“บิ๊กป้อม” เผยเสียใจเหตุบึ้ม ร.ร.ตากใบ สั่งด่วน มทภ.4 บูรณาการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำ รับมีช่องว่างการข่าว ย้ำเหตุรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เผยรถไฟสายใต้เปิดบริการ 10 ก.ย. แจงรู้เหตุก่อนว่าจะเกิดแต่ขั้นตอนช้า ขอสื่ออย่าซ้ำเติม จนท. แจงยังไม่มีกำหนดเซฟตี้โซน ยัน ปชช.พื้นที่ส่วนมากยังเข้าข้าง รบ. ย้ำ กกต.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ปม มท.จัดแทนยังไม่ชัดเจน ตลกคำถามเซตซีโร่พรรคการเมือง
วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.40 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายว่า รู้สึกเสียใจกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เราเองพยายามทำเรื่องนี้อยู่แล้วในเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เมื่อสักครู่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 โดยสั่งการลงไปว่าให้บูรณาการกันให้ได้ระหว่างตำรวจ ทหาร ข้าราชการมหาดไทย ที่ต้องช่วยเหลือดูแลในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก
“โดยเฉพาะงานด้านการข่าว ในพื้นที่จะต้องลงลึกไปในพื้นที่ให้ได้ ให้ประชาขนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งได้สั่งการแล้ว และแม่ทัพภาคที่ 4 คงได้ไปประชุมเพื่อบูรณาการให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการ”
เมื่อถามว่า ยอมรับใช่หรือไม่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาด้านการข่าว พล.อ.ประวิตรกล่าวยอมรับว่าจะมีช่องว่างเกี่ยวกับงานด้านการข่าว ทั้งเรื่องเน็ตเวิร์ก และงานด้านการข่าวซึ่งเราอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขที่จะบูรณการให้เกิดความชัดเจนให้ได้
เมื่อถามว่า เหตุใดเหตุการณ์รุนแรงจึงกลับมาเกิดขึ้นอีกในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อย่าไปพูดว่าเหตุการณ์รุนแรงใหญ่ๆ กลับมา และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดทั่วทุกพื้นที่ เกิดเพียงบางพื้นที่และไม่ได้บ่อย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ระวังให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์รุนแรงก็เกิดขึ้นบ้าง เพราะทำอย่างไรได้ เนื่องจากคนหนึ่งจ้องจะทำ แต่อีกฝ่ายก็ทำเพียงแต่เฝ้าระวังและป้องกัน ทั้งนี้เราต้องดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ยืนยันอีกครั้งว่าเหตุการณ์รุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เพิ่งเกิดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเหตุระเบิดรถไฟแต่เราก็พยายามแก้ไขในส่วนของเส้นทางรถไฟ ทางการรถไฟยืนยันว่าในวันที่ 10 ก.ย.จะเปิดการเดินรถไฟสายใต้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทางด้านการข่าวจะมีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ได้บอกไปแล้วว่ากำลังปรับปรุงอยู่ ต้องบูรณาการและช่วยกัน เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พยายามทำงานเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรง เมื่อถามว่า ถือว่าการข่าวมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ เพราะเกิดเหตุการณ์รุนแรง 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถป้องกันได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การข่าวไม่ได้คลาดเคลื่อนและเราก็รู้ก่อน อย่างกรณีของรถไฟก็รู้ แต่ขั้นตอนและกระบวนการมันช้า อย่างเหตุการณ์ที่หน้าโรงเรียนบ้านตาบานั้นก็รู้ก่อน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาตั้งแต่เมื่อวาน (5 ก.ย.) ตนก็ได้เตือนไปตั้งแต่วานนี้แล้ว แต่อย่าไปพูดว่าเป็นความบกพร่องของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำงานอย่าไปซ้ำเติม เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ทุกคนก็เสียใจเต็มที่อยู่แล้ว สื่ออย่าไปซ้ำเติมอีก นอกจากจะไม่ทำแล้วชอบไปพูดกันอีก
เมื่อถามว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงเป็นพื้นที่เซฟตี้โซนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าพื้นที่ใดเป็นเซฟตี้โซน และก็ไม่ใช่พื้นที่สีแดง ประเทศไทยไม่มีพื้นที่สีแดง ทุกพื้นที่เข้าได้หมด ยืนยันว่าตอนนี้ประชาชนในพื้นที่ยังเข้าข้างฝ่ายรัฐเหมือนเดิม มีเพียงบางคน และบางส่วนเท่านั้นซึ่งมีไม่มาก เมื่อถามว่ากลุ่มเห็นต่างในพื้นที่ยังคงเป็นกลุ่มเดิมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มันก็เป็นกลุ่มเดิมๆ ไม่มีกลุ่มใหม่
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งแทน กกต. ว่าประเด็นนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะการจัดการเลือกตั้งเป็นเรื่องของ กกต. คำว่า กกต.นั้นมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีอำนาจจะตั้งเป็นองค์กรอิสระได้อย่างไร ฉะนั้น กกต.จึงเกี่ยวกับการเลือกตั้งอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่ในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการเลือกตั้ง แต่ผู้ปฏิบัติอาจใช้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ กกต.อาจจะขอยืม หรือใช้นักศึกษาวิชาทหาร มากกว่าที่จะใช้ข้าราชการ น่าจะเป็นอย่างนั้น ตนยังไม่รู้ว่าเขาจะใช้แบบไหนเพราะไม่ใช่ กกต. ถ้าตนเป็น กกต.ก็จะตอบสื่อเลย เรื่องนี้ต้องให้ กกต.ดำเนินการสรุป และสื่อต้องไปถาม กกต. ไม่ใช่มาถามตน และ คสช.ก็ไม่ต้องไปกำหนดอะไร
เมื่อถามว่าส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่ว่า กกต.ควรมีอำนาจจัดการเลือกตั้งต่อไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กกต.มีหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรเป็นเรื่องของเขา ส่วนแนวคิดการเซตซีโร่พรรคการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะเป็นเซตที่ไหนก็ไปเถอะ ใน คสช.ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ เป็นคำถามที่ตลกที่สุด