รมว.มหาดไทย แจงโยกย้ายข้าราชการซี 10 มีเฉพาะระนาบเดียวกัน แต่รองผู้ว่าฯ ยังต้องพิจารณา ส่วนผลสอบ “หมอเปรม” ยังไม่ได้รับรายงานจากทางผู้ว่าฯ ขอนแก่น แต่จะสอบถามให้ พร้อมระดมเครื่องมือช่วยประชาชนเดือดร้อนน้ำท่วม น้ำหลาก หวั่น 19-20 ส.ค.นี้ จะมีฝนตกหนักซ้ำ และเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม เชื่อปริมาณน้ำไม่มากเหมือนปี 54
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยเสนอรายชื่อโยกย้ายข้าราชการระดับสูง (ระดับ 10) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีเฉพาะในส่วนที่ย้ายในระนาบเดียวกัน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปผู้ว่าราชการจังหวัดอีกจังหวัด หรือผู้ตรวจราชการฯ แต่จากระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ยังต้องมีขั้นตอนในการพิจารณา ทั้งนี้ ถือเป็นการโยกย้ายปกติ สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเกษียณอายุราชการ ก็จะขยับจากจังหวัดเล็กไปอยู่จังหวัดที่ใหญ่ขึ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ทางจังหวัดยังไม่ได้รายงานมาให้ทราบแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ตนจะได้สอบถามความคืบหน้าไป แล้วหลังการประชุม ครม.จะแจ้งความคืบหน้าให้สื่อได้ทราบ อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว ก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หากสอบวินัยก็ใช้เวลาอีก 120 วัน และยังสามารถต่อเวลาได้อีกตามขั้นตอน แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูคดีความอาญาของเขาด้วยว่าเป็นอย่างไร
พล.อ.อนุพงษ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน้ำท่วมหลายจังหวัด เช่น จ.พะเยา จ.น่าน ในภาคเหนือเนื่องจากพายุฝน ว่าขณะนี้คลี่คลายไปแล้ว 3 จังหวัด ยังมีเพียงที่พะเยา และน่าน อย่างไรก็ตาม มวลน้ำดังกล่าวจะลงมาที่พิษณุโลก สุโขทัย ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และทางจังหวัดได้เตรียมแผนเรื่องการแจ้งเตือนประชาชนแล้วว่าอาจจะมีน้ำหลากไหลผ่านมาอาจจะมีน้ำท่วม และมีบางพื้นที่นั้นสำรวจได้ว่าดินชุ่มน้ำมากแล้วก็ต้องระวังหากมีฝนตกซ้ำอาจมีดินโคลนถล่มอาจมีอันตราย ได้แจ้งเตรียมอพยพประชาชนให้อยู่ที่สูง และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ระดมเครื่องมือไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว รวมทั้งการช่วยเหลือ เช่น เรือ อาหาร เตรียมไปในจังหวัดที่มีน้ำยมและน้ำน่านไหลผ่าน ทั้งสองสายนี้เราได้เตรียมแล้ว คาดว่าประมาณวันที่ 19-20 ส.ค.นี้จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และตะวันออกเฉียงเหนือด้วยก็ต้องเฝ้าระวัง
แต่อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าปริมาณน้ำเหนือไม่มากเท่าเท่าเมื่อปี 2554 และขณะนี้ปริมาณน้ำในบางเขิ่อนยังมีปริมาณน้ำไม่สูงมาก เว้นแต่เขื่อนสิริกิติ์ที่มีปริมาณน้ำมากหน่อย แต่เขื่อนภูมิพลนั้นยังไม่มากนัก แต่น้ำไหลหลากที่มาแบบรวดเร็วถ้ามีฝนตกในพื้นที่เดิมซ้ำอีก เช่น น้ำยมกับน้ำน่าน ทุกคนก็ทราบดีว่าทางนี้ไม่มีเขื่อนเลยก็อาจจะมีน้ำไหลหลาก