นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า อยากให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ร่างกฎหมายลูก โดยคำนึงถึงปัญหาหลักของการเมืองไทย คือการใช้เงินเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งที่นำไปสู่การทุจริต โดยขอให้พิจารณา 3 ประเด็นที่จะเป็นประโยนช์ต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ดีขึ้น คือ 1.การป้องกันปราบปรามการซื้อเสียงทุกรูปแบบทั้งการเมืองระดับชาติ และการเมืองระดับท้องถิ่น 2. การป้องกันปราบปรามนักการเมืองผู้มีอำนาจ ไม่ให้ทุจริต และแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ และ 3.การป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษเกินขอบเขต
นายองอาจ กล่าวอีกว่า หาก กรธ.ออกกฎเกณฑ์ป้องกันการใช้เงินในการทุจริตเพื่อให้ได้อำนาจ จะทำให้การเมืองไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น หลุดจากวงจรอุบาทว์ ภายใต้ระบอบธนาธิปไตยได้
ส่วนข้อเสนอแนะการออกกฎหมายลูกที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้ปรับเปลี่ยนกติกาหลายเรื่อง นายองอาจ กล่าวว่า เป็นเจตนาดีที่อยากให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และเห็นด้วยกับการปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะหากสามารถทำได้ก่อนการเลือกตั้ง แต่ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติไม่ใช่ทฤษฎีเพียงอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมีความพยายามปรับเปลี่ยนกติกาหลายครั้ง เพื่อให้การเมืองไทยดีขึ้น แต่พอปฏิบัติจริงกลับเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เพราะหลายทฤษฎีสวนทางกับการปฏิบัติ ดังนั้นทุกฝ่ายควรยึดหลักความพอดี
นายองอาจ กล่าวอีกว่า หาก กรธ.ออกกฎเกณฑ์ป้องกันการใช้เงินในการทุจริตเพื่อให้ได้อำนาจ จะทำให้การเมืองไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น หลุดจากวงจรอุบาทว์ ภายใต้ระบอบธนาธิปไตยได้
ส่วนข้อเสนอแนะการออกกฎหมายลูกที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้ปรับเปลี่ยนกติกาหลายเรื่อง นายองอาจ กล่าวว่า เป็นเจตนาดีที่อยากให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และเห็นด้วยกับการปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะหากสามารถทำได้ก่อนการเลือกตั้ง แต่ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติไม่ใช่ทฤษฎีเพียงอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมีความพยายามปรับเปลี่ยนกติกาหลายครั้ง เพื่อให้การเมืองไทยดีขึ้น แต่พอปฏิบัติจริงกลับเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เพราะหลายทฤษฎีสวนทางกับการปฏิบัติ ดังนั้นทุกฝ่ายควรยึดหลักความพอดี