว่ามีใครทีมีส่วนเกี่ยวข้องในการประมาทเลินเล่อ หรือคิดถึงแต่เรื่องผลกำไรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จากนั้นก็ดูในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจรทางน้ำที่มีอยู่แล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องละเลยไม่ปฏิบัติ ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารเองก็อาจขึ้นเรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจำนวนนั้นแน่นเกินไป และในส่วนตัวโป๊ะนั้นอาจต้องใช้อำนาจในการตรวจสอบซึ่งรวมไปถึงโป๊ะท่าเรืออื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้ฝากแสดงความเสียใจไปยังญาติผู้สูญเสียที่ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 26 ราย และยังหาไม่เจออีก 3 ราย และฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องทุกฝ่ายดำเนินการสอบสวน พักใบอนุญาต

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า ต้องดำเนินการทั้งทางแพ่งต่อเจ้าของเรือ และทางอาญาต่อผู้ควบคุมเรือ นอกจากนี้ยังกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปกำกับดูแล ตรวจสอบการเดินทาง การขนส่งสาธารณะที่ไม่เฉพาะทางเรืออย่างเดียว โดยให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก