“วิษณุ” แนะ กสม.ประสานหน่วยงานอื่น แบ่งภาระรัฐ ชี้ขู่ฆ่ารื้อทับเบิกขอส่วนกลางช่วยได้

รองนายกฯ ร่วมสัมมนา มอง กสม.ทำงานลำพังไม่ได้ต้องประสานหน่วยงานอื่น เหตุ รธน.นี้ให้ความสำคัญ กสม.เป็น 1 ใน 5 องค์กรอิสระ และต้องตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องสิทธิฯ แทน รบ. จึงกำหนดว่าให้คำนึงความผาสุก และมติ ครม.ต้องให้ตอบ ครม.ภายใน 1 เดือน แต่ต้องประสานภายในและหน่วยงานก่อนที่ให้ ครม.ชี้ขาด แบ่งเบาภาระรัฐ

วันนี้ (1 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดสัมมนาหัวข้อ “แนวทางความเชื่อมโยงในการดำเนินงานและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนระหว่าง กสม. องค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรฝ่ายบริหาร และองค์กรฝ่ายตุลาการ” โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า กสม.ทำงานลำพังไม่ได้ถ้าไม่ประสานกับฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กสม.ยังต้องสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรอิสระด้วยกันเอง เพราะร่างรัฐธรรมนูญนี้ให้ความสำคัญกับกสม.มากกว่าฉบับอื่น โดยยอมรับนับถือว่า กสม.เป็น 1 ใน 5 องค์อิสระ จากเดิมมีสถานะแค่องค์กรอื่น ถ้าเราไม่สร้างระบบความสัมพันธ์ให้ดี การพิจารณาเรื่องร้องเรียนอาจนิ่ง งานด้านต่างๆ ต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่น เพราะ กสม.ทำจบเองไม่ได้ เนื่องจากภารกิจที่รัฐธรรมนูญใหม่กำหนด คือ ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เสนอแนะข้อกฎหมาย และทำหน้าที่ชี้แจงตอบโต้กรณีมีการกล่าวหาประเทศไทยเรื่องสิทธิ รัฐบาลตอบโต้เองไม่ได้เพราะอาจถูกมองว่ามีส่วนได้เสีย

“ทำไมรัฐธรรมนูญใหม่ต้องกำหนดหน้าที่ กสม.วรรคท้ายที่ระบุว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสม.ให้ กสม.คำนึงถึงความผาสุกของประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ คำถาม ที่ผ่านมาไม่มีหรือคำถามสอง ทำไมไม่ใส่ไว้ในองค์กรอิสระอื่นด้วย เพราะ กสม.เป็นองค์กรเดียวที่ทำงานกับต่างประเทศและมีภารกิจตอบโต้หากมีการกล่าวหา จึงต้องกำหนดว่าให้คำนึงถึงความผาสุกของประชาชน” รองนายกฯ กล่าว

นายวิษณุกล่าวอีกว่า แต่เดิม กสม.ทำแล้วต้องส่งมายังคณะรัฐมตรี (ครม.) บางหน่วยงานเวลา ครม.ขอความเห็น ถ้าเห็นด้วยจะกระตือรือร้นตอบ ถ้าไม่ตอบแปลว่าไม่เห็นด้วย กำลังหาทางลง ตนก็ไม่เคยเห็น กสม.ทวงมาเป็นครั้งที่ 2 พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้ที่ตกลงกันตั้งแต่ประชุมแรกๆ ว่าเมื่อองค์กรอิสระมีข้อเสนอแนะมา ต้องดำเนินการ จึงเป็นที่มาที่มีมติ ครม.ว่าต้องให้หน่วยงานตอบภายใน 1 เดือน ได้ข้อมูลแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น ใครไม่ตอบก็จะมีมติไม่รอเมื่อเกิดผลกระทบช่วยไม่ได้ ระยะหลัง กสม.ก็รายงานปัญหาที่พบในรัฐบาลนี้ ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ตรวจสอบได้เร็ว แต่ขอเสนอแนะว่าต้องปรับกระบวนการประสานงาน คือ อยากให้ประสานงานกันภายในก่อน รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาก่อนที่ให้ ครม.ชี้ขาด แบ่งเบาภาระรัฐบาล ที่ผ่านมารัฐบาลได้ประสานงานกับ กสม.มาตลอด เช่น เรื่องการเยียวยาผู้ชุมนุม หรือเรื่องโทษประหารชีวิต ที่จากนี้ในอนาคตก็จะมีการผลักดันเพื่อไม่ให้มีโทษประหารชีวิตอีกต่อไป