ปชป.ประกาศไม่เอารัฐธรรมนูญ กระชากเรตติ้งแบบหล่อๆ!?

สะเก็ดไฟ

ไม่เกินอึดใจได้รู้หมู่หรือจ่า ประชามติ 7 ส.ค. ชี้ขาด “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับขิงแก่” ของซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ หัวเรือ กรธ. ยี่ห้อ คสช. ล้อด้วยจังหวะจะโคนจากเครือข่ายหนุน-ต้าน ต่างเติมน้ำมันเต็มถัง หวังวัดกำลังช่วงโค้งสุดท้าย

ทั้งค่ายลูกหาบสำนักนายใหญ่ ยกโขยงออกมาโพสต์เฟซบุ๊กยี้รัฐธรรมนูญซือแป๋กันแทบหมดกุฏิ

ทั้งเวทีแสดงสดเฟซบุ๊กไลฟ์รายวัน จากสองค่ายมวลชนใหญ่ขั้วตรงข้าม “เดอะตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

คนหนึ่งก่นด่าสาดเสียเทเสีย เน่าเฟะแทบทุกมาตรา ส่วนอีกฝ่ายเปลื้องเจตนารมณ์ยกหางกันสุดลิ่มทิ่มประตู ตั้งแต่คำปรารภ จนถึงปฏิรูปที่รุดหน้าทุกกระเบียดนิ้ว อะไรเยี่ยงนี้

จะไม่ไปโหวตรับได้อย่างไร ครับทั่น!

ไหนจะบรรดาแนวร่วมนักศึกษาปัญญาชนที่ระดมกระหน่ำซัมเมอร์เซล จวกรัฐธรรมนูญฉบับเต่ากัดล้อ ไร่วี่แววความเป็นประชาธิปไตยหัวก้าวหน้า ตั๋วรถไฟไปสู่วันประชามติ เกือบจะเต็มครบทุกที่นั่ง

พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ขาด ต่างฝ่ายจึงตั้งคำถามว่า เหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ ต้องทำตัวเป็นเขยใหม่ เอียงอายสงวนท่าที ทั้งที่เป็นหนึ่งในสองพรรคใหญ่ มีส่วนร่วมกับการเมืองไทยมายาวนาน

บ้างว่า คสช.ห้ามสุมหัวเกิน 5 คน จึงยังประชุมพรรคไม่ได้ ต้องประชุมสุมหัวกันก่อน จึงจะประกาศเป็นมติพรรคได้ บ้างกระเซ้าว่า สงสัย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค ไม่กล้าแสดงจุดยืนสวนศิษย์เก่าประชาธิปัตย์อย่าง “กำนันเทือก” ที่ประกาศ “ไอเลิฟรัฐธรรมนูญ” ดูดดื่มรายวัน

แต่ล่าสุดขณะฝนกระหน่ำกรุง ช่วงสัปดาห์ก่อน “เดอะมาร์ค” เริ่มออกมาเล่นน้ำฝนหลังกบดานมานาน โดยส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มของ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญ หลังกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา 24 ก.ค. แน่นอน

แต่เจ้าตัวยังไม่บอกว่าจะออกลูกไหน คว่ำ หรือรับ!

ทำให้แต่ละฝ่ายต่างคาดเดาต่างๆ นานาน ทว่า พอจับจังหวะหลัง “เดอะมาร์ค” ขยับก้าวออกจากที่ตั้ง บรรดาอดีต ส.ส. ต่างแสดงความเห็นผ่านไลน์กลุ่ม อดีต ส.ส. พรรคเช่นกัน แม้ยังนับเสียงเป็นเปอร์เซ็นต์ชัดเจนไม่ได้ แต่มี อดีต ส.ส.พรรคบางรายแสดงจุดยืน “ยังไงก็เอาด้วย รับรัฐธรรมนูญแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม ขอฟันฉับขาดครึ่งล่วงหน้า งานนี้เตรียมเห็น “เดอะมาร์ค” ออกมาโชว์ออฟ ประกาศ “ไม่รับ” รัฐธรรมนูญกันได้เลย ด้วยเหตุผลฉะนี้

1. ผลงานของ “ซือแป๋มีชัย” เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่ก้าวหน้า

2. เป็นฉบับที่แก้ไขยาก จนถึงแตะต้องไม่ได้เลย หากมาตราใด ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินสะดุด ติดหล่มในอนาคต ประชาชนจะเดือดร้อน วงจรของการยึดอำนาจจะกลับมาฉุดประเทศไทยกลับไปจมกองเลือดเหมือนในอดีตอีก

3. เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่มีลักษณะของการสืบทอดอำนาจหมกเม็ดอยู่ โดยเฉพาะปม “ส.ว.ลากตั้ง 250 นาย”ด้วยมือ คสช. เลือกเฟ้น คงหนีไม่พ้นผู้นำเหล่าทัพ ต่างตบเท้าเข้าวิน กำกับเสียงในสภาโดยตำแหน่งอย่างครบครัน ทำให้ ส.ว.ไร้ความเป็นอิสระ ถูกครอบงำ เป็นปมที่หนักกว่า ส.ว.เลือกตั้งในอดีตด้วยซ้ำ

4. ไม่เห็นด้วยกับคำถามพ่วง ที่ให้ ส.ว.ลากตั้ง ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นหลักคิดที่ไม่เห็นความสำคัญจากคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน

5. ไม่เห็นด้วยเรื่องบัตรเลือกตั้ง ใบเดียวคิดคะแนน ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ ไม่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน

6. ไม่เห็นด้วยเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ห่วยแตก ฟังเหมือนดูดี ประเทศมียุทธศาสตร์ชาติคอยกำกับรัฐบาล ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง แต่กลัวโลกเปลี่ยนแปลงไปไหนต่อไหน จนไทยก้าวไม่ทันนานาชาติ ครั้นกลับตัวขอแก้ไขกฎหมาย คงทำยากมาก เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดให้การแก้กฎหมายต้องได้เสียงข้างมากจาก ส.ว.ลากตั้ง ยี่ห้อ คสช.ด้วย ดังนั้น คนกันเองจะยอมแก้สิ่งที่คนกันเองกำหนดขึ้นมาง่าย ๆ ได้อย่างไร จึงเอวังจบเห่ลิเกเลิก ตั้งแต่ยังไม่โหมโรงด้วยซ้ำ

7. เรื่องการให้อำนาจองค์กรอิสระ อาทิ ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาคอยเตือน หรือระงับยับยั้งบางโครงการของรัฐบาลได้ ไม่ควรกำหนดไว้อย่างยิ่ง เพราะองค์กรอิสระดังกล่าว ถนัดแต่เรื่องการตรวจสอบทุจริต แต่ไร้ความเชี่ยวชาญด้านงานบริหาร

6 - 7 เหตุผลไม่เอารัฐธรรมนูญ ที่ร่ายยาว มากมายหลายหลากข้างต้น มิได้ถือวิสาสะมโนนึกเอาเองใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นเหตุผลที่ “เดอะมาร์ค” ตกผลึกจากปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ของพรรคมาสักระยะแล้วทั้งสิ้น

“เมื่อสรุปรวบรวมความ ไม่เอาด้วยทั้งร่างหลัก หรือคำถามพ่วงที่เสนอโดย สนช. เพราะจะทำประเทศย้อนยุค ถอยหลัง 50 ปี ถึงสมัย จอมพล ถนอม กิตติขจร! สิ่งเหล่านี้ ประชาธิปัตย์เราเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง รับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้” จะหล่อประมาณนี้

หากถามว่า เหตุใดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องอดทนกั๊กท่าทีจนถึงเกือบนาทีสุดท้ายขนาดนี้ ทั้งที่ยี้จะตายไป? คำตอบคือ ไม่ได้อยากเป็นพระเอกขี่ม้าขาวออกมาในตอนจบแต่อย่างใด

แต่ อภิสิทธิ์ กับผู้ใหญ่ของพรรค ใคร่ครวญ ปรึกษาหารือกันดีแล้วเห็นว่า เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องการให้บางฝ่ายหยิบการแสดงจุดยืนใดๆ ของพรรคไปขยายผล ตีกินสร้างความขัดแย้ง ในขณะที่กำลังร่างรัฐธรรมนูญ จนถึงเริ่มกำหนดวันประชามติ 7 ส.ค. ถ้าประกาศชัดตั้งแต่ต้น แรงกระแทก จะถาโถมเข้าใส่ยากคาดเดา ประกอบกับพรรคมีอดีต ส.ส. ที่เป็นสมาชิกของ กปปส.รวมอยู่ด้วย โดยกลุ่ม กปปส.ที่เห็นไม่ตรงกัน ประกาศชอบรัฐธรรมนูญตั้งแต่คำปรารภแล้วอีกนัย คือเฉยไว้จะดีกว่า!

ใครเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มองออกกันอยู่ ประชาธิปัตย์ดั้งเดิม อุดมการณ์จริงๆ ไม่รับรัฐธรรมนูญแบบนี้แน่ ถ้าประกาศคว่ำเร็ว มันก็อาจจะเกิดความไม่ลงรอยกันในพรรคได้ เลยเอาไว้ก่อน ดูสถานการณ์ทางการเมืองช่วงท้าย ๆ น่าจะดีกว่า แรงกระแทกน่าจะน้อยกว่า ในไลน์หลังจากนายอภิสิทธิ์ บอกจะประกาศท่าทีหลังกลับจากต่างประเทศ มีอดีต ส.ส.ส่งข้อความเห็นต่างอยู่เหมือนกัน บางคนประกาศรับรัฐธรรมนูญเลยก็มี ซึ่งเป็นความอิสระส่วนตัว แต่ก็มี อดีต ส.ส.ส่วนหนึ่ง พยายามบอกว่า หัวหน้าพรรคประกาศท่าทีอย่างไร จะไม่มีใครแสดงท่าทีสวนความเห็นกับหัวหน้าพรรค แม้ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่ เพราะเคารพ ให้เกียรติในฐานะหัวหน้าพรรค

จึงไม่แปลกที่จะเห็นมีศิษย์ในค่าย ประกาศตัวสวนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้เห็นก่อนเลยไง !!

อย่างไรก็ตาม การที่ “เดอะมาร์ค” ตกลงปลงใจร่วมกับ “ผู้ใหญ่ของพรรค” จะออกมาประกาศไม่รับร่าง 25 ก.ค. นี้นั้น เพราะผู้ใหญ่ของพรรคเห็นแล้วว่า มีผลดีคือ

1 .ได้ประกาศจุดยืนของสถาบันการเมืองให้แฟนคลับได้เห็นว่า ประชาธิปัตย์ ยังคงเป็นสถาบันการเมืองที่อยู่ข้างเดียวกับฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอาด้วยกับรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ

2. หากกั๊กท่าทีเป็นศรีธนญชัยหลบมุมต่อไปเรื่อย ๆ จะส่งผลทางลบ เสียโอกาสอย่างใหญ่หลวง สถาบันทางการเมืองของพรรคเก่าแก่ จะเพิกเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว กับหมากใหญ่บนกระดานการเมืองไม่ได้

แม้ว่า การประกาศโครมครั้งนี้จะสวนทางกับคนกันเอง จนอาจเกิดคำถาม ปนความสับสนภายใน ให้กับแฟนคลับ หรือ อดีต ส.ส.ของพรรคก็ตาม แต่พรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นร่มใหญ่ กปปส. หรือเหล่าแก๊งมวลมหาฯ ถือเป็นร่มย่อย จะขุ่นมัวกันนิดหน่อยเป็นเรื่องธรรมดาของประชาธิปัตย์อยู่แล้ว

งานนี้ สุดหล่ออย่าง “อภิสิทธิ์” จึงบ่ยั่น ถือคติเดินตามหลังผู้ใหญ่ (ในพรรค) มีหรือหมาจะกล้ากัด!