xs
xsm
sm
md
lg

ตุลาการเสนอศาลปกครองยกฟ้องคดีค้านเขื่อนแม่วงก์ ชี้มติ ครม.ดำเนินการโดยชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตุลาการผู้แถลงคดี เสนอศาลปกครองสั่งยกฟ้องคดีเครือข่ายคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ ร้องเพิกมติ ครม.ที่ให้สร้างเขื่อน เหตุมอง ครม.ดำเนินการโดยชอบแล้ว นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยังหวังศาลเพิกถอน ย้อนตุลาการอ้าง ม.58 รัฐธรรมนูญใหม่ที่ยังไม่มีผลบังคับ

วันนี้ (14 ก.ย.) ศาลปกครองกลางออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมเครือข่ายคัดค้านสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ รวม 151 คน ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น), คณะรัฐมนตรี อธิบดีกรมชลประทาน (นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) และ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายธีระ วงศ์สมุทร ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการอนุมัติดำเนินการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ โครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่กำหนดให้ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากชาวบ้าน ผู้มีส่วนได้เสีย ตามที่รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง ให้การคุ้มครองไว้ครบถ้วนเสียก่อน โดยขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2555 เกี่ยวกับการเห็นชอบการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในส่วนที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี อธิบดีกรมชลประทาน และรมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างทั่วถึงก่อนดำเนินการ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ครบถ้วน และให้มีการจัดทำประชามติด้วย โดยศาลได้ให้คู่กรณีสองฝ่ายแถลงปิดคดี แต่คู่กรณีทั้งฝ่ายไม่ประสงค์แถลงเพิ่มเติมแต่จัดทำคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาลพิจารณาแทน

จากนั้น นายวิจิตต์ รักถิ่น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการผู้แถลงคดี ได้เสนอความเห็นในคดีโดยไม่ผูกพันคำพิพากษาต่อองค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวน ว่าสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวแม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณาดำเนินโครงการเขื่อนแม่วงก์เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง และแก้ปัญหาอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมาอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2532 และต่อมาคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2555 มีมติเห็นชอบให้กรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยจะใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 13,280 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างถึง 8 ปี โดยผูกพันงบประมาณถึงปีงบประมาณ 2562 แต่มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวยังไม่ได้อนุมัติให้เริ่มก่อสร้าง เนื่องจากเขื่อนแม่วงก์เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 กำหนดว่า การดำเนินการใดของรัฐหรืออนุญาตให้ผู้ใดดำเนินการโครงการผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง รัฐต้องดำเนินการศึกษาและประเมินผลกระทบนั้นก่อน และในการอนุญาตให้ดำเนินการโครงการดังกล่าว รัฐต้องระมัดระวังให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และต้องให้มีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายให้แก่ประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า ดังนั้นการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาจึงชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาองค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนได้จบกระบวนการพิจารณา และจะนัดให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาฟังคำพิพากษาในภายหลัง

ภายหลังการพิจารณา นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า ตนยังมีความมั่นใจว่าศาลปกครองจะพิจารณาเพิกถอนคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2555 เกี่ยวกับการเห็นชอบการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ตามที่ชาวบ้านร้องขอ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ตามที่รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสองให้การคุ้มครองไว้ แต่ความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีที่เสนอให้ยกฟ้องนั้นเป็นการอ้างข้อบัญญัติ มาตรา 58 ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านประชามติ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้










กำลังโหลดความคิดเห็น