ใช้พรุ่งนี้! กม.จราจรใหม่ ผู้ขับขี่รถทุกประเภทที่ถูกใบสั่งสามารถชำระค่าใบสั่งได้ผ่านหลายช่องทางผู้ให้บริการ เผยเคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคาร e-banking บัตรเครดิต และช่องทางอื่นๆ เตรียมรองรับ แต่ต้องรอ ผบ.ตร.กำหนด วิธีการ-สถานที่ก่อนว่าจะให้ผู้ใดเป็นผู้ให้บริการ
วันนี้ (17 ส.ค.) ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2559 โดยมีหลักการมาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกบทนิยามคําว่า “อธิบดี” ใน (36) ของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ให้แก้ไขคําว่า “อธิบดี” ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นคําว่า “ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ” ทุกแห่ง มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (3) ของมาตรา 141 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535
“(3) ในกรณีที่ไม่มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่โดยเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ชําระค่าปรับตามจํานวนและภายในวันที่ระบุไว้ในใบสั่ง โดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิตหรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชําระเงินได้ ทั้งนี้ ตามวิธีการและสถานที่ที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติกําหนด เมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชําระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกัน”
โดยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันได้มีการนําระบบการชําระเงินด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อการชําระค่าสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น สมควรเพิ่มช่องทางการชําระค่าปรับตามใบสั่งด้วยวิธีการดังกล่าวในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่เพื่อเป็นการอํานวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถในการชําระค่าปรับตามใบสั่ง
ทั้งนี้ สาระสำคัญเป็นการเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับตามใบสั่งด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินได้ ตามวิธีการและสถานที่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด และเมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้วให้คดีเป็นอันเลิกกัน
“ประชาชนสามารถชำระค่าใบสั่งได้ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคาร e-banking บัตรเครดิต และช่องทางอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
โดยกฎหมายฉบับนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ให้ข้อสังเกตว่า การเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องเปิดโอกาสให้ธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินอื่นๆ ได้เข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการผูกขาด รวมทั้งควรให้มีการพัฒนาระบบการรับชำระค่าปรับผ่านบัตรเครดิตจากทุกธนาคารได้ด้วย และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และไม่ก่อให้เกิดภาระกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเกินสมควร ควรกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้บริการการชำระค่าปรับตามใบสั่งโดยผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไว้ในข้อตกลงในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อหนึ่งใบสั่ง แต่หากเป็นการชำระด้วยเงินสดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวต้องไม่เกิน 20 บาทต่อหนึ่งใบสั่ง และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการชำระค่าปรับตาม พ.ร.บ.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรเร่งรัดในการออกกฎหมายอนุบัญญัติให้แล้วเสร็จนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา