กรธ.-สนช.-สปท.แจงร่าง รธน.ให้ชาวกรุง ชี้ถ้าผ่านทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมป

อนุฯ เผยแพร่ประเด็นประชามติ สนช.แจงสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญให้แก่คนกรุงตอนบน กรธ. “ประพันธ์” อธิบายข้อดี สนช. “หมอเจตน์” อ้างคำถามพ่วง ส.ว.เลือกนายกฯ ให้เกิดความต่อเนื่องปฏิรูปประเทศ สปท. “เลิศรัตน์” ชวนมาออกเสียง ถ้ากฎหมายผ่านทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมป

วันนี้ (24 ก.ค.) คณะอนุกรรมการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ประเด็นที่สมควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพิ่มเติม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดการสัมมนาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นคำถามพ่วง และกระบวนการออกเสียงประชามติ ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ เขตบางเขน เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาชนที่เข้าร่วมสัมมนากว่า 400 คนในพื้นที่กรุงเทพมหานครตอนเหนือ ได้แก่ เขตดอนเมือง บางเขน ลาดพร้าว จตุจักร สายไหม หลักสี่ และบางซื่อ

นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้อธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ที่เน้นเรื่องสิทธิและเสรีภาพ โดยเฉพาะการบัญญัติในมาตรา 25 ว่าสิ่งใดไม่ได้ห้ามไว้ ถือเป็นสิทธิ์ที่จะกระทำได้ รวมถึงการมีบทบัญญัติหน้าที่ของรัฐ ที่ระบุให้รัฐต้องดำเนินการเรื่องสำคัญ ทั้งการจัดการศึกษา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น การจัดบริการสาธารณสุข จนไปถึงเรื่องสิทธิชุมชนที่ระบุต้องดำเนินการศึกษาผลประทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระบวนการป้องกันการทุจริต ที่มีจุดเด่นเรื่องการกำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เป็นไปอย่างเข้มงวด การควบคุมนโยบายไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และการปฏิรูปประเทศเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปตำรวจ

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช.ได้อธิบายเหตุผลของคำถามพ่วง ที่เสนอให้ ส.ว.มีส่วนร่วมกับ ส.ส. เลือกบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เอื้อต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปประเทศ ที่ต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นภายใน 5 ปีแรก หลังประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญ ตอบสนองความสอดคล้องการทำหน้าที่ของ ส.ว.ที่มีหน้าที่เร่งรัดติดตามการปฏิรูปประเทศ และการกำหนดให้คณะรัฐมนตรีต้องรายงานความคืบหน้าต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของ ส.ว.ชุดแรก 250 คน ที่มาจากการคัดเลือกโดย คสช. ซึ่งนอกจากความต่อเนื่องในการปฏิรูปแล้วยังมีความสอดคล้องกับแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ทุกรัฐบาลต้องดำเนินการตามที่วางไว้

ขณะที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิก สปท.ย้ำว่า การลงมติขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ถึงการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 มีผู้ออกมาใช้สิทธิเพียงร้อยละ 57 เท่านั้น จึงอยากให้ออกมาใช้สิทธิให้มากเพราะเป็นเรื่องสำคัญ หากเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญทุกอย่างก็จะเป็นไปตามโรดแมป คสช. เข้าสู่กระบวนการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง และหากเห็นชอบกับคำถามพ่วง กรธ.ก็จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน เพื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้อง