“คิง เพาเวอร์” ตั้ง สปท. “บัญชา” เป็นทนายยื่นฟ้องรองประธาน อนุ กมธ.ปราบทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ฐานหมิ่นประมาทเป็นคดีที่ 2 หลังแถลงข่าวรอบสองปมเซ็นสัญญา ทอท. ซัดพูดไม่ครบ ชี้นำให้ชาวบ้านเชื่อว่าทำผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายร้ายแรง
วันนี้ (11 ก.ค.) มีรายงานว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ฯ ได้มอบอำนาจให้นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอะแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 393 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชาญชัย ได้แถลงข่าวที่รัฐสภาเป็นครั้งที่ 2 ว่าบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ไม่ได้เป็นผู้ซื้อซองประกวดราคา ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาเชิงเทคนิค หรือขั้นตอนการประกวดใดๆ คณะกรรมการบริษัท ทอท.จำกัด (มหาชน) อนุมัติเพื่อเซ็นสัญญากับบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด แต่กลับลงนามในสัญญากับ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ทั้งที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทก่อนมีการลงนามสัญญา 2 วัน ถือเป็นสัญญาที่โมฆะมาตั้งแต่เริ่มแรก และผิดกฎหมายหลายฉบับ ก่อให้เกิดความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท เป็นเรื่องของการเรียกทรัพย์สินบางส่วนที่เสียหายไปคืนหลายหมื่นล้านบาท
นายบัญชาให้สัมภาษณ์ว่า ผู้บริหารบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ ได้พิจารณาข้อความที่นายชาญชัยแถลงข่าวเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาดังกล่าวแล้ว เห็นว่านายชาญชัยไม่ได้เป็นสมาชิก สปท. หรือแม้เป็นสมาชิก สปท.ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่แถลงยืนยันว่ามีการทำผิดกฎหมาย และยังแถลงข้อมูลในส่วนสำคัญไม่ครบถ้วน ชี้นำให้หน่วยราชการอื่นๆ ประชาชนที่ไม่ทราบข้อมูลครบถ้วนเชื่อว่าบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด รวมทั้งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ร่วมกันทำผิดกฎหมายหลายฉบับ หลีกเลี่ยงไม่จ่ายเงินผลประโยชน์ตอบแทน ทำความเสียหายให้กับรัฐหลายหมื่นล้านบาท
นายบัญชากล่าวอีกว่า การแถลงข่าวครั้งที่ 2 ทำให้บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด รวมทั้ง บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยราชการอื่นที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ทั้งที่บริษัท คิง เพาเวอร์ฯ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมาย จึงต้องฟ้องนายชาญชัย เป็นคดีที่ 2 เพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัท และเพื่อพิสูจน์ความจริงและขอความเป็นธรรมต่อศาลตามกระบวนการยุติธรรม ขอให้ศาลนับโทษคดีที่ 2 ต่อจากคดีแรกของศาลอาญา หมายเลขดำที่ อ.1673/2559 ตามกฎหมาย ทั้งนี้ คดีที่ 2 ศาลได้รับฟ้องไว้แล้วเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ. 2170/2559 นัดไต่สวนในวันที่ 26 ธันวาคม 2559 เวลา 13.30 น.