ผู้จัดการรายวัน360- เอกฉันท์!! ที่ประชุม สนช.โหวตผ่านใช้ กม.จราจรทางบกฯฉบับปรับปรุง เพิ่มช่องทางจ่ายค่าปรับใบสั่ง ผ่านบัตรเครดิต-ธนาคาร แนะดึงสถาบันการเงินร่วมให้บริหารเสียค่าปรับ พร้อมคุมค่าธรรมเนียมใบสั่งละไม่เกิน 20 บ.
วานนี้ (9มิ.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง เป็นประธาน ได้พิจารณษร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก (ฉบับที่...) พ.ศ... ตามที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯได้พิจารณาแล้วเสร็จ โดยมีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับตามใบสั่ง ด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินได้ ตามวิธีการและสถานที่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด และเมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกัน ก่อนที่ที่ประชุมจะมีมติเอกฉันท์ 179 เสียง เห็นชอบเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
** แนะกระจายทุกแบงค์ หวั่นผูกขาด
ด้าน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ที่มี พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ สมาชิก สนช. เป็นประธาน ได้มีข้อสังเกตให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนี้
1. การเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ควรจะต้องเปิดโอกาสให้ธนาคาร หรือหน่วยบริการรับชำระเงินอื่นๆได้เข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการผูกขาด รวมทั้งควรให้มีการพัฒนาระบบการรับชำระค่าปรับผ่านเครดิตจากทุกธนาคารได้ด้วย
2.เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และไม่ก่อให้เกิดภาระกับผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถเกินสมควร ควรกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้บริการการชำระค่าปรับตามใบสั่ง โดยผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไว้ในข้อตกลงในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อหนึ่งใบสั่ง แต่หากเป็นการชำระด้วยเงินสด อัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวต้องไม่เกิน 20 บาทต่อหนึ่งใบสั่ง
3.เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการชำระค่าปรับตามร่าง พ.ร.บ.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ควรเร่งรัดในการออกกฎหมายอนุบัญญัติ ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
วานนี้ (9มิ.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง เป็นประธาน ได้พิจารณษร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก (ฉบับที่...) พ.ศ... ตามที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯได้พิจารณาแล้วเสร็จ โดยมีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับตามใบสั่ง ด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินได้ ตามวิธีการและสถานที่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด และเมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกัน ก่อนที่ที่ประชุมจะมีมติเอกฉันท์ 179 เสียง เห็นชอบเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
** แนะกระจายทุกแบงค์ หวั่นผูกขาด
ด้าน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ที่มี พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ สมาชิก สนช. เป็นประธาน ได้มีข้อสังเกตให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนี้
1. การเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ควรจะต้องเปิดโอกาสให้ธนาคาร หรือหน่วยบริการรับชำระเงินอื่นๆได้เข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการผูกขาด รวมทั้งควรให้มีการพัฒนาระบบการรับชำระค่าปรับผ่านเครดิตจากทุกธนาคารได้ด้วย
2.เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และไม่ก่อให้เกิดภาระกับผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถเกินสมควร ควรกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้บริการการชำระค่าปรับตามใบสั่ง โดยผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไว้ในข้อตกลงในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อหนึ่งใบสั่ง แต่หากเป็นการชำระด้วยเงินสด อัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวต้องไม่เกิน 20 บาทต่อหนึ่งใบสั่ง
3.เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการชำระค่าปรับตามร่าง พ.ร.บ.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ควรเร่งรัดในการออกกฎหมายอนุบัญญัติ ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา