เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธครบมือบุกโจมตี “รีสอร์ตดำน้ำ” แห่งหนึ่งของมาเลเซียซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเกาะบอร์เนียว โดยกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นพวกมุสลิมหัวรุนแรงจากฟิลิปปินส์ ได้ลงมือสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจวัย 32 ปี ไป 1 นาย และลักพาตัวตำรวจไปอีกนายหนึ่ง
รายงานข่าวซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของมาเลเซียเผยว่า เหตุสะเทือนขวัญที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการท่องเที่ยวของประเทศในครั้งนี้เกิดขึ้นบนเกาะ “มาบูล” ของรัฐซาบาห์ ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของโลก
ด้านอับดุล ราชิด ฮารูน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลมาเลเซียในรัฐซาบาห์ออกมาเปิดเผยว่า พบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ใน “ประเทศเพื่อนบ้าน” แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวด้านความมั่นคงอีกรายหนึ่งในพื้นที่ออกมายอมรับว่า กลุ่มคนร้ายสวมหน้ากากซึ่งมีจำนวนประมาณ 6-8 คนที่ก่อเหตุโจมตีรีสอร์ตดำน้ำบนเกาะมาบูลในครั้งนี้ น่าจะมาจาก “หมู่เกาะซูลู” ในฟิลิปปินส์
ขณะที่ตัน ก๊ก เหลียง รองประธานสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวของมาเลเซีย ออกมายอมรับว่า เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของมาเลเซีย และถือเป็นความท้าทายที่ประจักษ์ชัดต่อความมั่นคงของแดนเสือเหลือง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เร่งเสริมสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว หลังจากที่ยอดนักท่องเที่ยวปรับลดลงไปแล้วถึง 10 เปอร์เซ็นต์นับจากที่ข่าวการโจมตีดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป
ทั้งนี้ เหตุโจมตีและลักพาตัวโดยฝีมือของกลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงที่คาดว่าจะมาจากฟิลิปปินส์เช่นนี้ ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้วนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเหตุโจมตีส่วนใหญ่ซึ่งมีบรรดารีสอร์ตดำน้ำเป็นเป้าหมาย ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของรัฐซาบาห์ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนกว่า 3.5 ล้านคนในแต่ละปี