เมืองไทย 360 องศา
“ข้อเสนอเรื่องร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองที่จะเสนอต่อ กรธ.นั้น มีสาระสำคัญคือ ต้องการให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยหนึ่งในแนวทางที่จะเสนอคือ การให้สมาชิกพรรคต้องเสียค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกพรรคปีละไม่เกิน 200 บาท ซึ่งจะมีการเซตบัญชีสมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรคใหม่ทั้งหมด โดยทุกพรรคการเมืองต้องให้สมาชิกพรรคมาแสดงเจตจำนงยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคใหม่ทั้งหมด เพื่อจัดเก็บลงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ชัดเจน แต่ยังสามารถใช้ชื่อพรรคเดิมได้”
“ที่ผ่านมาตัวเลขสมาชิกพรรคที่กล่าวอ้างกันว่ามีสมาชิกพรรคสิบกว่าล้านคน ไม่ใช่ตัวเลขจริงทั้งหมด มีการแอบอ้างชื่อ โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมหรือไม่รู้เรื่อง ดังนั้นจะต้องมาเซตระบบใหม่ทั้งหมด แต่ไม่ถึงขั้นเป็นการเซตซีโร่ล้างใหม่ เป็นแค่การให้มายืนยันว่าจะเป็นสมาชิกพรรคเดิม หรือเปลี่ยนไปอยู่พรรคใหม่ หากใครไปสวมรอยรายชื่อผู้อื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค โดยการออกเงินค่าธรรมเนียมให้ จะมีความผิดเข้าข่ายการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก 10 ปี”
เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯ ต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 กฎหมายลูกที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้รองรับกับการเลือกตั้งในปลายปี 2560 และแม้ว่ายังไม่ใช่ข้อสรุป แต่เขาก็เปิดเผยว่านั่นเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่เอาด้วยแบบนั้น โดยจะหาข้อสรุปอีกครั้งในวันที่ 6 กันยายนนี้
หากผลออกมาเป็นแบบนั้นและเมื่อเสนอไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของ มีชัย ฤชุพันธุ์ แล้วผ่านขึ้นมา มันก็ไม่ต่างจาก “ระเบิดลงกลางพรรคใหญ่” นั่นแหละ และที่สำคัญหากออกมาแบบนี้จริง มันก็ไม่ต่างจาก “เซตซีโร่” พรรคการเมืองที่พูดถึงกันก่อนหน้านี้ และที่ผ่านมา มีชัย ฤชุพันธุ์ ก็เคยพูดถึง และไม่ปฏิเสธแนวทางแบบนี้มาแล้ว
แม้ว่ายังต้องรอข้อสรุปใหัดเจนก่อนว่าจะเป็นแบบไหน แต่เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศและแนวโน้มแล้วมันก็มีความเป็นไปได้สูง
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งแน่นอนว่าในมุมของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องได้รับผลกระทบกันไปเต็มๆ อย่างน้อยการเคลมว่าพรรคของตัวเองที่มีสมาชิกนับสิบๆ ล้าน ก็จะต้องมีการตรวจสอบเช็กบัญชีกันใหม่
อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันอีกแง่หนึ่งมันก็น่าสนใจเหมือนกัน ในเรื่องของข้อมูลการมีตัวตนแบบปัจจุบัน มีการเคลื่อนไหวตามจริง เป็นการวัดกระแสความนิยมของพรรคการเมืองได้ตลอดเวลา เหมือนกับการบังคับให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และยิ่งการที่ประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคต้องเสียค่าสมัครบำรุงพรรคจำนวนหนึ่ง เพื่อลดอิทธิพลการครอบงำพรรคจากกลุ่มทุน มันก็สนใจเหมือนกัน
อีกทั้งหากมีความเข้มงวดในการตรวจสอบรื้อบัญชีสมาชิกพรรคกันใหม่ว่าแท้จริงแล้วมีอยู่กี่คนกันแน่ และประเภทนำบัตรประชาชนไปเซ็นต์ชื่อลงสมัครและจ่ายค่าสมาชิกให้เสร็จสรรพ เหมือนกับทำบัญชีผีแบบนี้มีโทษถึงจำคุกสูงสุด 10 ปี มันก็เหมือนกับการวัดความนิยมไปในตัวว่าของจริงหรือของปลอม หรือปั่นตัวเลขสร้างกระแสโน้มน้าวแบบอุปทานหมู่
แต่สำหรับในมุมของพรรคการเมือง เชื่อเถอะว่าต้องออกมารุมค้านรุมสวดกันขรมแน่ กล่าวหาว่าจ้องทำลายพรรคการเมืองในปัจจุบันไม่ให้เติบโต และที่สำคัญมีเจตนามาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นความต้องการของผู้มีอำนาจที่ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแออย่างน้อยก็ในช่วง 5 ปีแรก ที่มีบทเฉพาะกาล เปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกเข้ามาได้ รวมไปถึงการกำหนดวิธีการนับคะแนนการเลือกตั้งในแบบ “สัดส่วนผสม” จนเชื่อกันว่าจะไม่มีพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งแบบเด็ดขาด ส่งผลให้ต้องมีรัฐบาลผสม ที่เอื้อต่อการโหวตเลือกคนนอกเข้ามาอะไรประมาณนี้
แต่ถ้ามองในแง่ของการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พรรคการเมืองที่ต้องการให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นของนายทุน หรือของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง จนมีสภาพไม่ต่างจากบริษัทในครอบครัว และใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือเบิกทางสำหรับทำธุรกิจการเมืองจนร่ำรวยทั้งทรัพย์สินเงินทอง อำนาจ แต่หากทำให้พรรคการเมืองกำหนดโดยเสียงของสมาชิก ขนาดของพรรควัดจากสมาชิกพรรค มีการโหวตเลือกผู้สมัครของพรรค หากทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ปรุงแต่งจนเกินพอดี มันก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเหมือนกัน และทำให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งด้วยตัวของมันเอง
ดังนั้น แม้ว่านี่อาจจะยังไม่ใช่ข้อสรุปเรื่องการเซตซีโร่ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ อาจะป็นแค่หยั่งท่าที หรือเป็นแค่กระตุ้นให้เกิดความคิดเห็นตามมาเพื่อให้ตกผลึก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เชื่อว่าในพระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับใหม่จะต้องออกกฎบังคับพรรคอย่างเข้มงวด เพราะหลักการที่ชูธงมาล่วงหน้าแล้วว่า ทุกพรรคต้องปลอดนายทุนครอบงำ แต่ต้องเป็นของสมาชิกทุกคน มันถึงเป็นไปได้เหมือนกันว่า บางพรรคที่อ้างว่ามีสมาชิกหลายสิบล้าน หากสำรวจและยืนยันตัวตนกันจริงๆ แล้วจะมีอยู่จำนวนเท่าไหร่กันแน่
แต่หากผลออกมาแบบนี้จริง มันก็ค้านกันหัวฟัดหัวเหวี่ยงเหมือนกัน เพราะนี่คือรายการเปิดโปงกันแบบล่อนจ้อน!