xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชี้พ่นสีชายแดนใต้ฝีมือการเมือง ย้ำเก้าอี้ไม่เกี่ยวผลโหวต ปัดขัด “บิ๊กป้อม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ ลั่นประชามติใครทำผิดกฎหมายให้ดำเนินคดี ชี้พ่นสีไม่รับร่างฯ ชายแดนใต้เป็นเรื่องการเมือง ฝีมือคนที่มีปัญหา สงสัยใช้บริการแก๊งป่วนหรือเปล่า เบื่อนักการเมืองไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เผยไม่หยุดคืนความสุขศุกร์นี้ อย่ามาบอกประชามติชี้วัดใครแพ้ชนะ ไม่หวังเอาชนะเพื่อรักษาอำนาจ ย้ำอยู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน เดินตามโรดแมป บอกจุลสาร กกต.ใครไม่เห็นด้วยก็ไปฟ้อง จวกพวกต้านไม่เคยฟังตั้งแต่ตอนร่างฯ ยังไม่ปรับ ครม. ปัดขัด “ประวิตร” ยุยังไงก็ไม่ทะเลาะ บอกโหวตเสร็จกลับบ้านดูละคร ใครล้มก็ติดคุกกันไป ระบุไม่หลอกว่าทำได้ให้คนมารัก

วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์การลงประชามติว่า กำชับให้ทุกคนรักษาความสงบเรียบร้อยให้ได้มากที่สุด ใครที่ทำผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดี ถ้าทำไม่ได้ในขณะนั้นก็ให้ทำหลังจากที่มีการลงประชามติแล้ว ต้องมีการเก็บพยานหลักฐานไว้เพื่อดำเนินคดี ทั้งในส่วนของกฎหมายปกติ คำสั่ง คสช. และกฎหมายประชามติ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของตน

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่ภาคใต้ในช่วงการลงประชามติ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องไปดูว่าเกิดจากอะไร เมื่อสองวันก่อนก็มีเรื่องการพ่นสีข้อความตามถนน ตามป้าย เป็นเรื่องรับไม่รับรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น แล้วใครที่มีปัญหาทางการเมืองอยู่ที่ใต้ ก็เห็นอยู่วันก่อนก็เป็นข่าว เขาเป็นคนเริ่มเปิดประเด็น สรุปว่าเป็นการใช้บริการผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นใครจะกล้า เจ้าหน้าที่ก็พยายามอยู่ ทุกอย่างการเมืองทำให้มันเละไปทุกวัน เบื่อตรงนี้ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง

เมื่อถามว่าคืนวันศุกร์ที่ 5 ส.ค.จะงดจัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ตามที่มีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องหรือไม่ นายกฯ กล่าวยืนยันว่ายังจะพูดเหมือนเดิม ใครจะห้าม ไม่ต้องมาห้ามหรือแนะนำ คนแนะนำนั่นแหละตัวดี ตนไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล รู้อะไรควรไม่ควร อะไรดีไม่ดี รู้ว่าพูดเพื่ออะไร ในเมื่อตนบอกว่าไม่ได้ไปชี้นำให้ใครรับร่างหรือไม่รับร่าง แต่พวกที่ชี้นำก็ยังทำอยู่นั่น ทั้งๆ ที่กฎหมายเขาก็มีก็ไม่เห็นกลัวกัน ไปไล่คนที่ทำผิดกฎหมายสิ ที่บอกว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธิ์คนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่พาพวกอีกเป็นร้อยเป็นพันนั้นบริสุทธิ์ไหม ขณะที่ตนไม่ได้มีมวลชนที่สนับสนุนมาเดินตามตนข้างหลัง มันไม่จำเป็น เพราะตนเอาผลงานรัฐบาลเป็นตัวกำหนดว่าอนาคตเป็นอย่างไร หากจะเลือกอนาคตที่อาจจะมองไม่เห็นชัดเจน แต่ตนก็วางและวาดภาพให้เห็นกับการไม่มีภาพเหล่านี้ก็เลือกเอาเอง

“ฉะนั้นอย่ามาบอกว่าประชามติจะเป็นตัวชี้วัดว่าใครแพ้ใครชนะไม่เกี่ยว ผมไม่เคยแพ้ใคร และผมก็ไม่ต้องการเอาชนะใคร เพียงรักษาอำนาจของผมเพื่อบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนผ่านแค่นั้น” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้ยินเสียงเรียกร้องหรือไม่ว่าหากประชามติไม่ผ่านนายกฯ ต้องลาออก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดไปไม่เข้าใจหรือ การทำประชามติอยู่ในกระบวนการไปสู่ประชาธิปไตยสากล ต้องมีรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่มีก็ไปตรงนั้นไม่ได้และเลือกตั้งไม่ได้ ก็จบแค่นั้น ตนก็อยู่ไปตามโรดแมป จะเกี่ยวอะไรกันตรงไหน หน้าที่ตนคือแก้ปัญหาเดิมๆ หยุดความขัดแย้ง แล้วหยุดกันได้หรือยัง นั่นคือสิ่งที่พูดในฐานะหัวหน้า คสช. ยังไงตนก็ยังอยู่เพราะมีตำแหน่งหัวหน้า คสช.ด้วย

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ตรวจสอบและระงับจุลสารการออกเสียงประชามติของ กกต. โดยระบุ มีเนื้อหาเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายประชามติ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด เพียงแต่ต้องไปดูว่าผิดถูกอย่างไร กกต.เป็นผู้ตัดสิน ใครไม่เห็นด้วยก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ตนไม่ได้เห็นและอ่านเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แต่ก็รับทราบซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตนต้องทำทุกเรื่องหรืออย่างไร อยากรู้นัก โดยการร้องเรียนต้องมีเจ้าหน้าที่กลั่นกรอง ไม่ใช่ยื่นมาแล้วถึงมือทันที

เมื่อถามว่า การทำประชามตินั้นมีอีกกระแสคือการโนโหวตมาอีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็สุดแล้วแต่ท่าน แล้วยังไง ตอนนี้ตนไม่กังวลอะไร ผลจะออกมาอย่างไรก็ยังอยู่ตามโรดแมปและจะทำให้ดีที่สุดในช่วงที่ยังอยู่ เป็นการทำให้ประเทศชาติ ประชาชนคนไทย ไม่ได้ทำเพื่อใคร

เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านประชาชน พอจะทราบได้หรือยังว่ากระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตามกระบวนการก็ต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่แล้วก็เลือกตั้ง ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญด้วยนั้น เห็นว่าที่ผ่านมาประชาชนอาจไม่ได้ร่วมในขั้นต้น แต่เขาก็รับทราบ ในตอนนี้ที่มีการเดินหน้าชี้แจงทุกกลุ่มทุกจังหวัด ตอนนั้นไม่เห็นมีกระแสต่อต้านอะไรมากมาย แต่มารุมต่อต้านกันตอนนี้หมายความว่าอะไร และเรื่องรัฐธรรมนูญไม่มีคนรู้เลยหรือ เขาก็เดินสายไปชี้แจงหลายที่ สิ่งสำคัญคือคนที่มาต่อต้านวันนี้ไม่เคยเข้ารับฟัง ไม่ร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้สื่อมาถามตน ให้ตอบว่าจะรับผิดชอบอย่างไร อย่ามาถามตนแบบนี้ ฉะนั้นผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ซึ่งวันที่ 7 ส.ค. ลงมติเสร็จสิ้น วันที่ 8 และ 9 ใช้เวลาในการรวบรวมทำเอกสารต่างๆ ขึ้นมารายงานให้ทราบ อย่างเป็นทางการ โดยตนจะรับทราบในวันนั้น

“อังคารหน้า (9 ส.ค.) ผมจะประชุมร่วม ครม.-คสช.เพื่อจะวางแผน หาวิธีการในการดำเนินการต่อไป หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะทำอย่างไร และถ้าผ่านจะทำอย่างไร งานรออีกเยอะแยะ เป็นร้อยเป็นพันอย่าง จะมาเสียสมองกับเรื่องนี้เรื่องเดียวไม่ได้ ต้องเดินไปตามโรดแมปให้ได้ ผมตอบได้แค่นี้” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจว่าจะสามารถเดินไปถึงปลายทางโรดแมปและเกิดการเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะไม่ให้ตนเดิน จะมาบังคับได้อย่างไร ตนถืออำนาจรัฐอยู่ใช่ไหมตอนนี้ ต้องไปถามประชาชนว่าจะเอาอย่างไร อย่ามาถามตน เพราะไม่มั่นใจอะไรทั้งสิ้น แต่มั่นใจว่าทำงานได้ หากประชาชนไม่ไว้วางใจก็เป็นเรื่องของประชาชนจะทำอย่างไรก็ว่ามา ต้องไปถามเขาบ้าง อย่าไปจ่อปากให้เขาพูดอย่างเดียว คนที่ไม่รับอะไรต่างๆ สื่อต้องไปถามเขาแบบที่ถามตนว่าจะเอาอย่างไร ว่าอย่างไร ไม่เคยเห็นสื่อถามเลย มีแต่เอาไมค์ไปยื่นให้เขาพูดๆ แล้วก็มาไล่ตน สื่อที่ดีเขาไม่ทำแบบนั้นหรอก

เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าหลังการทำประชามตินายกฯ อาจจะตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่มี ทำไมจะปรับใครหรือ หนังสือพิมพ์ก็เขียนไปสิ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ปัญหาอะไรกันหรือไม่ ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงหยิบยกมาเป็นประเด็นทุกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็พวกสื่อชอบไปขยายให้อีกฝ่ายหนึ่ง ผมยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร อยู่กันมา 30-40-50 ปี ความผูกพันมากกว่าที่ทุกคนคิด ทหารเขาเป็นอย่างนี้ ไม่ได้คบกันเพื่อประโยชน์ ไม่ได้คบกันเพราะเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่อง คบกันด้วยความดี ความเชื่อถือ เชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกันตลอดมา 50 ปี ไม่มีวันทะเลาะกัน ไม่ว่าจะยุอย่างไรผมก็ไม่ทะเลาะ 1. ท่านเป็นรุ่นพี่ผม 2. ผมเป็นรัฐบาล ท่านก็เคารพผม ผมเคารพท่านเพราะท่านเป็นรุ่นพี่ มีความอาวุโส มีประสบการณ์ แล้วจะมีใครให้ผมเชื่อใจได้มากกว่านี้ มีหรือไม่ เสนอมา สื่อก็ไปตีท่านได้ตลอดเวลา ท่านก็ปฏิเสธมาตลอด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มันไปอยู่ที่สภาวะแวดล้อมและคนอื่นที่จะพูดว่าอย่างไร ไอ้พวกนั้นแหละที่ชอบพูดให้มันเสียหาย ไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าทำเพื่ออะไรเหมือนกัน”

เมื่อถามว่า ในวันที่ลงประชามติ 7 สิงหาคมจะมีการตั้งวอร์รูมที่ไหนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีการตั้งวอร์รูมอะไรทั้งสิ้น วอร์รูมของตนก็คือการนอนที่บ้านดูหนังดูละคร ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว เมื่อลงประชามติแล้วก็ถือว่าทำแล้ว หน้าที่ทุกคนมีแค่นั้นคือไปลงประชามติ รัฐบาลจะต้องมีการตั้งวอร์รูมอีกทำไม ส่วนที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการตั้งวอร์รูมนั้น เขาก็ฟังกันจากโทรทัศน์ทั้งหมด เป็นการดูข่าวจากโทรทัศน์อยู่แล้วทำไมต้องตั้งวอร์รูมขึ้นมาอีก วอร์รูมกันไปทำไม ถ้ามีความขัดแย้ง และล้มประชามติก็ติดคุกกันไป นี่คืออำนาจของตนเต็มๆ ก็ลองดูแล้วกัน อำนาจของตนและ คสช. มีแค่ไหนก็ทำเต็มที่ ใครมาทำให้กระบวนการล้มก็ต้องดูดำเนินการ ทั้งนี้เมื่อการลงประชามติเสร็จสิ้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องรอผลการลงประชามติของประชาชน และเตรียมการแก้ปัญหาต่อไป ถ้าไม่อยากให้ทำอะไรเลยตนก็แก้ปัญหาทางการเมืองอย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ต้องทำเลย รักษาตัวให้ถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่ต้องไปเดินหน้าให้เขาด่า แก้ไขจัดระเบียบให้ผู้ที่เดือดร้อน ไม่ต้องไปเอาป่าคืน ไม่ต้องเอาคดีทุจริตมาตรวจสอบ ควรจะดูผลงานทั้งหมด การปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่มาดูแต่เรื่องการเมืองอย่างเดียว ดูด้วยว่าประเทศชาติต้องการอะไร ทั้งหมดเป็นเรื่องของทุกคนที่จะกำหนดชะตาของตัวเอง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กกต.ไม่ได้ขอความร่วมมืออะไรเข้ามา เขาขอเพียงให้ดูแลในเรื่องกฎหมาย และไม่ต้องขออะไรเพิ่มจากตนอีก หน้าที่ของรัฐบาลตนทำให้ตามกฎหมายอยู่แล้ว และต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เกิดความสงบเรียบร้อย ในฐานะหัวหน้า คสช. กรธ.ก็มีหน้าที่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญ ตนมีหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลก็ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาขออะไรเพิ่มเติมหน้าที่รักษาความปลอดภัยตนทำให้อยู่แล้ว และอย่าลืมเหตุการณ์ในอดีตโดยเฉพาะก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 มันน่ารำคาญอยู่แล้ว

“เราไม่ได้กลัวอะไรทั้งสิ้น ไม่ได้กลัวถ้าเข้าแล้วไม่มีกลัว บอกซะก่อน ฉันเดินหน้าเพราะฉันฟังเสียงประชาชน เพราะผมทำตามที่เขาเรียกร้อง หลายอย่างที่ผมทำให้ หลายอย่างที่ผมทำให้ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ผมไม่ได้ไปหลอกเขาว่าไอ้นี่ทำได้ เพื่อที่จะให้มารักผม ผมไม่ทำ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น