“ประวิตร” สั่ง “จักรทิพย์” ลงพื้นที่หลังเกิดคาร์บอมบ์โรงแรมดังปัตตานี รับการพูดคุยสันติภาพยังคืบ ต้องให้ความรุนแรงสงบก่อน ด้าน “อักษรา” เชื่อผู้ก่อเหตุหวังใช้เป็นเครื่องมือกดดัน แต่ไม่ได้ผลเพราะไม่ใช่แนวทางของเรา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุคาร์บอมบ์ที่โรงแรมเซาเทิร์นวิวในตัวเมืองจังหวัดปัตตานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 29 ราย ว่าได้รับรายงานจากแม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ไปเมื่อเช้านี้เพื่อไปดูเกี่ยวกับเรื่องคาร์บอมบ์ เมื่อคืนนี้มีระเบิด 2 ลูก ลูกหนึ่งใกล้ผับ ไม่มีคนเสียชีวิต เป็นการระเบิดที่ดึงความสนใจ และเอาคาร์บอมบ์มาจอดทิ้งไว้อีกสิบนาทีต่อมาก็เกิดเหตุระเบิดครั้งที่ 2 มีคนเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 29 คน
“เรื่องของการพูดคุยสันติสุขยังไม่ก้าวหน้าหรืออย่างไร ผมก็ไม่ทราบ แต่ก็ต้องพูดคุยกันต่อไป ต้องถามทาง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขดูอีกครั้ง แต่ความจริงเรื่องของการความไม่สงบมันต้องรอให้สถานการณ์เงียบแล้วค่อยมาพูดคุยเจรจากัน ไม่ว่าจะในรอบหรือนอกรอบก็แล้วแต่ ที่ผ่านมาเราก็พยายามทำทุกอย่างที่จะป้องกัน ผมให้แนวทางแม่ทัพภาคที่ 4 แล้วว่าจะทำอย่างไร ซึ่งความจริงทางโต๊ะอิหม่ามทั้งหลายก็ให้ความร่วมมือเราเป็นอย่างดีทุกอย่าง แต่ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ต้องไปดูว่าเป็นฝ่ายไหน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการกดดันทีมพูดคุยสันติสุขหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ เพราะเท่าที่คุยกับ พล.อ.อักษรา ก็ยังไม่มีการคุยเรื่องกดดันหรือเรื่องอะไรต่างๆ เมื่อถามว่า เมื่อเกิดเหตุแบบนี้จะทำให้การพูดคุยต้องหยุดไปก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องคุยกับ พล.อ.อักษราอีกครั้งว่าเขาจะคุยกันอย่างไร ส่วนกระแสข่าวจะมีการตกลงทีโออาร์กันนั้นยืนยันว่าไม่มีทีโออาร์ ไปเอามาจากไหน ไม่ได้คุยกัน และไม่ได้กำหนดทีโออาร์ด้วย
“แนวทางตอนนี้ก็คือทำคู่ขนานกันไป ระหว่างเจรจากับหยุดเหตุการณ์ ซึ่งก็ต้องทำให้สงบเสียก่อนถึงจะมาว่ากัน ถึงจะมากำหนดทีโออาร์กันได้ และสำคัญต้องคุมทุกพื้นที่ได้ว่าไม่มีอะไรก่อน จึงค่อยเดินหน้าพูดคุย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่น่าจะโยง แต่ว่าเราก็ได้อะไรต่างๆ ในพื้นที่ 7 จังหวัดเกือบหมดแล้ว ก็ให้ทุกฝ่ายลงไปดูแล้ว และให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บูรณาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ลงไปดูพบว่ามีความก้าวหน้ามากขึ้น มีการออกหมายจับเพิ่มขึ้น ก็ชัดเจนเกี่ยวกับภาพวงจรปิดที่ได้มา
“ขอให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอยู่ อย่าไปกดดันมาก สื่อถามกันทุกวัน กดดันกันจัง เช้าถาม เดี๋ยวบ่ายถามอีกแล้ว ไม่ต้องทำอะไรนี่ ถามอย่างเดียว ผมก็ทำได้ ถามอย่างเดียว กลับกันบ้างไหม ให้ผมไปถามบ้าง พวกคุณมาตอบบ้าง เอามั้ย ถามมันง่าย ใครก็ถามได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังบอกไม่ได้ใช่หรือไม่ว่าเป็นการกระทำของพวกกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังบอกไม่ได้ เพราะอีกพวกบอกใช่ แต่อีกพวกบอกไม่ใช่
ทางด้าน พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข เปิดเผยว่า การพูดคุยสันติสุขยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะถือเป็นแนวทางสันติวิธีที่ทั่วโลกให้การยอมรับและสนับสนุน ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เขาพยายามใช้ความรุนแรงมากดดันให้เกิดการพูดคุย แต่เราก็ยืนยันมาตลอดว่ายิ่งถ้ามาใช้ความรุนแรง ก็ไม่ใช่แนวทางของคณะพูดคุยอยู่แล้ว
ส่วนกำหนดการที่ชัดเจนที่จะพูดคุยกันนั้น พล.อ.อักษรากล่าวว่า จะเป็นเมื่อไหร่ ยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้นายกฯ ดูให้เรียบร้อยก่อนซึ่งทาง สมช.จะเป็นผู้กำหนด
