“นิพิฏฐ์” หวั่นข้อเสนอ กมธ.การเมือง สปท.ให้ มท.จัดเลือกตั้ง ความเป็นกลางทางการเมืองสู้องค์กรอิสระไม่ได้ ส่อใช้อำนาจแฝงสั่งผู้ใต้บังคับบัญชา ถอยหลังกว่าการให้ กกต.จัด ด้าน “หมอวรงค์” ซัดกรรมการรับผิดทางแพ่งคดีจำนำข้าว คงตัวเลขเดิมฟังไม่ขึ้น โยนความเสียหาย 80% ทิ้งในอากาศ ขู่ดื้อเจอกัน ป.ป.ช.
วันนี้ (2 ก.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปีตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนหารปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ตรวจสอบดูแลว่า ตามเจตนารมณ์การให้องค์กรอิสระมาจัดการเลือกตั้ง เพราะมีความอิสระ มีความเป็นกลาง แต่ถ้าเป็นกระทรวงมหาดไทยตนเกรงว่าความเป็นกลางทางการเมืองอาจจะสู้องค์กรอิสระไม่ได้ เช่นว่าถ้าเกิดมีพรรคการเมืองหนึ่งเขากำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย เขาก็จะใช้อำนาจแฝงสั่งผู้ว่าฯ สั่งนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านได้ ซึ่งเป็นถือบุคคลที่มีผลต่อการเลือกตั้ง ถ้าเขากลายเป็นเครื่องมือจัดการเลือกตั้ง ทำให้มีปัญหาเรื่องความเป็นกลางได้ โดยข้อเสนอนี้ตนว่าถอยหลังไปมาก แต้ถ้าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะว่าตาม สปท.ตนก็ไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาเราเปลี่ยนผู้จัดเลือกตั้งจากกระทรวงมหาดไทยเป็นองค์กรอิสระก็เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องความเป็นกลาง ให้มีความเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง ดังนั้นส่วนตัวแล้วมองว่าให้ กกต.จัดการเลือกตั้งเหมือนเดิมจะดีกว่า
“ยกตัวอย่างว่าถ้านายไพบูลย์ นิติตะวัน ตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป แล้วบอกว่าสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯ อีกสมัย แล้วชื่อที่ 2 และ 3 อาจจะให้เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาหาเรื่องความเป็นกลางหรือไม่ แต่ขออยากให้คิดว่าจะดูดีหรือไม่ หรือพอไปได้ไหมมากกว่า” นายนิพิฏฐ์กล่าว
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า จากข้อมูลภายในของคณะกรรมการพิจารณารับผิดทางแพ่ง มีแนวโน้มจะยืนยันตัวเลขเดิมกรณีลดค่าเสียหายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จาก 2.86 แสนล้านบาท มาเหลือ 35,717 ล้านบาท แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะได้ระบุผ่านสื่อมวลชนไปแล้วว่าให้คณะกรรมการชุดนี้ไปทบทวนแล้ว เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ทั้งที่หลายฝ่าย เช่น ป.ป.ช. สตง. และฝ่ายค้านได้เตือน ท้วงติง รวมทั้ง ธ.ก.ส.ก็เคยเสนอให้มีการปรับลดราคาลงมา แต่ไม่สนใจรับฟัง
“การที่คณะกรรมการพิจารณารับผิดทางแพ่ง ยืนยันจะคิดราคาค่าเสียหายเพียง 20% เช่นเดิม ยิ่งฟังไม่ขึ้น ที่สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยเพียงคนเดียว และคนที่จะต้องมารับผิดชอบร่วมอีก 80% ก็ยังไม่มีตัวตน เท่ากับว่าคณะกรรมการชุดนี้จะโยนความเสียหายอีก 80% ให้หายไปในอากาศ จึงขอเตือนไปยังคณะกรรมการฯ ว่าอย่ามีทิฐิ และต้องชี้แจงสังคม จะคิดจะทำอะไรต้องเกรงใจประชาชนบ้าง จึงขอย้ำอีกครั้งว่าหากยังดื้อดึงก็เตรียมตัวไป ป.ป.ช. และขอฝากนายกฯ ประยุทธ์ เพราะประชาชนยังเชื่อมั่นในตัวท่านว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส” นพ.วรงค์กล่าว