รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยัน พรรคพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมือง แต่ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ ห่วงหนีเสือปะจระเข้ แนะยึดความพอดี ฝากคิดถึงปัญหาใช้เงินเข้าสู่อำนาจเพื่อทุจริต ภายใต้ระบอบธนาธิปไตย แนะ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาปราบปรามการซื้อเสียง ออกกติกาป้องกันนักการเมืองไม่ให้แสวงหาประโยชน์
วันนี้ (11 ก.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการออกกฎหมายลูกหลายฉบับที่ สปท. มีข้อเสนอแนะให้ปรับเปลี่ยนกฎกติกามากมายหลายประการนั้น เห็นว่า สปท. คงมีเจตนาที่ดีอยากให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ในส่วนของพรรค ประชาธิปัตย์ พร้อมน้อมรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ทำให้การเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเราเห็นด้วยกับการปฏิรูปการเมือง และการปฏิรูปด้านต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้าสามารถปฏิรูปก่อนเลือกตั้งได้ยิ่งเป็นเรื่องที่ดีแต่การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ควรคำนึงถึงข้อเท็จจริงในการปฏิบัติด้วยไม่ควรคำนึงถึงทฤษฎีอย่างเดียว เพราะมีหลายครั้งที่ทฤษฎีสวนทางกับการปฏิบัติ และทำให้ไม่สามารถปฏิบัติได้จริงในอดีตที่ผ่านมามีความพยายามปรับเปลี่ยนกฎกติกาหลายครั้ง เพื่อให้การเมืองไทยดีขึ้น แต่พอปฏิบัติจริงกลับเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ทางที่ดีทุกฝ่ายควรยึดหลักความพอดีที่สามารถทำให้เดินหน้าต่อไปได้
“อยากฝากให้ กรธ. ซึ่งต้องทำหน้าที่ร่างกฎหมายลูกหลายฉบับคำนึงถึงปัญหาหลักของการเมืองไทยคือ การใช้เงินเข้าสู่ระบบอำนาจทางการเลือกตั้งแล้วใช้อำนาจไปทุจริต เพื่อหาเงินมาใช้ทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมามีอำนาจจนกลายเป็นวงจรอุบาทภายใต้ระบอบธนาธิปไตย” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า เพื่อให้กฎหมายลูกเป็นประโยชน์ต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้นจึงขอฝากให้ กรธ. พิจารณาประเด็นที่สำคัญดังนี้ 1. การป้องกันปราบปรามการซื้อเสียงทุกรูปแบบ ทั้งการเมืองระดับชาติและการเมืองระดับท้องถิ่น 2. การป้องกันปราบปรามนักการเมืองผู้มีอำนาจ ไม่ให้ทุจริต และแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ และ 3. การป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษเกินขอบเขต ถ้า กรธ. สามารถออกกฎเกณฑ์กติกาป้องกันการใช้เงินเป็นใบเบิกทางเข้าสู่อำนาจและใช้อำนาจไปทุจริตได้ ก็ถือได้ว่า กรธ. มีส่วนอย่างสำคัญในการทำให้การเมืองไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
