“ประยุทธ์” เผยไม่ได้คุยกับนายกฯ มาเลเซียเรื่องระเบิดภาคใต้ แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่มาเลเซียเอาหลักฐานต่างๆ จากไทยไปตรวจสอบแล้ว ขอสื่ออย่ากดดัน ถามจี้ทุกวัน ขอโอกาสให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ย้ำยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจะไม่มีแพะในเหตุระเบิดแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ปฎิเสธว่า การไปร่วมประชุม International Conference on Blue Ocean Strategy ครั้งที่ 1 ที่ประเทศมาเลเซีย ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เกี่ยวกับเหตุระเบิดและพบหลักฐานโทรศัพท์ที่มาจากทางมาเลเซีย โดยในความเป็นจริงทางมาเลเซียได้รับหลักฐานไปแล้วอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ ซึ่งวันนี้ฝ่ายความมั่นคงคุยกันอยู่แล้ว บางครั้งบางเวลาก็ไม่เหมาะที่จะคุยในบางเรื่องก็ไม่ใช่ว่าจะเอาทุกเรื่องไปคุย และพันกันทุกเรื่อง ซึ่งทางมาเลเซียก็ไม่ได้คุยกับตนคนเดียว มีหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศกลุ่มมุสลิม หรือโอไอซี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้สรุปสถานการณ์ล่าสุดอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงเขาทำงานกันอยู่ และได้มีการชี้แจง รวมทั้งอยากขอร้องสื่อมวลชนว่าทำอย่างไรจะช่วยสร้างความเข้าใจให้เกิดมากยิ่งขึ้น และรัฐบาลไม่ได้ปิดบังข้อมูล แต่เป็นเรื่องการสอบสวนซึ่งต้องให้โอกาสเจ้าหน้าที่ในการทำงานบ้าง อย่างบางคดีต้องใช้เวลานาน ขณะเดียวกัน สื่อก็ต้องช่วยกันสร้างให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพซึ่งจะมีผลต่อการท่องเที่ยว ถ้าสื่อถามทีละฝ่ายทีละประเด็นก็จะผิดเพี้ยนไปหมด ประชาชนก็จะเกิดความสับสน จึงอยากขอร้องสื่อหยุดถาม โดยหากมีความชัดเจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะแถลงให้ทราบเอง ในส่วนของความคืบหน้าก็มีต่อเนื่องเรื่อยๆ และยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งสิ้น ใครที่ไม่เกี่ยวข้องก็อย่าร้อนตัว เรื่องนี้ขอให้ถามฝ่ายความมั่นคง
เมื่อผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น พยายามสอบถามถึงความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวอีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ของคุณนั่นแหละที่ออกไปต่างประเทศล้วนๆ ระวังด้วย ระวังว่าข่าวจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย คุณเขียนอะไรออกไป ประเทศชาติอยู่ตรงไหน ถ้าคุณจะขยายไปเรื่อยๆ ให้ประเทศชาติเสียหายก็เรื่องของคุณ อย่ามาโทษผม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานหรือไม่ว่าทางฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ มองว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการทำประชามติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “เขาบอกหรืออย่างไร เขาบอกแต่เพียง ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งซึ่งมีหลายปัจจัยด้วยกัน ผมก็ฟังเขาพูดอยู่ สื่ออย่าไปโยงแต่เรื่องการเมืองอย่างเดียว มันหลายอย่างผสมผเสกันไป เดี๋ยวฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการได้ ใจเย็นๆ เดี๋ยวเขาก็สืบจนได้ จะเห็นได้ว่าเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ผิดก็ผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิด ก็ดูแลกันแค่นั้นเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่บ้าง อย่าต้องให้มาตอบคำถามสื่อทุกวัน วันนี้คดีมีมากมายเป็นหมื่นเป็นแสนคดี อย่าลืมว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำคดีอื่นด้วย แต่เหตุระเบิดคดีนี้เจ้าหน้าที่ก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ จัดทีมขึ้นมาโดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปดูแลในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เขาให้ความสำคัญ ฝ่ายความมั่นคงต้องใช้สายข่าวทั้งตำรวจ ทหาร และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งหมด เขาทำหมดแล้วเพียงแต่ว่าเกิดเหตุปุ๊บก็จะสามารถจับได้ปั๊บ ไม่มีใครจับใครได้นอกจากโจรจี้ปล้น ต้องอาศัยการสืบสวนสอบสวน และทำอย่างไรจะไม่ให้ใครเดือดร้อนจากการกระทำทางกฎหมาย ยืนยันว่าไม่มีแพะ หรือแกะใดๆ ทั้งสิ้น”
“อย่าหาว่าผมโมโห ยืนยันว่าไม่โกรธ เพียงแต่มันกดดันที่ผมจะต้องตอบคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ หลายคนจี้คำถามมาโดยตลอด และถ้าผมต้องตอบทุกคำถามมันก็ตาย ผมก็เครียดจะให้ผมตอบทุกวัน ครับผม มันไม่ใช่ วันนี้ผมกำลังทำงานอยู่ อีกหลายเรื่องยังรอผมอยู่ อีกสักครู่ทูตต่างประเทศก็จะมาพบ เขาคงไม่มาถามผมในเรื่องระเบิด แต่มีคำถามว่าจะร่วมมือกับไทยได้อย่างไร วันนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดลง ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน มีแต่คนไทยที่ลดลง ถ้าเจ้าบ้านยังไม่แสดงความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างความเชื่อมั่นกันเอง ทุกอย่างมันก็จบหมด ผมขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน ให้ช่วยกันคิด”