xs
xsm
sm
md
lg

มอบดอกไม้ 2 ข้าราชการสภาฯ เซ่นคำสั่ง “พรเพชร” ลั่นใช้สิทธิอุทธรณ์แน่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มอบดอกไม้ให้กำลังใจ 2 ข้าราชการสภาฯ หลังถูก “พรเพชร” ปลดเพราะสร้างรัฐสภาใหม่ไม่เต็มที่ และไล่ออกอีกคนเพราะอนุมัติยืมเงินสร้างพระเครื่อง ยืนยันไม่ยอมรับผลสอบ-ใช้สิทธิอุทธรณ์

วันนี้ (11 ก.ค.) ที่รัฐสภา จากกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา มีคำสั่งปลด นายคุณวุฒิ ตันตระกูล ออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรณีทำผิดวินัยร้ายแรงเพราะละเลยการปฏิบัติหน้าที่ฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการดิน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และคำสั่งไล่ นายสมชาติ ธรรมศิริ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาฯ กรณีที่ใช้ตำแหน่งประธานสโมสรรัฐสภา อนุมัติเงินจำนวน 3.4 ล้านบาท ให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ยืมเพื่อดำเนินโครงการจัดสร้างวัตถุมงคลโดยมิชอบ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ได้มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ นำพวงมาลัยดอกไม้ และดอกกุหลาบมามอบให้แก่นายคุณวุฒิ และนายสมชาติ เพื่อให้กำลังใจ ทั้งนี้ นายคุณวุฒิกล่าวว่า ตนได้ลงนามรับทราบคำสั่งปลดออกแล้วเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.ค. โดยหลังจากนี้ตนจะใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา (ก.ร.) ภายใน 30 วัน เชื่อว่า ทาง ก.ร.ที่มีนายพรเพชรเป็นประธานนั้นจะให้ความเป็นธรรมแก่ตน ทั้งนี้เมื่อได้เห็นเอกสารคำสั่งให้ปลดออกซึ่งได้อ้างการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความไม่ตั้งใจ และอุตสาหะ เอาใจใส่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ โดยยกกรณีที่ตนฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการดินฯ ทิ้งช่วงการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 8 และ ครั้งที่ 9 ห่างกัน 4 เดือน จนทำให้กระทบต่อแผนการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในประเด็นดังกล่าวตนได้ชี้แจงและให้ข้อเท็จจริงเมื่อครั้งที่ให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า ในการประชุมครั้งที่ 8 ทางบริษัทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัทที่ปรึกษาโครงการ, บริษัทควบคุมงาน และบริษัทของผู้รับจ้าง แจ้งให้ระงับการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ เนื่องจากต้องใช้ดินส่วนดังกล่าวเป็นส่วนประกอบในการค้ำยันโครงสร้าง ซึ่งทางบริษัทที่เข้าประชุมได้ขอเวลาในการคงดินในพื้นที่ ไว้ 4-5 เดือน ทำให้ที่ประชุมต้องปฏิบัติตามคำร้องดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้การประชุมครั้งที่ 8 กับครั้งที่ 9 ต้องทิ้งช่วงห่างกันนาน 4 เดือน นอกจากนั้นคณะกรรมการบริหารจัดการดินฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายดิน มีเพียงหน้าที่การประสานงานและทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆ เท่านั้น ซึ่งตนยืนยันว่าไมได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ราชการเสียหาย

นายคุณวุฒิกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ผลสอบระบุว่าเป็นเพราะการบริหารจัดการดิน ที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จนทำให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการรัฐสภา ทำให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากในการเช่าพื้นที่เอกชนเพื่อใช้เป็นสำนักงานและเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนต้องถูกปลดออกนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมามี 4 หน่วยงานในพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้แก่ ชุมชนทอผ้า, ห้องสมุดของกรุงเทพมหานคร, กรมการอุตสาหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม และโรงเรียนโยธินบูรณะ ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ทันตามกำหนด แต่ไม่ถูกระบุว่าสร้างความเสียหายให้แก่โครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม ตนพอทราบถึงผลสอบดังกล่าวว่าจะออกมาแบบนี้ แต่ไม่ขอยอมรับเพราะตนไม่เคยโกง ไม่เคยถูกสอนให้โกง และไม่ยอมในสิ่งที่ผิด เพราะหากตนยอมแล้วเมื่อตายจะไปตอบคำถามกับนายประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ อดีตเลขาธิการสภาฯ ปี 2503 เป็นตาของตนที่ล่วงลับไปแล้วซึ่งมีความเกี่ยวโยงเป็นญาติกับนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษได้อย่างไร ทั้งนี้หากตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ก.ร.จะยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง

ทางด้านนายสมชาติกล่าวภายหลังรับมอบดอกไม้จากข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ว่า ขอให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางข้าราชการที่ดี และอย่านำกรณีที่ตนและนายคุณวุฒิถูกให้ออกจากตำแหน่งราชการมาเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความท้อในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ตนถือว่าได้พ้นจากตำแหน่งข้าราชการแล้วไม่ต้องมากังวลอะไร แต่ตนจะขอให้สิทธิยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ในสิทธิและความเป็นธรรม สำหรับผลการตัดสินที่ไล่ตนออกจากตำแหน่งนั้น เมื่อพิจารณาในข้อมูลและเหตุผลแล้วไม่มีความสมเหตุสมผล เนื่องจากในข้อเท็จจริงนั้นสโมสรรัฐสภาถือเป็นส่วนราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งการที่สโมสรรัฐสภา ให้สภาฯ ยืมเงิน 3.4 ล้านบาทเพื่อสร้างวัตถุมงคลนั้นเป็นไปตามมติของคณะกรรมการสโมสรรัฐสภา ไม่ใช่เป็นคำสั่งของตน แต่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ต้องเป็นผู้ลงนามอนุมัติตามมติของคณะกรรมการฯ ซึ่งภายหลังจากที่สโมสรรัฐสภาให้ยืมเงินแล้ว ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ทยอยคืนเงินให้กับสโมสรรัฐสภา แต่เป็นการทยอยส่งคืน เนื่องจากการจำหน่ายวัตถุมงคลนั้นต้องอาศัยเวลาการในการจำหน่าย ทั้งนี้ในการให้ยืมเงิน หรือการโอนเงินคืน เป็นขั้นตอนทางบัญชีของหน่วยงานราชการในสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งตนไม่ได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ในรายได้ที่มาจากการจำหน่ายส่วนหนึ่งได้นำไปเป็นสวัสดิการของข้าราชการรัฐสภา

“ผมไม่ยอมรับผลการตรวจสอบดังกล่าว เพราะในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในคณะกรรมการสอบสวนนั้นให้เวลาตนชี้แจงข้อกล่าวหาเพียง 17 วันเท่านั้น อีกทั้งทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้เชิญบุคคลที่ผมเสนอให้เป็นพยาน อาทิ นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาฯ และผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ แต่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไม่ได้เชิญบุคคลที่ผมขอเพิ่มพยานมาให้ข้อเท็จจริง ขอตั้งข้อสังเกตว่ากรณีสอบสวนผมนั้นทำไมใช้เวลาได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากการสอบสวนการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างในสภาผู้แทนราษฎร เช่น โครงการการปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ, โครงการปรับปรุงลานหินอ่อน บริเวณพระราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 หรือ โครงการปรับปรุงแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 ที่ใช้เวลาตั้งเรื่องสอบสวนนานถึง 2 ปี แต่ขณะนี้ผลสอบยังไม่ปรากฏ” นายสมชาติกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น