โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ยืนยันไม่เสนอเพิ่มวันหยุดในปีนี้อีก ขณะเดียวกันขอร้องสื่อนำเสนอข่าวระเบิดให้คำนึงถึงความก้าวหน้าของประเทศ ชี้การสัมภาษณ์นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ บั่นทอนความเชื่อมั่น
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับที่ประชุม ครม.ถึงข้อมูลที่มีการเสนอออกมาว่ามีผู้เสนอให้รัฐบาลประกาศวันหยุดเพิ่มเติมในเดือนกันยายนนั้น นายกฯ ได้ยืนยันว่า ไม่มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามา และเรื่องวันหยุดก็ถือว่าเป็นนโยบายซึ่งในแต่ะปีจะมีการควบคุมวันหยุดให้มีพอสมควร จะคิดแต่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูเรื่องอื่น เรื่องของเศรษฐกิจด้วย และได้รับการยืนยันจาก น.ส.กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ว่าไม่ได้มีการเสนอเรื่องนี้เข้ามายังที่ประชุม ครม.
พล.ต.สรรเสริญแถลงอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรารภขอร้องพี่น้องสื่อจากกรณีเหตุระเบิด 11 จุด ว่านายกฯ เข้าใจวิธีการและงานในหน้าที่ของสื่อมวลชนที่จะต้องนำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วนและรอบด้าน โดยนายกฯ ได้ฝาก 2 ประเด็น คือ 1. บนพื้นฐานของการนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้านนั้น อยากให้คำนึงถึงความก้าวหน้าของประเทศ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อยากให้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทำงานในการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ อย่าพึ่งเร่งรัดเจ้าหน้าที่มากนัก รวมทั้งอยากให้นำเสนอข้อมูลอย่างสมดุลไม่มากจนสร้างความตื่นตระหนกกับสังคม แต่ให้อยู่ในกรอบที่สังคมรับรู้ได้ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
2. อยากให้พิจารณาให้ละเอียดรอบครอบในการที่จะไปสัมภาษณ์นักวิชาการ นักเศรษฐกิจ หรือนักอะไรก็ตามที่เป็นสาขาอาชีพ เขาก็จะมองในมุมเดียวว่าจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจเท่าไหร่ มันจะมีความเสียหายไปกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว การนำเสนอในกลุ่มเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ความเสียหายลดลงไปกว่าเดิม หรือประเทศได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือแล้วเดินหน้า แต่อาจจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของสังคมลงไปได้ และถ้าคนในประเทศไทยเราไม่เชื่อมั่นในกันเอง ต่างประเทศเขาจะเชื่อเราได้อย่างไร
“ขอฝากเอาไว้ว่าประเด็นที่สื่อจะถามมุมมองทัศนคตินักเศรษฐกิจ นักวิชาการต่างประเทศ นักการท่องเที่ยวก็ให้พิจารณาให้ดีด้วยว่าหากนำเสนอแล้ว ประเทศไม่ได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือขึ้น และเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วก็ขอให้ใช้ดุลยพินิจให้เหมาะสมด้วย เพื่อให้งานด้านอื่นๆ ได้เดินก้าวหน้าไปด้วยได้ดี เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องเดินคู่ไปด้วยกัน เศรษฐกิจ การลงทุน ความมั่นคง”
