xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” สั่งดูแลรื้อทับเบิกหลังอ้างไอซิสขู่ ชี้แก้จราจรต้องสร้างจิตสำนึก คงคุยสันติสุข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
“ประวิตร” สั่ง มทภ.3 ดูแลรื้อภูทับเบิก หลังมีสายอ้างไอซิสขู่ จนท. ยันไม่สะดุดพร้อมดูแลความปลอดภัย มั่นใจจัดระเบียบได้แน่ ชี้ปัญหาจราจรแก้ไม่ได้โดยเร็ว ต้องสร้างจิตสำนึก ตั้งอนุ กก.ดำเนินการ ฟัง จนท.ก่อนข้อเสนอ สนช.เก็บเงินเมื่อขับรถเข้าเมือง เชื่อไม่ยอมรับวิ่งเลขคู่คี่ ยันงบซื้อเครื่องวัดแอลกอฮอล์พอ ยันคงคุยสันติสุขตามเดิม ไม่มีลงนามต้องไร้เหตุป่วนก่อน อ้างพบกันมีความจริงใจ

วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีคนอ้างตัวว่าเป็นไอซิสขู่ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรจัดการป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก ให้หยุดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในภูทับเบิกว่า ไม่ทราบว่าเป็นผู้กระกอบการหรือผู้เสียผลประโยชน์ที่กระทำ แต่ไม่มีอะไรมากเพราะตอนนี้ได้มอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 3 ลงไปดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเราต้องดำเนินการต่อไปเนื่องจากเป็นคำสั่งศาลให้รื้อถอน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบรายละเอียดในกรณีที่เกิดขึ้นว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้จะเชื่อมโยงถึงคนกลุ่มใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตาม เราก็ไม่รู้ใครโทร.ไปหาใคร เป็นการโทร.ขู่กันเองหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องดูแลเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความอุ่นใจ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ดำเนินการอยู่ ยืนยันว่าการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิกจะไม่สะดุดและต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจะไม่ถอดใจ เพราะ คสช.ให้การสนับสนุนดูแลความปลอดภัยอยู่ จึงมั่นใจว่าจะสามารถจัดระเบียบภูทับเบิกได้อย่างแน่นอน

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรและการดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนว่า ชี้แจงแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขได้ทันทีในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ตนจะประชุมชี้แจงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรต่อไปให้รู้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชนได้ดำเนินการอย่างไรไปบ้าง อนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะเร่งดำเนินการ นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่าการบังคับใช้แต่กฎหมาย ถ้าคนไม่สนใจแล้วจะทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างจิตสำนึกในเรื่องของการใช้รถใช้ถนน

“การขับขี่ไม่ใช่รถชนกันแล้วออกมาตีกันและไม้มาฟาดกัน มันไม่ได้ ต่อไปผู้ที่จะขอใบขับขี่ต้องเข้าอบรมและหากผู้นั้นทำผิดกฎระเบียบจะมีการยึดใบขับขี่จะต้องทำให้ชัดเจน เพราะต่างประเทศก็ทำได้หมด แต่เราทำไม่ได้เลยเพราะเราเอาแต่ใจตัวเอง มาตรการใดก็ไม่มีประโยชน์ถ้าคนเราไม่มีจิตใต้สำนึกที่จะทำให้อุบัติเหตุลดลง เรื่องนี้ผมทำอยู่แล้วโดยมีการตั้งอนุกรรมการจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขึ้นมาดำเนินการ หลังจากนี้จะขอประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อมอบหมายงานและรวบรวมข้อมูลเสนอนายกฯ ว่าที่ทำไปจะแก้ไขได้แค่ไหน” พล.อ.ประวิตรกล่าว

เมื่อถามความเห็นต่อข้อเสนอจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะให้ผู้ใช้รถเสียค่าผ่านทางเมื่อขับเข้ามาในเมือง เหมือนในต่างประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอฟังเจ้าหน้าที่ก่อน ใครมีอะไรสามารถเสนอเข้ามาได้หมด เมื่อถามถึงแนวทางเรื่องกำหนดทะเบียนเลขคู่คี่ให้รถวิ่งตามวันจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะยอมรับกันหรือเปล่าถ้าจะให้รถวิ่งเช่นนั้น ถามว่าใครจะยอมรับบ้าง ไม่มีทาง ส่วนกรณีที่ว่างบประมาณไม่เพียงพอต่อการจัดชื้ออุปกรณ์ เช่น เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้นยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอและกำลังดำเนินการซึ่งได้แจ้งสำนักงบประมาณให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะรายงานให้นายกฯ ทราบต่อไป ว่าจะต้องใช้งบประมาณอย่างไร และเผื่อมีการของบกลางบางส่วนด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการภายใน 3 เดือน เพื่อที่จะใช้ทันเทศกาลปีใหม่นี้

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการพูดคุยสันติสุขในวันที่ 2 ก.ย.นี้ว่า ยืนยันการประชุมยังคงมีตามกำหนดการเดิม ไม่มีการยกเลิก การเดินทางไปพูดคุยครั้งนี้จะยังไม่มีการลงนาม ไม่มีทีโออาร์ ใดๆ เราจะพยายามไม่ให้มีการเกิดเหตุให้ได้ก่อน ถึงจะมีความก้าวหน้าเรื่องการลงนามอย่างชัดเจนต่อไป แต่ทั้งนี้เรื่องการพูดคุยก็ยังคงมีการดำเนินต่อ และจะพยายามให้หลายๆ ฝ่ายร่วมมือ

“เขาก็มีความจริงใจ ผมไปเยือนมา เขาก็โอเคกับผมดี ไม่มีอะไร ขณะที่การเดินทางเยือนประเทศไทยของ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็จะมาลงนามปัญหาคนสองสัญชาติ” พล.อ.ประวิตรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น