กรธ.ย้ำอีกครั้งไม่ร่วมดีเบตกับใครออกทีวี ถก “สมชัย” เผยตารางใครออกรายการ เตือนเป็นเรื่องที่ผิด เพราะไม่ได้รับปาก ปัดตัดชื่อ 5 แกนนำการเมือง-เยาวชน โยนใครไม่ได้เอกสารไปถาม กกต.
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยถึงมติการร่วมรายการสาระประชามติ ที่จัดโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.ถึง 5 ส.ค.ว่า กรธ.จะไม่เข้าร่วมในรายการดังกล่าว เพราะ กรธ.มีหน้าที่เพียงยกร่างรัฐธรรมนูญ และอธิบายเนื้อหาให้ทุกภาคส่วนเข้าใจ เนื่องจากเวทีนี้ก็ควรเป็นการเปิดกว้างให้กับผู้เห็นต่างอย่างเต็มที่ จากนี้ก็จะติดตามว่าในรายการจะมีการบิดเบือนเนื้อหาหรือไม่ หากพบ กรธ.จะออกมาอธิบายในข้อเท็จจริงให้ประชาชนนั้นได้เข้าใจ ทั้งนี้ยังยืนยันว่าไม่มีส่วนในการเสนอตัด 5 รายชื่อผู้เข้าร่วมรายการ กกต.เป็นผู้พิจารณาร่วมกับสถานีโทรทัศน์เอง
ด้านนายชาติชาติ ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ.ได้ระบุถึงการหารือร่วมต่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่านายสมชัยเล่าถึงตารางการออกรายการ รวมถึงคิวการร่วมรายการของ กรธ.แต่ละคนว่าจะพูดในหัวข้อต่างอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะ กรธ.ไม่ได้รับปากที่เข้าร่วมตั้งแต่ต้น และการที่นายสมชัยบอกว่ามีมติร่วมกับ กรธ.ตัด 5 รายชื่อผู้เข้าร่วมรายการ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้นายสมชัยเป็นผู้มาชี้แจงเองว่า กกต.ได้ตัดชื่อ
นายชาติชายยังกล่าวถึงสาเหตุที่เอกสารร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ถึงมือประชาชนตามกำหนดเวลาว่า เนื่องจากการจัดส่งของไปรษณีย์เริ่มต้นจากศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ แต่เมื่อเอกสารไปถึงไปรษณีย์จังหวัด เจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ กลับต้องมาเย็บจุลสารของ กรธ.ด้วยตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดให้มีนักเรียน หรือนักศึกษาเข้าช่วยในเรื่องการจัดเอกสารก่อนส่ง จึงทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการจัดส่งให้ถึงมือประชาชน
“กำหนดการส่งเอกสารจะต้องถึงประชาชนภายในวันที่ 22 ก.ค.ซึ่งคือวันนี้ ดังนั้นจึงอยากให้สื่อมวลชน โทร.ถามบุคคลทั่วไป 30 สายหากยังไม่ได้รับ ก็ขอให้โทรศัพท์สอบถามไปที่ กกต.ได้ทันที” นายชาติชายกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่ประชุม กรธ.แจ้งว่า รายชื่อที่ถูกตัดคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายรังสิมันต์ โรม และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษา นอกจากนี้ กรธ. ยังได้ทักท้วงหัวข้อที่นายสมชัยเสนอมา เพราะบางหัวข้อเป็นการตั้งธงไว้แล้ว กรธ.จึงเสนอให้ปรับหัวข้อให้เป็นกลางเพื่อป้องกันการชี้นำ อาทิ หัวข้อที่เกี่ยวกับสาธารณสุขที่ให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนักวิชาการที่รู้จริงมาพูด