อดีต ส.ส. กทม. ประชาธิปัตย์ อวดแถลงปูดโกงประปา จน รมว.มหาดไทย ต้องเรียกผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค แจง เผยยื่น ป.ป.ช. สอบจัดซื้อคลอรีนเหลวและวางท่อแล้ว จ่อทยอยยื่นทุกสัปดาห์รวม 20 เรื่อง ยีนพร้อมออกทีวีแจงข้อกล่าวหากับบิ๊กประปา ถ้าคิดว่าพูดเท็จให้ไปฟ้อง เชื่อสหภาพแรงงานฯ แถลงจวกเหตุ กปภ. เอามิเตอร์ทองเหลืองไปขายโดยไม่ลงบัญชี ไล่ไปตรวจสอบบ้าง ถ้าทำจริงมีผู้จัดการสาขาเกินครึ่งต้องเข้าคุก
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความคืบหน้าในการติดตามปัญหาการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาค ว่า หลังจากที่ตนได้แถลงข่าวไป พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เรียก นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ไปพบเพื่อชี้แจง และตนได้ยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีการจัดซื้อคลอรีนเหลวและการวางท่อประปาไปแล้ว โดยจะทยอยยื่นอีกสัปดาห์ละเรื่อง ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 20 เรื่อง และขอเรียกร้องไปยังสหภาพการประปาส่วนภูมิภาคที่มีการออกแถลงการณ์จะรักษาองค์กรร่วมมือในการปราบปรามทุจริต แต่มีการระบุว่า ตนเป็นผู้ประโคมข่าว ซึ่งต้องชี้แจงว่าตนไม่ได้ประโคมข่าวแต่กล่าวหาจากข้อเท็จจริงไม่มีเจตนาร้ายต่อการประปาส่วนภูมิภาค หรือรังเกียจบุคคลใดบุคคลหนึ่งทั้งสิ้น แต่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงอยากให้สหภาพฯ ได้รับทราบ ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่ตนแถลงข่าวก็พร้อมที่จะออกรายการกับผู้บริหารการประปาฯหรือใครก็ได้ที่ทำงานในองค์กรดังกล่าวเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา และหากคิดว่าสิ่งที่ตนแถลงไปละเมิดหรือกล่าวเท็จขอให้ดำเนินคดีได้ตนพร้อมที่จะสู้ทุกคดี
“ผมคิดว่า สาเหตุที่มีการออกแถลงการณ์ของสหภาพมาจากกรณีที่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาต่าง ๆ เอามิเตอร์ที่มีแกนมาตรทองเหลืองไปขายโดยไม่ลงบัญชีเกือบทุกสาขา เพราะเกี่ยวพันกับคนส่วนใหญ่ในองค์กร จึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเพราะทำได้ง่าย ๆ ด้วยการไปดูช่วงปี 52 - 57 มีการเปลี่ยนมิเตอร์เป็นท่อพีอีเท่าไหร่ ก็จะต้องมีแกนทองเหลืองกลับมาเท่านั้น หากไม่มีการขายไปก็ต้องมีของเดิมเปลี่ยนกลับมาเป็นบัญชีคงเหลือ และไปดูบัญชีว่ามีการโอนเข้าผู้จัดการสาขาต่าง ๆ ของการประปาส่วนภูมิภาคหรือไม่ ขอให้สหภาพฯ ไปตรวจสอบซึ่งเชื่อว่าไม่เกิน 30 วัน ก็จะรับทราบและขอให้ประโคมข่าวออกมาด้วยว่าใครโกง ใครทุจริต องค์กรจะได้มีความโปร่งใส หากตรวจสอบอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่าจะมีผู้จัดการสาขา เกินครึ่งที่ต้องเข้าคุก” นายวิลาศ กล่าว
