“รองนายกฯ” ผุด “คลินิกหมอครอบครัว” ทุ่มงบ 300 ล้านบาท สนับสนุน หวังลดความเหลื่อมล้ำด้านบริการสาธารณสุข เน้นดูแลปัญหาสุขภาพโรคพื้นฐาน พร้อมตั้ง “ทีมหมอครอบครัว” โทร.กรี๊งเดียวไปให้บริการถึงบ้าน หรือ ขอคำปรึกษาผ่านโซเชียลมิเดีย เฟซบุ๊ก - ไลน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เปิดบริการแล้ว 48 แห่ง 16 จังหวัด ตั้งเป้าขยายเปิดคลินิก เพิ่ม 2 พันแห่ง ในปี 2570 ย้ำ นโยบายเน้นดูแลความเจ็บป่วยของ “คน” ในทุกมิติสุขภาพ รักษา ส่งเสริม ป้องกัน ฟื้นฟู ให้บริการทั้งก่อนป่วยจนถึงระยะสุดท้าย
วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ ด้วยนโยบาย “คลินิกหมอครอบครัว” เนื่องจากประชาชนมากกว่าร้อยละ 50 เข้ารับบริการในโรงพยาบาลด้วยโรคพื้นฐาน จึงได้จัดกิจกรรมการผลิตแพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว เพื่อทำงานร่วมกับสหสาขาวิชาชีพเพื่อดูแลสุขภาพคนไทยกว่า 65 ล้านคน
โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในปี 2559 สร้างคลินิกหมอครอบครัว 8 แห่งกระจายในทุกภูมิภาค 8 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ กำแพงเพชร ขอนแก่น เพชรบูรณ์ ตรัง เชียงใหม่ น่าน พิษณุโลก และในขณะนี้ได้บริการคลินิกหมอครอบครัวแล้ว 48 แห่ง ใน 16 จังหวัด ให้บริการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ร่วมกับหมออนามัย และทีมสหวิชาชีพดูแลประชากร 10,000 คนต่อ 1 ทีม
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า นโยบายรัฐบาล เน้นใช้หลักเวชศาสตร์ครอบครัว ดูแลความเจ็บป่วยของ “คน” แบบองค์รวม มากกว่าดูแลเฉพาะ “โรค” ในทุกมิติสุขภาพ ทั้งด้าน การรักษา ส่งเสริม ป้องกัน ฟื้นฟู ให้บริการทั้งก่อนป่วยจนถึงระยะสุดท้าย รวมทั้งเชื่อมโยงระบบบริการสุขภาพจากชุมชนสู่คลินิกหมอครอบครัว และโรงพยาบาลแม่ข่าย ด้วยระบบส่งต่อ ให้คำปรึกษา รักษาพยาบาล ระบบยาและเวชภัณฑ์ ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดป่วย ลดตาย ลดแออัด ลดรอคอย ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้บริการทุกคน ทุกที่ ทุกอย่าง ทุกเวลาด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารอันทันสมัย
ทั้งนี้ ทีมหมอครอบครัว จะเข้าไปให้บริการสุขภาพแบบองค์รวม กล่าวคือ ดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยจะให้บริการทุกที่ คือ จะทำงานทั้งในที่ทำการ และที่บ้านของประชาชน ด้วยการออกเยี่ยมบ้าน บริการทุกเวลาด้วยเทคโนโลยี ประชาชนสามารถติดต่อ ปรึกษา ทีมหมอประจำครอบครัวได้ทางโทรศัพท์ หรือบริการทางโซเชียลมีเดีย เมื่อมีปัญหาสุขภาพ หรือ เจ็บป่วยสามารถปรึกษา หรือ เรียกมาให้บริการได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐตั้งเป้าภายในปี 2560 จะมีคลินิกดูแลสุขภาพประจำครอบครัวครบ 1 ล้านครอบครัว และมุ่งสู่เป้าหมายทุกพื้นที่ทั่วประเทศในปี 2570 ตั้งเป้ามีคลินิกหมอครอบครัว 2,200 แห่ง ในปี 2570 ด้วยการทำงานร่วมกันในทุกระดับ ทุกมิติ ด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวร่วมกับหมออนามัย และทีมสหสาขาวิชาชีพ รวมกว่า 6,500 ทีม เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพประชาชนในยุคดิจิตอล สะดวก และ รวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมเกิดความมั่นคงด้านสุขภาพ และพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
สำหรับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีประชากร 401,371 คน ได้สนับสนุนการพัฒนาบริการปฐมภูมิ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ใกล้บ้านมากขึ้น ลดความแออัดในโรงพยาบาล มีคลินิกหมอครอบครัว ผลการดำเนินการ ประชาชนในพื้นที่เข้ารับบริการเปรียบเทียบสัดส่วนการมารับบริการระหว่างหน่วยบริการปฐมภูมิเครือข่ายกับโรงพยาบาลแม่ข่าย ในสัดส่วน 72 : 28 การเยี่ยมบ้านกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ผู้สูงอายุติดเตียง ผู้ป่วยระยะท้าย และคนพิการ ผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังติดเตียง ผู้ป่วยวัณโรค และผู้ป่วยมะเร็ง ได้ร้อยละ 90.23 มีระบบช่องทางด่วนโรคที่สำคัญ (Fast Track) ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และมีตำบลต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว