ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กรณี “ไผ่ ดาวดิน” อดข้าวประท้วงในเรือนจำ อาจไม่ได้สร้างผลสะเทือนให้ฐานอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ต้องสั่นคลอนแต่อย่างใด แต่ถ้าหาก คสช.จะแสดงความเป็นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมด้วยเมตตาด้วยการปล่อยตัวเด็กหนุ่มวัย 25 ปีคนนี้โดยเร็ว ก็จะช่วยทำให้ คสช.ได้คะแนนไปเป็นกอง
แต่ถ้ายังปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ ก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีประเด็นนำไปเคลื่อนไหวเพื่อบ่อนเซาะความน่าเชื่อถือได้ต่อไปเรื่อยๆ
สำหรับ “ไผ่ ดาวดิน” หรือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกจับกุมที่บริเวณตลาดในตัวอำเภอภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2559 พร้อมกับนายวศิน พรหมณี อายุ 20 ปี นักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมธรณี ชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ขณะเดินแจกเอกสารกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ 3 ชุด คือ เอกสารความเห็นแย้งต่อร่างรัฐธรรมนูญ 2559, 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และแถลงคณะนิติราษฎร์ที่ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2559
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหากระทำผิดมาตรา 61 พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ฐานก่อความวุ่นวายทำให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
หลังจากถูกจับกุม นายวศินได้รับประกันตัวออกไป แต่“ไผ่ ดาวดิน”ไม่ใช้สิทธิประกันตัว และอดอาหารประท้วงตั้งแต่วันที่โดนจับ
โดยลึกๆ แล้ว“ไผ่ ดาวดิน” อาจเพียงแค่ต้องการแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ แต่การประกาศอดข้าวของเขา ก็เข้าทางฝ่ายต่อต้าน คสช.ที่หยิบยกเอาประเด็นนี้มาตอกย้ำข้อกล่าวหา คสช.ละเมิดสิทธิประชาชน ตามที่เคยโจมตี คสช.มาโดยตลอด
และดูเหมือนว่า กรณี“ไผ่ ดาวดิน”สามารถเรียกร้องความสนใจจากฝ่ายสิทธิมนุษยชนได้ดีทีเดียว
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงการอดอาหารของ“ไผ่ ดาวดิน” พร้อมฝากบอกไปยังกรมราชทัณฑ์หรือ ผบ.เรือนจำควรนำญาติหรือคนที่ไว้ใจไปพูดคุยกับ“ไผ่ ดาวดิน”ว่าการแสดงอารยะขัดขืนทำได้แต่ต้องรักษาชีวิตไว้ แต่หากเจรจาไม่เป็นผล ทาง กสม.คงต้องหาทางช่วยเหลือเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นได้
นางอังคณายังฝากบอกไปยังอัยการให้ทำสำนวนไม่ส่งฟ้อง เพราะคดีนี้ไม่ใช่นักโทษอาชญากรรม แต่เป็นโทษคดีทางความคิดที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลและคนส่วนใหญ่ก็เท่านั้นเอง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าสู่ความปรองดองอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า“ไผ่ ดาวดิน”มีอาการป่วยหนักหลังจากอดข้าวจวนจะครบสิบวัน จนกรมราชทัณฑ์ต้องออกเอกสารแถลงข่าวว่า เรือนจำอำเภอภูเขียวได้ปฏิบัติต่อผู้ต้องหาเหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน โดยปัจจุบันจากการอดอาหารพบว่าสภาพร่างกายของ “ไผ่ ดาวดิน”ยังแข็งแรง สามารถพูดคุยได้ปกติ สามารถดื่มน้ำ นม และรับประทานขนมได้
นอกจากนี้ ในระหว่างต้องขังยังได้ทำกิจกรรมเล่นดนตรีร่วมกับผู้ต้องขังคนอื่นในเรือนจำ และเรือนจำฯ ได้เปิดให้มีการเยี่ยมปกติ โดยมีบิดา มารดา อาจารย์และเพื่อนจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาขอเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ
เพียงแต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 “ไผ่ ดาวดิน”มีไข้เล็กน้อย และในวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ทางเรือนจำอำเภอภูเขียวได้จัดให้พบกับแพทย์ซึ่งเข้ามาตรวจอาการของผู้ต้องขังในเรือนจำอำเภอภูเขียวเป็นประจำ โดย นพ.เปรมชัย ธัญญะผลิน แพทย์จากโรงพยาบาลภูเขียว พบว่าอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และจะมีการดูแลรักษาตามอาการต่อไป
ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ หากผิดจะต้องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยรัฐบาลเองจะต้องทำตาม กกต.ด้วยเหมือนกัน โดยนายจตุภัทร์ทำผิดกฎหมายประชามติ และเท่าที่ทราบมาบางรายได้รับอนุญาตให้ประกันตัวก็ไม่ประกัน เหมือนต้องการให้เกิดเรื่อง
พล.อ.ไพบูลย์บอกอีกว่า ที่อดข้าวอดน้ำนั้นไม่จริง ตนถามผู้บัญชาการเรือนจำที่ จ.ชัยภูมิ เขาบอกว่าดื่มปกติ เราดูแลอยู่ ปวดหัวเป็นไข้ตัวร้อนเรารักษา ไม่ได้อดอาหาร เขากินนมซึ่งคืออาหารชนิดหนึ่ง ไม่ใช่อดอาหาร แต่ออกข่าวไปเรื่อย ตนบอกว่าลองเอาสื่อมวลชนไปดูว่าเขากินอย่างไร วันหลังจะแอบถ่ายมาให้ดูตอนกิน แล้วนมไม่ใช่อาหารหรือ บอกให้ประกันตัวไม่ยอมประกัน ต้องการให้เป็นเรื่องของการเมืองหรือเรื่องรัฐธรรมนูญ ประชาชนเข้าใจถึงไม่ให้ความสำคัญเท่าไร
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 เช่นกันว่า กรณี “ไผ่ ดาวดิน” ต้องถามว่าทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย ควรจะต้องปล่อยตัวหรือไม่นั้น ไม่มี ไม่รู้ เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ตนไม่ไปเกี่ยวข้อง ตนไม่ได้บอกให้ไปจับ หรือบอกให้ปล่อย ทำได้ที่ไหน และที่ถูกจับมานั้นด้วยอะไร ส่วนที่ไม่สบาย ก็ช่างเขา ก็เขาไม่รักษาตัวเอง และอดข้าวหรือเปล่า เมื่ออดก็ป่วยเป็นธรรมดา ส่วนทางครอบครัวออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวนั้น ตนไม่สนใจ
ถึงแม้ระดับผู้นำ คสช.ไม่ได้ความสนใจกรณีของ “ไผ่ ดาวดิน”มากนัก แต่ก็คงจะมองข้ามไปไม่ได้ เมื่อล่าสุด นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เครือข่ายบริวารนายทักษิณ ชินวัตร ที่เคยออกมาชนกับ คสช.แล้วหลายยก ได้ออกมาโหนกระแสการอดข้าวประท้วงของ“ไผ่ ดาวดิน”ด้วยอีกคน
วันที่ 18 สิงหาคม นายวัฒนาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมบทกวีของ“จิตร ภูมิศักดิ์”ที่ชื่อว่า“กูใช่ทาสหากคือไท” โดยได้ยกย่องความกล้าหาญของ“ไผ่ ดาวดิน”ที่ไม่ขอประกันตัวเพราะไม่ได้ทำอะไรผิดเนื่องจากเป็นเสรีภาพทางความคิด แต่การประท้วงของ “ไผ่ ดาวดิน”ใช้ไม่ได้กับสถานการณ์ในวันนี้ ตนจึงขอเป็นตัวแทนของประชาชนจำนวน 10.59 ล้านคนที่ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ “ไผ่ ดาวดิน”ยุติการอดอาหารประท้วงและขอประกันตัวออกมา เก็บพลังไว้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยให้กับพี่น้องประชาชน
นายวัฒนายังได้เหน็บแนมไปยัง คสช.ว่า ขอให้ “ไผ่ ดาวดิน”เก็บความเป็นอารยะของไผ่ไว้ใช้กับคนดีกว่า เพราะใครก็ตามที่ไม่เคารพสิทธิของความเป็นคนเขาย่อมไม่ใช่คน
นี่เป็นสัญญาณว่า หากยังปล่อยให้กรณีของ “ไผ่ ดาวดิน”ยืดเยื้อต่อไป ก็จะมีฝ่ายต่อต้าน คสช.ออกมาโหนกระแสบ่อนเซาะความน่าเชื่อถือของ คสช.ต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า “ไผ่ ดาวดิน” ไม่ใช่เครือข่ายนักการเมือง และไม่ได้มีบทบาทหรืออิทธิพลมากเพียงพอที่จะสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาลและ คสช.ได้ แต่เป็นเพียงสมาชิกกลุ่ม “ดาวดิน” ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมนักศึกษาที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิชุมชนและประชาชนในระดับรากหญ้าเท่านั้น
การทำให้คดีของ“ไผ่ ดาวดิน”ยุติลงในเวลาอันรวดเร็ว น่าจะส่งผลดีต่อ คสช.มากกว่าที่จะปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อออกไป