“ไอลอว์” เผยผลสำรวจความเห็นประชาชนพบยังไม่รู้ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ คำถามพ่วง “จอน” ห่วงถูกปิดกั้นข้อมูล
วันนี้ (4 ก.ค.) นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เปิดเผยผลสำรวจของ iLaw เกี่ยวกับความรับรู้เบื้องต้นของประชาชนเกี่ยวกับการทำประชามติตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. - 1 ก.ค. 2559 โดยระบุว่า ผลสำรวจชุดนี้เป็นการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ ด้วยวิธีการสุ่มถามประชาชนในกรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัด โดยผู้สำรวจสอบถามคนที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก ที่มีโอกาสได้พบเจอในชีวิตประจำวัน จากหลากหลายอาชีพและช่วงอายุ จากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจ จำนวน 158 ตัวอย่าง แบ่งเป็นเพศชายจำนวน 68 ตัวอย่าง เพศหญิงจำนวน 83 ตัวอย่าง และเพศอื่นๆ จำนวน 7 ตัวอย่าง
โดยสำรวจ 3 คำถาม คือ ทราบหรือไม่ว่ามีการลงประชามติวันที่เท่าไหร่ ทราบหรือไม่ว่าการลงประชามติคือเรื่องเกี่ยวกับอะไร และทราบหรือไม่ว่าคำถามพ่วงคือเรื่องเกี่ยวกับอะไร เมื่อสรุปข้อมูลพบว่าร้อยละ 70.25 ไม่ทราบว่าวันที่ลงประชามติอย่างถูกต้อง ร้อยละ 50 ไม่ทราบว่าลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ และร้อยละ 92.41 ไม่ทราบว่าคำถามพ่วงคืออะไร ขณะที่เมื่อสอบถามในเชิงลึกจะเห็นว่า คำถามที่ 1 ทราบหรือไม่ว่ามีการลงประชามติวันที่เท่าไหร่ กลุ่มตัวอย่างที่ไม่ทราบให้เหตุผลว่าไม่ได้ติดตามหรือมีความสนใจในข่าวสารทางการเมืองเลย ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่ทราบให้เหตุผลว่าติดตามข่าวสารในประเด็นดังกล่าวมาตลอด ขณะที่คำถามที่ 3 ทราบหรือไม่ว่าคำถามพ่วงคือเรื่องเกี่ยวกับอะไร กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมดแทบจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่าคำถามพ่วงหรือได้ยินว่ามีคำถามพ่วง มีบางส่วนเท่านั้นที่ทราบว่าจะมีคำถามพ่วงด้วยแต่ก็ไม่ทราบว่าคำถามพ่วงจะถามว่าอะไร
นายจอนกล่าวอีกว่า ในการวิเคราะห์แบ่งกลุ่มตามช่วงอายุพบว่า อายุระหว่าง 51-60 มีค่าเฉลี่ยรวมดีที่สุด ร้อยละ 31.25 รองลงมาคือ อายุระหว่าง 41-50 ปี ร้อยละ 31.11 และอันดับที่ 3 คือ อายุระหว่าง 18-30 ปีอันเป็นกลุ่มตัวอย่างมากที่สุดในผลสำรวจนี้ ร้อยละ 30.90 นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตอีกว่า กลุ่มตัวอย่างที่สอบถามหลายคน เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าจะเป็นการลงมติเรื่องอะไร ก็ยังพอทราบว่าจะมีการลงประชามติเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ทราบว่าการลงประชามติจะมีขึ้นเมื่อไหร่ แม้การสำรวจของเราจะเป็นการสำรวจประชากรในขนาดจำกัดและคงไม่สามารถถือได้ว่าเป็นตัวแทนของประชากรทั้งประเทศ แต่ผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นชัดถึงการขาดข้อมูลในหมู่ประชาชน ที่น่าตกใจมากคือผู้ที่เราสำรวจกว่าร้อยละ 90 ยังไม่ทราบเลยเรื่องประเด็นคำถามพ่วง หากการขาดการรับรู้ในเรื่องคำถามพ่วงยังคงเป็นเช่นนี้ในวันออกเสียงประชามติจะเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังขาดข้อมูลเพียงพอที่จะตอบคำถามประชามติได้อย่างเข้าใจประเด็น ในเรื่องนี้เราอาจต้องตั้งคำถามว่าหากประชาชนถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงข้อมูลแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะหรือไม่