ประธาน กรธ.เผยที่ประชุมร่วม ครม.-คสช. กล่าวขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการที่ช่วย กรธ.เผยแพร่ แต่ยังไม่ร้องขอให้ คสช.ช่วยอะไร เล็งประสานองค์กรอิสระจัดทำเนื้อหากฎหมายลูกไปพลางก่อน ยกร่างกฎหมายหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ประมาณ ต.ค.-พ.ย. ส่วนเรื่องเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง ยังไม่มีแนวคิด แต่ต้องคุยตัวนักการเมืองเพื่อขอข้อมูล
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. ว่าตนได้กล่าวขอบคุณทุกหัวหน้าส่วนราชการที่ช่วย กรธ.เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนการทำงานหลังจากนี้ ยังไม่ร้องขอให้ คสช.ช่วยอะไร และที่ประชุมก็ไม่ได้ร้องขอให้ กรธ. เร่งรัดการทำงาน ทั้งเรื่องของการออกพระราชบัญญัติ การทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับ เพราะกรอบระยะเวลาได้ถูกกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญแล้ว โดยที่การเลือกตั้งยังอยู่ในโรดแมป
หลังจากนี้ ตนจะได้ประสานไปยังองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการพิจารณาทำเนื้อหาไปพลางก่อน เนื่องจากกังวลว่าหากเริ่มทำหลังจากที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้จะไม่ทันกรอบเวลา ส่วนการยกร่างบทบัญญัติกฎหมายลูกนั้น กรธ.จะเริ่มหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ไม่อย่างนั้นจะมีผู้นำไปฟ้องร้องให้การจัดทำเป็นโมฆะได้ภายหลัง
ทั้งนี้ การประชุม กรธ.ในวันที่ 10 ส.ค.เป็นการหารือเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน อาทิ ขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลูก รวมถึงการปรับปรุงเนื้อหาในบทเฉพาะการให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ซึ่งแนวทางการปรับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงนั้นได้กำหนดไว้แล้วในบทเฉพาะกาล จากนั้นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาใน 30 วันเมื่อขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีการทักท้วง ส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 90 วัน ซึ่งในช่วงปลายเดือน ต.ค. หรือต้น พ.ย.จะมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรใช้บังคับ
สำหรับแนวทางการจัดทำกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองจะมีเนื้อหาทำให้พรรคการเมืองต้องจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่นั้น นายมีชัยกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวยังไม่มีการพิจารณา กรธ.ยังไม่มีแนวความคิด ซึ่งการทำกฎหมายพรรคการเมืองอาจต้องคุยกับตัวนักการเมืองเป็นการภายในเพื่อขอข้อมูล เพราะถ้าทำเป็นทางการจะเกิดความไม่สบายใจกันได้