เผยชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมคุมตัวผู้ต้องสงสัยวางระเบิดรถไฟที่โคกโพธิ์เข้าซักถามในค่ายอิงคยุทธ ยังไม่ฟันธงใช้หรือไม่ ต้องรอผลดีเอ็นเอยืนยันก่อน เผยการเดินรถไฟ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังอัมพาตต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 คาดกู้โบกี้และซ่อมรางภายใน 10 วัน ตั้งเป้าเสร็จก่อนวันฮารีรายอ 12 ก.ย.นี้ "บิ๊กป้อม"สั่งทหาร ตำรวจ คุมเข้มเส้นทางรถไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม ได้จัดกำลังเข้าปิดล้อมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งไปซักถามขยายผลที่หน่วยซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยจากรายงานพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้เคยร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ โดยขณะนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนยังคงต้องรอผลการยืนยันหลักฐานดีเอ็นเอจากที่เกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง อีกด้าน เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ได้มีการเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กับ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อติดตามหาคนร้าย
สำหรับบรรยากาศการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเป็นอัมพาตต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟสถานีย่อยบ้านนิคมโคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้รางรถไฟและโบกี้รถไฟเสียหายหนัก และนายชวลิต คงปาน พนักงาน เสียชีวิต เนื่องจากการกู้โบกี้รถไฟ รวมทั้งการซ่อมแซมรางยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้รถไฟทุกขบวนยังคงตั้งต้นและสิ้นสุดการเดินทางที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น
โดยที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวานนี้ บรรยากาศการเดินทางด้วยรถไฟเป็นไปอย่างเงียบเหงาและผู้โดยสารลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง เนื่องจากหันไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ แทน โดยสถานีรถไฟหาดใหญ่ ได้ให้บริการรถบัสรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถสายยาวกรุงเทพฯ ที่มีการจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ววันละ 1 คัน เพื่อไปส่งยังปลายทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งรถตู้อีก 1 คัน
นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ กล่าวถึงแผนการกู้โบกี้รถไฟและซ่อมแซมรางที่เสียหาย ว่า จะเร่งให้แล้วเสร็จตามแผนภายใน 10 วันหลังจากนี้ โดยเบื้องต้นน่าจะยกโบกี้ที่ขาด 2 ท่อนออกจากจุดเกิดเหตุได้ แต่อาจจะต้องยกใส่รถบรรทุกกลับมาที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพราะเสียหายมาก ทั้งนี้ การซ่อมแซมราง หากเป็นไปได้ ก็จะให้แล้วเสร็จก่อนวันฮารีรายอ 12 ก.ย.นี้ เพื่อให้บริการชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟยะลา บรรยากาศเงียบเหงาเช่นเดียวกัน โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการแจ้งประกาศสำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วไปแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางได้ สามารถนำตั๋วมาคืนกับทางสถานีและสามารถขอรับเงินคืนได้เต็มจำนวนได้ที่สถานีรถไฟใกล้บ้าน ขณะเดียวกัน พบว่า ที่สถานีขนส่งรถตู้โดยสาร ปรากฏว่ามีประชาชนไปรอขึ้นรถกันจำนวนมากจนรถตู้โดยสารไม่เพียงพอ จะต้องใช้รถเสริมเข้ามาวิ่งแทน
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางเส้นทางรถไฟ เพราะผู้ที่ใช้บริการรถไฟส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและยากจน
เช่นเดียวกับบรรยากาศที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ยังคงเงียบเหงาต่อเนื่อง เนื่องจากการรถไฟฯ ยังไม่สามารถให้บริการได้ โดยที่บริเวณสถานีมีเพียงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ที่ส่วนหนึ่งรอขายตั๋วและรับคืนตั๋วจากผู้โดยสาร ขณะที่อีกส่วนเป็นกลุ่มคนงานที่ซ่อมแซมอุปกรณ์รางรถไฟที่ชำรุด เพื่อรอการใช้งาน ส่วนการให้บริการรถรับจ้างทั่วไปเงียบเหงาด้วยเช่นกัน
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปแล้ว ทั้งทหาร ตำรวจ การรถไฟ ซึ่งต่อไปต้องร่วมมือกันให้มากกว่านี้ในการทำงานระหว่างพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรางรถไฟให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม ได้จัดกำลังเข้าปิดล้อมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งไปซักถามขยายผลที่หน่วยซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยจากรายงานพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้เคยร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ โดยขณะนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนยังคงต้องรอผลการยืนยันหลักฐานดีเอ็นเอจากที่เกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง อีกด้าน เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ได้มีการเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กับ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อติดตามหาคนร้าย
สำหรับบรรยากาศการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเป็นอัมพาตต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟสถานีย่อยบ้านนิคมโคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้รางรถไฟและโบกี้รถไฟเสียหายหนัก และนายชวลิต คงปาน พนักงาน เสียชีวิต เนื่องจากการกู้โบกี้รถไฟ รวมทั้งการซ่อมแซมรางยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้รถไฟทุกขบวนยังคงตั้งต้นและสิ้นสุดการเดินทางที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น
โดยที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวานนี้ บรรยากาศการเดินทางด้วยรถไฟเป็นไปอย่างเงียบเหงาและผู้โดยสารลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง เนื่องจากหันไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ แทน โดยสถานีรถไฟหาดใหญ่ ได้ให้บริการรถบัสรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถสายยาวกรุงเทพฯ ที่มีการจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ววันละ 1 คัน เพื่อไปส่งยังปลายทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งรถตู้อีก 1 คัน
นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ กล่าวถึงแผนการกู้โบกี้รถไฟและซ่อมแซมรางที่เสียหาย ว่า จะเร่งให้แล้วเสร็จตามแผนภายใน 10 วันหลังจากนี้ โดยเบื้องต้นน่าจะยกโบกี้ที่ขาด 2 ท่อนออกจากจุดเกิดเหตุได้ แต่อาจจะต้องยกใส่รถบรรทุกกลับมาที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพราะเสียหายมาก ทั้งนี้ การซ่อมแซมราง หากเป็นไปได้ ก็จะให้แล้วเสร็จก่อนวันฮารีรายอ 12 ก.ย.นี้ เพื่อให้บริการชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟยะลา บรรยากาศเงียบเหงาเช่นเดียวกัน โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการแจ้งประกาศสำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วไปแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางได้ สามารถนำตั๋วมาคืนกับทางสถานีและสามารถขอรับเงินคืนได้เต็มจำนวนได้ที่สถานีรถไฟใกล้บ้าน ขณะเดียวกัน พบว่า ที่สถานีขนส่งรถตู้โดยสาร ปรากฏว่ามีประชาชนไปรอขึ้นรถกันจำนวนมากจนรถตู้โดยสารไม่เพียงพอ จะต้องใช้รถเสริมเข้ามาวิ่งแทน
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางเส้นทางรถไฟ เพราะผู้ที่ใช้บริการรถไฟส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและยากจน
เช่นเดียวกับบรรยากาศที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ยังคงเงียบเหงาต่อเนื่อง เนื่องจากการรถไฟฯ ยังไม่สามารถให้บริการได้ โดยที่บริเวณสถานีมีเพียงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ที่ส่วนหนึ่งรอขายตั๋วและรับคืนตั๋วจากผู้โดยสาร ขณะที่อีกส่วนเป็นกลุ่มคนงานที่ซ่อมแซมอุปกรณ์รางรถไฟที่ชำรุด เพื่อรอการใช้งาน ส่วนการให้บริการรถรับจ้างทั่วไปเงียบเหงาด้วยเช่นกัน
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปแล้ว ทั้งทหาร ตำรวจ การรถไฟ ซึ่งต่อไปต้องร่วมมือกันให้มากกว่านี้ในการทำงานระหว่างพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรางรถไฟให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว