หัวหน้า ปชป.นำลูกพรรคอวยพรวันเกิด “ชวน” เจ้าตัวขอบคุณช่วยปกป้องชื่อเสียงพรรค มองแกนนำอ่าน รธน.ละเอียดรู้จุดอ่อน-แข็ง ยึดหลักถูกต้องไม่โกงให้ได้ชัยชนะ อัญเชิญพระบรมราโชวาท บ้านเมืองมีคนดีและไม่ดี เฉกเช่นนักการเมืองอย่าเอาคนเลวเป็นมาตรฐาน รับ ปชช.เห็นไม่ตรงเรื่องปกติ ฝากทำงานหนักเพื่อพรรค ชี้สภาใหม่ใช้ไม้สักแสดงถึงสัญลักษณ์ชาติ อธิบายให้คนเชียงรายเข้าใจจะส่งผลดี
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ได้นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรวันเกิดครบรอบ 78 ปี แก่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะร่วมรับประทานกลางวันร่วมกัน โดยนายชวนได้กล่าวให้โอวาทว่า งานเลี้ยงอวยพรวันเกิดในวันนี้ได้ขอทางฝ่ายเลขาฯ พรรค (จุติ ไกรฤกษ์) ว่าให้จัดเลี้ยงข้าวแกงเพื่อสมาชิกพรรคจะได้พูดคุยเป็นการภายในโดยไม่ขัดต่อระเบียบของบ้านเมือง เพราะเราเป็นสมาชิกที่เคารพกฎกติกาของบ้านเมือง เข้าใจว่าขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาเนื่องจากมีการยึดอำนาจกันหลายครั้งซึ่งเราไม่ได้ชุมนุมสำคัญทางการเมืองตามที่มีข้อห้าม แต่เป็นการอวยพรในสิ่งที่เป็นมงคล
นายชวนกล่าวด้วยว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในบ้านเมือง เป็นผู้นำพาพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นสถาบันที่อยู่มามากกว่า 70 ปี การที่เรายืนหยัดอยู่ได้เพราะมาจากคนรุ่นก่อนที่ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องเป็นหลัก แม้จะได้รับความเจ็บปวดจากการไม่เข้าใจ แม้ในอดีตไม่ได้มีการชี้แจงแต่เป็นสมัยนี้ก็ต้องขอบคุณที่ช่วยปกป้องชื่อเสียงและการเมือง เนื่องจากเวลานี้ใครก็ด่านักการเมือง โดยเฉพาะผู้ที่มีแนวคิดไม่รับร่างธรรมนูญก็มีการบอกว่าเห็นด้วยกับการคอร์รัปชัน หากอ่านร่างรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ที่เชื่อว่าอ่านร่างรัฐธรรมนูญมากกว่าคนร่างทำให้รู้จุดอ่อนจุดแข็ง รู้ว่ามาตราไหนเป็นอย่างไร มีการออกกฎหมายเพื่อเอื้อกับคนกระทำผิดอย่างไร และมีการทำให้การบังคับใช้ระบอบรัฐสภาไม่มีประสิทธิภาพอย่างไร ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ใช้กฎหมายฉบับเดียวกันจึงต้องบังคับใช้กฎหมายเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลนี้ผิด แต่พอมาอีกรัฐบาล กลับไม่ผิด
“พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นหลักให้บ้านเมือง ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรเราก็ต้องยึดหลักความถูกต้อง เราจะไม่โกงเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แพ้ก็คือแพ้ ไม่ถือโอกาสทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราเชื่อมั่นว่าบ้านเมืองจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นและการถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดดีเท่ากับพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าบ้านเมืองมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เราต้องส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง”
นายชวนกล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีผู้ให้ร้ายนักการเมือง ก็ต้องให้ความรู้ว่าทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี หากผู้แทนเลวหมดก็ไม่ควรมีการเลือกตั้ง ส่วนระบบการแต่งตั้งก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีไปเสียทั้งหมด บางครั้งอาจเป็นโอกาสให้สามารถเลือกคนดีได้มากกว่า เช่นกรณีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีอาจารย์มหาวิทยาลัยได้รับการแต่งตั้งจากทุกภาคยกเว้นภาคใต้ ตัวเองจึงได้แนะนำคนที่รู้จักว่าควรจะมีการกระจายเพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกัน เมื่อมีใครให้ร้ายระบบการเลือกตั้งก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจโดยไม่ต้องไปทะเลาะกับเขา ซึ่งอธิบายความจริงว่าคืออะไร
“ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยปกป้องสถาบันการเมือง เราไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีอะไรทำ แต่เลือกที่จะมาทำงานในเส้นทางนี้ อย่าเอาคนเลวเป็นมาตรฐานและต้องไม่ยอมรับ เพราะในสังคมนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ต้องไม่สมคบกับคนไม่ดีทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่พูดเพราะให้กำลังใจ สำหรับผู้สูงอายุที่ผ่านประสบการณ์มาหลายอย่างก็คงไม่ท้อถอย ที่สำคัญอย่าท้อ เพราะประชาชนมีความคิดเห็นไม่ตรงกับเราเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เช่นนั้นการเมืองก็จะง่ายเกินไป ความยากที่เกิดขึ้นเป็นปกติของการเมือง ทั้งหมดไม่ได้มาด้วยปาฏิหาริย์หรือความบังเอิญแต่มาจากการทำงานหนัก ไม่มีใครเก่งแล้วทำอะไรได้หมด ต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ รวมถึงให้กำลังใจกับหัวหน้าพรรคและผู้บริหาร ทุกคนต้องช่วยกัน ขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุนจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนเพื่อให้การบริหารของพรรคดำเนินต่อไปได้ และเราก็ต้องทำงานหนัก และอยากให้ชักชวนคนที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมกันทำงาน เพราะคนดีบางคนก็ไม่กล้าและไม่พร้อมที่จะเสี่ยง ถ้าพรรคไม่ดีจริงก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดสู้อยู่ได้โดยง่าย ซึ่งเราก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อประชาชนและประโยชน์ของส่วนรวม” นายชวนกล่าว
ทั้งนี้ นายชวนยังได้กล่าวถึงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า การใช้ไม้สักสร้างอาคารรัฐสภาก็เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของประเทศ ไม่ว่ารัฐสภาของประเทศไหนต่างก็แสดงของดีที่มีอยู่ในประเทศของตัวเอง การใช้ไม้จังหวัดไหนก่อสร้าง ประชาชนในจังหวัดนั้นควรจะภูมิใจ แต่ของเราเกิดกระแสที่ทำให้เกิดความเข้าใจไปในอีกทางหนึ่ง โดยการก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของประเทศไทยเป็นไปตามมติ ครม.ปี 2538 ที่ให้ออกแบบอาคารสำคัญในประเทศไทยโดยคำนึงถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ แต่ไม่ได้กำหนดวัสดุที่จะต้องนำมาใช้ แต่ไม้สักก็ถือเป็นของดีของประเทศไทย เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย เช่นเดียวกับอาหารหรือเอกลักษณ์และหลายๆ ที่เป็นจุดเด่นตัวเองจึงได้เสนอว่าในการก่อสร้างควรใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และเสนอว่าควรใช้ไม้สักในการก่อสร้าง หากสามารถอธิบายให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายเข้าใจ และมีความภูมิใจว่าอาคารรัฐสภาใช้ไม้ในจังหวัดของตนเองก็จะส่งผลดีต่อประเทศไทย
