“จตุพร” พร้อมแกนนำแดง เยี่ยมให้กำลังใจ นศ.คดีประชามติ อ้างไม่เกี่ยวสีเสื้อ ต้องสู้กับเผด็จการ ชี้ไม่ถูกหรือผิดเป็นเรื่องความเชื่อทางการเมือง ขอให้ใช้อำนาจอย่างพอดี โวยคุกยิ่งกว่ากรงไก่ ด้านศาลทหารอนุญาต ญาติ-อาจารย์-ตัวแทนทูต ร่วมสังเกตการณ์
วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ด้านหน้าศาลทหารกรุงเทพ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มผู้ต้องหาที่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และทำกิจกรรมยั่วยุปลุกปั่นทางการเมืองในกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ประชามติ ที่ตลาดเคหะบางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 13 คน โดยนายจตุพรกล่าวว่า ตนและคณะเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์พฤษภาคม ปี 2535 ได้หารือกันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสีเสื้อ แต่เป็นอุดมคติของคนอยู่ในมหาวิทยาลัยในวันที่บ้านเมืองเผด็จการและไม่เป็นประชาธิปไตย พวกเขาก็ต้องต่อสู้ ตนและคณะจึงมาให้กำลังใจและขอขอบคุณทุกคน เพราะได้เห็นพลังอนาคตประเทศที่มีคนหนุ่มสาวกล้าต่อสู้กับเผด็จการ ทั้งนี้หวังว่า 7 คนจะได้รับความยุติธรรม
“ผมเชื่อว่าความคิดของพวกเขาเป็นความคิดที่ถูกต้อง การที่ไม่ยื่นประกันตัวเพราะเขาไม่ผิด ทั้ง 7 คนถือเป็นของร้อนทางการเมือง คิดว่ารัฐบาลคงจะฉลาด ทั้งหมดอยู่ที่อำนาจ เรื่องนี้ไม่ใช่ถูกหรือผิด แต่เป็นเรื่องความเชื่อทางการเมือง ไม่ผิดข้อหาอะไร เอกสารที่แจกไม่ผิดทางกฎหมาย ขอให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจอย่างพอดี และตอนนี้ท่านกำลังจะใช้หมดแล้ว เพราะหลายกรณีมองว่าเป็นการลุแก่อำนาจ นักศึกษาควรได้รับอิสรภาพในวันนี้ และขอร้องเรียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เรื่องที่คุมขังเรือนจำทหาร ขอให้นำแบบเรือนจำของกรมราชทัณฑ์เป็นแบบอย่าง เพราะการสูญสิ้นอิสรภาพก็มากพอแล้ว แต่กรงขังที่นี้ยิ่งกว่ากรงไก่ ดังนั้นควรจะจัดการให้ดีขึ้น” นายจตุพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลทหารได้นั่งบัลลังก์พิจารณาสอบสวนคดี เพื่อรับคำร้องฝากขังผลัดที่ 2 ของพนักงานสอบสวน โดยคดีดังกล่าวในห้องพิจารณาคดีได้มีญาติของผู้ต้องหา, สื่อมวลชน, นายวรเจตน์ ภาคีรัฐ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นางพวงทอง ภวคพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยเจ้าที่ตัวแทนสถานทูตเข้าร่วมสังเกตการณ์ ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหภาพอียู เข้าร่วมสังเกตการณ์พิจารณาคดีประมาณ 25 คน