“ประยุทธ์” ประชุม กนพ.เดินหน้าลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อ ขออย่าโจมตีไม่มีใครลงมาทุน ชี้วันหน้ายังมี ขอประชาชนอย่าเชื่อคำปลุกปั่นขับไล่ออกจากพื้นที่ แจงถ้ายังไม่สร้างจะไล่ทำไมเปลืองเงินเยียวยา ขอสื่อช่วยทำความเข้าใจ
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ว่าเป็นการประชุมเพื่อทบทวนว่า 2 ปีที่ผ่านมา การตั้งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในหลายจังหวัดและได้มีการติดตามประเมินผล การเสนอแผนการ การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน พอเข้าปีที่ 2 ต้องมาดูว่าศักยภาพมีมากน้อยแค่ไหน ในสิ่งที่เขาได้ประกาศไปแล้ว อย่างไรตนก็ไม่ยกเลิก จะลงทุนแค่ไหนเอาที่มีศักยภาพก่อน วันนี้มีที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อ.แม่สอด จ.ตาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งน่าจะมีศักยภาพมากกว่าพื้นที่อื่น แต่ไม่ใช่ว่าจะยกเลิกพื้นที่อื่น ซึ่งพื้นที่อื่นจะไปพิจาณาดูว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไร เราจะต้องมาพิจารณาเป็นรายเฉพาะในบางกิจกรรม ไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อนไปหมด และไม่เข้าใจกัน หาว่าไปไล่คนออกจากพื้นที่ ไม่ได้ไล่คนเพียงแต่ว่าตรงไหนจะต้องก่อสร้าง ก็จะต้องดูแลพื้นที่เป็นเฉพาะจุด แต่วงใหญ่ก็จะมีเรื่องสิทธิประโยชน์ สมมุติว่าบริษัทนี้มาลงทุนในวงนี้ เราก็ได้สิทธิประโยชน์บีโอไอ หรือสิทธิประโยชน์แรงจูงใจต่างๆ ประชาชนอย่าเพิ่งไปเชื่อในคำปลุกปั่นที่ว่า จะต้องถูกขับไล่ออกทั้งหมด ถ้ายังไม่สร้างอะไรจะไปไล่ออกทำไมให้เปลืองค่าเยียวยา ค่าดูแลอีกทำไม ต้องทำงานแบบนี้ เพราะฉะนั้นอย่ามาโจมตีรัฐบาลว่าทำแล้วไม่มีใครมาลงทุน ถ้าวันนี้ไม่ลงทุน ก็มาลงทุนกันวันหน้า ถ้าไม่วางอนาคตไว้จะเกิดอะไรไหม มันต้องตีกรอบไว้เหมือนกัน แต่ละด้านก็ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหมด ในเมื่อเขายังไม่พร้อมฝ่ายเราการลงทุนก็ยังไม่มีมากนัก เป็นเรื่องธรรมดา การลงทุนภาคเอกชนต้องดูว่าเขามีความก้าวหน้าตรงไหน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อต้องช่วยกันทำความเข้าใจเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษกับประชาชนด้วยว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำแต่จะให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุดรวมถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะต้องไปดู ทั้งนี้ เราต้องมาวางแผนเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะทุกพื้นที่ทำพร้อมกันโดยขณะที่ศักยภาพ ผลตอบแทนรัฐยังมองไม่เห็น ตนว่าลงทุนไปก็จะสูญเปล่า วันหน้าจะอยู่ในแผนการลงทุนต่อไปว่าจะทำตรงไหน สิ่งสำคัญที่ย้ำคือ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต้องทำก็ต้องทำไปก่อนเพื่อเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และรอเขาเชื่อมต่อเรามาอีกที ในขณะเดียวกัน ประชาชนในพื้นที่ก็จะได้ใช้ประโยชน์ไปก่อน การสัญจรไปมาในพื้นที่ การสร้างความเชื่อมโยงซึ่งตนได้เอาเรื่องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC มาพิจารณาด้วย จึงต้องลดทอนตรงนู้นมาใส่ตรงนี้ ตนก็มีเวลา มีโรดแมปอย่างนี้