รองนายกฯ ระบุ “มีชัย” ส่งคนไปศึกษาการจัดเลือกตั้งที่อินเดีย เพราะมีประชากรนับพันล้านแต่ใช้ กกต.เพียงคนเดียว บอกที่สุดแล้ว กกต.ไทยก็ต้องใช้ 7 คนตามที่ รธน.กำหนด ส่วนแนวทางการบริหารจัดการเลือกตั้งคงไม่พ้น 3 โมเดล คือให้ กกต.จัดเลือกตั้ง หรือ กกต.แค่วางระเบียบ พร้อมแจกใบเหลือง ใบแดง และให้องค์กรอื่นจัดการ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้คนไปศึกษาการจัดการเลือกตั้งของประเทศอินเดียที่มีประชากรพันกว่าล้านคน แต่มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพียง 1 คนที่ทำหน้าที่จับตาดูและมีคนกำกับดูแลเลือกตั้งว่า นายมีชัยเคยปรารภให้ฟังซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งเขาก็ให้หน่วยงานอื่นไปจัดการให้ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน
“ส่วนใหญ่หลายประเทศในโลกมีคนเดียว แต่พอต่างชาติมาดูงานประเทศเราที่มีผู้ตรวจฯ ถึง 3 คน เขาก็บอกว่ามันเยอะ แต่สำหรับรัฐธรรมนูญไทยวันนี้ระบุไว้แล้วว่า กกต.ต้องมี 7 คน แล้วจะกลับไปใช้ 1 คนได้อย่างไร จะไปฆ่าอีก 6 คนได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากให้ กกต.เพียงคนเดียวจัดการเลือกตั้งจะรับมือกับแรงกดดันไหวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องของแรงกดดัน เพราะในต่างประเทศไม่มีแรงกดดันอะไร แต่ประเทศไทยมีแรงกดดันทั้งนั้น และการที่เขามีอำนาจเพราะเขาเป็นผู้จัดวางระเบียบ จากนั้นเขาก็ไปให้คนอื่นปฏิบัติ จึงถูกต้องแล้วที่ กรธ.จะให้คนไปศึกษาอินเดียโมเดลหรือจะโมเดลสารพัดรูปแบบในโลก แต่เชื่อเถอะว่าสุดท้ายแล้วจะจบแบบ 3 โมเดลเท่านั้น คือ 1. ให้ กกต.เป็นคนจัดอำนวยการตั้งแต่ต้นจนจบ 2. ให้ กกต.เป็นคนจัดวางระเบียบหรือเรกูเลเตอร์ คือเป็นผู้แจกใบเหลือง-ใบแดง ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติหรือโอเปอเรเตอร์ให้ใช้เจ้าหน้าที่ของฝ่ายบริหารปกติ และ 3. ให้องค์กรอื่นเข้ามาจัดการ หากมีองค์กรอื่นเข้ามาช่วยไม่ต้องไปนึกว่าเป็นกระทรวงมหาดไทย แต่หากสมมติว่าจะเอามาก็ได้ อาจจะเป็นครู แพทย์ พยาบาล หรือผู้สื่อข่าวก็ได้ทั้งนั้น
ส่วนแนวคิดของนายมีชัยที่ให้คนไปศึกษาก็เพื่อให้เห็นการทำงานของ กกต.ของเรา นายวิษณุกล่าวว่า ก็ถูกต้อง ท่านต้องการนำมาดูและเปรียบเทียบ เพราะท่านเคยพูดกับตนว่าคนพูดกันมากว่า กกต.อินเดียมี 1 คนแต่ทำไมเขาทำได้อย่างไร ทั้งนี้เราอาจจะเรียกเขามาศึกษาที่ไทยหรือจะไปดูงานที่อินเดียก็ได้