xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย” ย้อนกลุ่มต้านมีแต่หน้าเดิม รับเอาผิดวิชามารยากมุ่งชี้แจง ย้ำ รธน.ไม่มีข้อเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (แฟ้มภาพ)
ประธาน กรธ.มองภาคธุรกิจเข้าใจ รธน.ก็เป็นเรื่องดี ตัดพ้อโดนรุมไม่เป็นธรรม ย้อนไม่รับร่างออกมากี่กลุ่มก็หน้าเดิม ฉะพวกจิตสกปรกใช้วิชามาร รับเอาผิดยาก ทำได้คือชี้แจง เผยไร้กังวล ขอสื่ออย่าเป็นเครื่องมือ มอง กรธ.ร่วมดีเบตไม่ได้อะไร เหตุเวลาเหลือน้อยต้องไปชี้แจงชาวบ้าน แย้มครู ก.ร่วมได้ ไม่วิจารณ์ ปชป.เมินรับร่าง ขอพึ่ง ปชช. เชื่อกระแสคว่ำร่างเพื่อให้ คสช.อยู่ต่อไม่มีผล ยัน รธน.ไม่มีข้อเสีย รายละเอียดครบ

วันนี้ (26 ก.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการบรรยายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้กับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า คิดว่าจะเป็นประโยชน์มาก เพราะเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจการค้าอยู่พอสมควร ถ้านักธุรกิจซึ่งเป็นบุคคลที่ประสบการณ์ทางธุรกิจ การค้า และการเมืองมีความเข้าใจก็จะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ ตนคิดว่า ประชาชนตื่นตัวและได้รับข้อมูลมากขึ้น ตนรู้สึกว่ากำลังโดนรุมอย่างไม่เป็นธรรม และกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะกลุ่มเดียวออกมาหลายฐานะมาบอกว่า ออกมาในนาม 40 กลุ่ม หรือ 60 กลุ่ม ทั้งๆ ที่ก็เป็นคนกลุ่มเดิมที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ยังไม่ได้ยังไม่ได้ร่าง โดยขณะนี้ กรธ.ยังเจอกลุ่มบุคคลที่นำบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งเคยเขียนตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2475 ตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาขีดเส้นใต้และพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด

“วิธีการนี้เป็นวิธีของพวกจิตใจสกปรก คดโกงชาวบ้าน ตอนนี้ผมกังวลว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 10 วันก่อนการออกเสียงประชาชนจะเจอวิชามารอีกหลายรูปแบบ”

นายมีชัยกล่าวว่า การดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ดำเนินการดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เพราะไม่ทราบว่าผู้ใดพูด หรือมีต้นตอการเผยแพร่อย่างไร หากจะเร่งรัดดำเนินการก็จะถูกมองว่าไม่ให้ความเป็นธรรม ถึงแม้ว่า กรธ.จะมีเครือข่ายเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดูแลตามให้เป็นไปกฎหมาย ก็ยังยากที่จะดำเนินการ ดังนั้นสิ่งที่ กรธ.สามารถทำได้คือการชี้แจงไปยังประชาชนตามเวทีต่างๆ

“กลุ่มคนที่ออกมาสร้างกระแสตามเวทีต่างๆ เป็นคนกลุ่มเดิม และพยายามสร้างความเคลื่อนไหวที่ทำให้เห็นว่าคนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีจำนวนมาก ทำให้กระแสมันแย่ลง ทั้งที่โพลที่ออกไม่ได้เป็นอย่างนั้น ซึ่งจากกระแสผลที่ดีออกมาดี เราจึงเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ทั้งข่าวการทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ซึ่งกระบวนการที่เกิดขึ้น ตอนแรกยอมรับว่าเป็นกังวลอยู่ แต่ตอนนี้ไม่กังวลแล้วเพราะมีแต่คนหน้าซ้ำที่ออกมา บางคนเคยประกาศรับร่างตั้งแต่ต้น ดังนั้นต่อให้จะชี้แจงแทบตายก็ทำอะไรไม่ได้ ขอเรียกร้องให้สื่ออย่าไปเป็นเครื่องมือให้แก่คนเหล่านั้น แม้ภาพที่ออกมากระแสโหวตโนจะมีเยอะ แต่ก็อาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้” นายมีชัยกล่าว

นายมีชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการจัดเวทีดีเบตและเชิญ กรธ.ไปนั้น ตนมองว่าถ้าจะทำเพื่อความสนุกก็ทำได้ แต่ก็จะไม่ได้อะไรเพราะเวลาเหลือน้อย หน้าที่ กรธ.ต้องออกไปชี้แจงชาวบ้าน คนไม่เห็นด้วยก็พูดไป แต่ขออย่าบิดเบือน ส่วนกรณีที่ กกต.จะจัดเวทีดีเบตทั้งประเทศโดยเชิญวิทยากรระดับจังหวัด (ครู ก.) ไปร่วมนั้น ตนมองว่า ครู ก.มีอยู่สองสถานะ คือ เป็นประชาชน และหน่วยงานเผยแพร่สารพสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญไปยังคนอื่นได้ ดังนั้น ครู ก.จึงเป็นผู้รู้พอสมควร สามารถพูดคุยกันได้ ส่วนการเผยแพร่สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ตนไม่สามารถประเมินเพื่อให้คะแนนตนเองได้ เพราะทำให้สุดสติปัญญาแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มว่าจะไม่รับ จะมีผลต่อการทำประชามติหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า “ไม่ขอวิจารณ์ แต่ละคนมีสิทธิ์คิด ผมจึงขอพึ่งประชาชน” เมื่อถามว่ามั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า ตอบไม่ได้ ส่วนที่นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า กระแสไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นเพราะอยากให้ คสช.อยู่ต่อ นายมีชัยกล่าวว่า “ไม่ขอออกความเห็น ผมไม่รู้จักกับนายไพศาลเป็นการส่วนตัว ต้องไปถาม พล.อ.ประวิตร (วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) เพราะนายไพศาลเป็นที่ปรึกษา แต่เชื่อว่าไม่มีผลอะไร”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้แจ้งต่อ กกต.ให้ดำเนินคดีต่อ กรธ.เพราะทำหน้าที่ไม่ครบถ้วน เนื่องจากไม่ยอมบอกข้อเสียในร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัยกล่าวว่า ในความเห็น กรธ.เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่มีข้อเสีย เพราะข้อเสียได้แก้ไปนานแล้ว หากจะให้พวกตนบอกว่ามีข้อเสียอะไร ตนขอชี้แจงว่าหากเป็นข้อเสียแล้วจะเขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญทำไม ส่วนกรณีที่ระบุว่าเอกสารของ กรธ.นั้นมีรายละเอียดหรือสาระสำคัญไม่ครบ ตนชี้แจงได้ว่าเอกสารดังกล่าวได้สรุปสาระสำคัญ หากจะเผยแพร่ได้ครบต้องมีเนื้อหาทั้ง 279 มาตรา ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ได้หลอกลวงผู้ใด ส่วนที่ยังแจกเอกสารไปไม่ถึงมือประชาชนนั้นตนมองว่ายังมีหลายช่องทางอื่นที่ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น