รามคำแหง / สนามบินน้ำ - ประธานสภานักศึกษา ม.รามคำแหง ปฏิเสธกิจกรรมปล่อยลูกโป่ง 100 ลูก ปล่อยตัวนักศึกษาต้าน คสช.ถูกจับเมื่อวันเสาร์ ระบุเป็นฝีมือคนนอก พร้อมเรียกร้องปล่อยตัว 5 นักศึกษาถูกจับพร้อมแกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ด้านแกนนำจัดชุมนุมอ้างพื้นที่สาธารณะ ด่ากลับเห็นแก่ตัว พบเด็ก ป.โทที่ถูกจับเคยขึ้นเวทีเสื้อแดง ค้านนายกองค์การนักศึกษาขับไล่ “ยิ่งลักษณ์” ด้านอดีต ส.ส.ปชป.ร้อง ป.ป.ช.เอาผิด “จารุพงศ์” บงการขนม็อบราชมังคลาฯ เด็กรามดับ 1 เมื่อปี 2556
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อเวลา 11.00 น. สภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (ส.ม.ร.) นำโดยนายมารุต หนูแก้ว นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ รหัส 53 ในฐานะประธานสภานักศึกษา จากพรรคตะวันใหม่ และสมาชิก ส.ม.ร.จากพรรคตะวันใหม่ แถลงการณ์จุดยืนของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียกร้องไม่ให้กลุ่มบุคคลนำมหาวิทยาลัยรามคำแหงไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง จากกรณีที่กลุ่มเครือข่ายสลัม แรงงาน นักศึกษา นักกิจกรรมเพื่อเสรีภาพ ได้นัดจัดกิจกรรมปล่อยลูกโป่งรณรงค์ไม่ผิดจำนวน 100 ลูก ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยยืนยันว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นของบุคคลภายนอก นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่เกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนแต่อย่างใด พร้อมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักศึกษารามคำแหง 5 คนที่ร่วมทำกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยขอให้ได้รับอิสรภาพโดยเร็ว และขอให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ นายมารุตยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น และความจริงใจในการแก้ปัญหาประเทศเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ
ต่อมาเวลา 13.00 น. กลุ่มภาคีนักกิจกรรมเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง นำโดยนายจิรันตน์ เภตา ผู้ประสานงานกลุ่มฯ ได้ส่งเอกสารชี้แจงสื่อมวลชนผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยยืนยันว่ากลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ถูกจับกุมจากการไปร่วมกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย แต่เป็นการยัดเยียดข้อหาให้อย่างเลือกปฏิบัติ และกลุ่มบุคคลที่จัดกิจกรรมปล่อยลูกโป่งรณรงค์เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่สังกัดองค์การนักศึกษา เช่น ชมรมศึกษาปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม ชมรมค่ายอาสาพัฒนาราม-อีสาน ชมรมศึกษาปัญหายาเสพติด ชมรมค่ายอาสาพัฒนา-รามลานนา ชมรมค่ายอาสาพัฒนามหาวิทยาลัยรามคำแหง และกลุ่มกล้าคิด
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นพื้นที่เปิดสำหรับสาธารณชน ทั้งการศึกษาทางวิชาการ และการเคลื่อนไหวทางสังคมอื่นๆ รวมถึงกิจกรรมทางเมือง ซึ่งองค์การนักศึกษา และ ส.ม.ร.มีส่วนร่วมในหลายกิจกรรมด้วยซ้ำไป การที่ ส.ม.ร.อ้างว่าบุคคลภายนอกมาทำกิจกรรมนั้น นอกจากจากเป็นบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้วยังเป็นการแสดงถึงความไร้วุฒิภาวะ และปฏิเสธความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของนักศึกษา รวมทั้งเป็นการพยายามกีดกั้นประชาชนกลุ่มต่างๆ ในการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย จึงสะท้อนความเห็นแก่ตัว และความอับจนทางปัญญา
ผู้สื่อข่าว MGR Online รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง 5 คนที่ถูกจับกุมจากการแจกใบปลิวโหวตโนที่ จ.สมุทรปราการ และยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วย นายนันทพงศ์ หรือกุ๊ก ปานมาศ อายุ 24 ปี นักศึกษาปริญญาโทคณะนิติศาสตร์ แกนนำและโฆษกขบวนการประชาธิปไตยใหม่, นายอนันต์ หรือบอย โลเกตุ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ อดีตประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนาราม-อีสาน, นายธีรยุทธ หรือต้อม นาบนารำ อายุ 27 ปี สำเร็จการศึกษา คณะรัฐศาสตร์ อดีตประธานชมรมศึกษาปัญหายาเสพติด, นายยุทธนา หรือเทค ดาศรี อายุ 27 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) และนายสมสกุล หรือเคิร์ก ทองสุกใส อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ สมาชิกชมรมศึกษาปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม (ศ.ป.ส.) โดยถูกคุมขังพร้อมกับนายรังสิมันต์ โรม และนายกรกช แสงเย็นพันธ์ แกนนำขบวนการประชาธิปไตยใหม่
ที่มาของภาพ : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=549896801770865&set=o.426779870770648&type=3 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2556
สำหรับนายนันทพงศ์ เป็นอดีตสมาชิกกลุ่มกล้าคิด อดีตรักษาการประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ที่ผ่านมามีพฤติกรรมเคยขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง และเคยแถลงข่าวคัดค้านกรณีที่นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2556 จากพรรคสานแสงทอง ไปเคลื่อนไหวร่วมกับนายนิติธร ล้ำเหลือ ในนามเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชุมนุมที่สี่แยกอุรุพงษ์ โดยกล่าวหาว่าอ้างชื่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงไปร่วมเคลื่อนไหว
อ่านประกอบ : จัดฉาก สนนท.ยึดสภานักศึกษารามฯ ประณาม คปท.ป้ายสีพวกแช่แข็งประเทศ
อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบและชี้มูลความผิดกรณีที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ปัจจุบันหลบหนีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ในต่างประเทศ กับพวกได้จัดมวลชนไปชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ธันเดอร์โดม และสนามราชมังคลากีฬาสถาน ถนนรามคำแหง มีการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงถูกปิดล้อม เกิดเหตุนักศึกษาถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือ
ในหนังสือระบุว่า มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยได้ส่งรายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัดที่เกี่ยวข้องในการระดมมวลชนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.มาให้ตน ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด 12 คน ได้แก่ นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย (ฉะเชิงเทรา), นายทวี นรัสศิริกุล (นครนายก), นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ (นครปฐม), นายธนน เวชกรกานนท์ (นนทบุรี), นายพงศธร สัจจชลพันธ์ (ปทุมธานี), นายวิทยา ผิวผ่อง (พระนครศรีอยุธยา), นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ (ราชบุรี), นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ (สมุทรปราการ), ว่าที่ ร.ต.อาทิตย์ บุญญะโสภัต (สมุทรสาคร), นายภัครธรณ์ เทียนไชย (สระแก้ว), นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ (สระบุรี), นายสุรพงษ์ แสวงศักดิ์ (สิงห์บุรี) และกรมการปกครอง ได้ขนมวลชนสมาชิก อส. รวมจำนวนมวลชน 48,660 คน
ทั้งนี้ นายศิริพงศ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น ใช้งบประมาณของสำนักกิจการความมั่นคงภายใน (สน.มน.) และใช้งบประมาณจังหวัดต่างๆ โดยมีผู้ประสานงานคือ นายประดิษฐ์ ยมานันท์, นายอำนาจ แย้มศิริ, นายวิทยา ชพานนท์ และมีผู้ประสานงานสมาชิก อส. คือ นายเอกพร จุ้ยสำราญ, นายประสิทธิ์ เปรมจิตร์, นายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ และยังมีรายชื่อข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มีผู้ประสานงานส่วนกลาง และผู้ประสานงานจังหวัดทั้ง 12 จังหวัด ในตำแหน่งจ่าจังหวัด ป้องกันภัยจังหวัด
ขณะที่นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น สั่งการผ่านนายประดิษฐ์ ยมานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยรายการกระทรวงมหาดไทย สั่งในที่ประชุมกรมการปกครองขึ้นป้ายคัตเอาต์สนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยให้นายอำเภอรายงานให้กรมการปกครอง, สั่งให้ทุกอำเภอเกณฑ์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และราษฎร มาร่วมชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยแสดงตัวเป็นคนเสื้อแดง และมีปลัดอำเภอควบคุมการเดินทาง รวมทั้ง สั่งข้าราชการในส่วนกลางไปทำหน้าที่รับการรายงานตัวของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรมาร่วมชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยแสดงตัวเป็นคนเสื้อแดง มีรัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงมหาดไทยไปพบตลอด
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ผิดธรรมาภิบาลข้าราชการที่ดีและประพฤติผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือมาตราอื่นๆ เป็นเหตุให้เกิดความแตกสามัคคีภายในชาติอย่างร้ายแรง และมีการใช้งบประมาณของแผ่นดินมาใช้จ่ายเป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ค่ายานพาหนะในการเดินทางของผู้เข้าร่วมชุมนุมของกลุ่ม นปช. และต่อมาเป็นเหตุให้นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกคนเสื้อแดงยิงเสียชีวิตที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตนในฐานะอดีต ส.ส. และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงมีความประสงค์ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายกับนายจารุพงศ์กับพวกทั้งหมด และดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ส่วนข้าราชการชั้นผู้น้อยควรกันไว้เป็นพยาน