xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” แย้มใช้ “ม.44” ฝ่าโล่มนุษย์ล่า “ธัมมชโย” - เล็งขึ้นชื่อประจานพวกหนีคดีไปนอกแล้วด่าไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” แย้มใช้ “มาตรา 44” ฝ่าโล่มนุษย์ลาก “ธัมมชโย” ออกมาสู้คดี หลังมั่วนิ่มอ้างรอประชาธิปไตยก่อน ค่อยเข้ากระบวนการยุติธรรม ฮึ่มทำไม่ได้ ซัดพวกหนีคดีไปนอกแล้วยังชอบให้ร้ายประเทศไทย เล็งเอาชื่อขึ้นจอประจานทั้งก๊วน เชื่อ คนไทยไม่ต้อนรับกลับประเทศ ขู่พวกใช้โซเชียลเคลื่อนไหวประชามติ เล่นงานทั้งฝ่ายหนุน - ต้าน กันครหาสองมาตรฐาน โอ่เรตติ้งโกงต่ำสุดรอบ 3 ปี ตัวเลขใต้โต๊ะลดฮวบกว่าครึ่ง

วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งถึงการดำเนินนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาล ว่า มีความแตกต่างจากที่ผ่านมา ซึ่งหลายพรรคการเมืองมุ่งสร้างเฉพาะความพึงพอใจประชาชนด้วยการทำนโยบายประชานิยมที่มีปัญหาไม่ตอบโจทย์ในการสร้างความเข้มแข็ง ยั่งยืนอย่างแท้จริง รัฐบาลนี้จึงได้นำแนวทางประชารัฐที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ อุดรอยรั่วช่องโหว่ของภาครัฐ โดยไทยแลนด์ 4.0 จะเป็นทิศทางการพัฒนาประเทศ การปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ด้วยความเข้าใจ ด้วยความสมัครใจ บนวิสัยทัศน์เดียวกันมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

สำหรับการป้องกันและปราบการทุจริตคอร์รัปชันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศได้ประเมินว่า สถานการณ์คอร์รัปชันในประเทศไทยดีที่สุดในรอบ 3 ปี ภาพลักษณ์ประเทศ ด้านความโปร่งใส ในสายตานานาชาติดีที่สุดรอบ 10 ปี และการเรียกรับสินบนลดลงมากกว่าร้อยละ 50 เทียบกับ 15 ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะลดลงอีก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากรัฐบาล และ คสช. ได้ผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) รวมทั้งปรับปรุงมาตรการ กลไก และนโยบายต่างๆในการทำงาน การจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e - Market) ก็มีการปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมอีกเรื่อย ๆ วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ก็ต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันการคอร์รัปชันเชิงระบบ หรือระบบพวกพ้อง ในระยะยาว ที่สำคัญ ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ภาคธุรกิจ การค้าต่าง ๆ ด้วย

หัวหน้า คสช. กล่าวต่อว่า สำหรับการเดินหน้าประเทศ ก็มีปัญหาบางประการ ที่ต้องขอความร่วมมือทุกท่านให้ช่วยกัน ในการที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติและลูกหลานในอนาคต สำคัญที่สุด คือ การเคารพกฎหมาย หลายอย่างที่มาจากความคิดสุดโต่ง หารือกันไม่ได้ หาทางออกไม่ได้ ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจล่าช้า การเดินหน้าประเทศไม่ราบรื่น ไม่ดีเท่าที่ควร บางอย่างตนก็พร้อมรับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์ เพียงแต่ต้องลดราวาศอกกันบ้าง อย่าเอาความขัดแย้งหรือเรื่องผิดกฎหมายมาพูดก่อน ทุกอย่างต้องเริ่มต้นภายใต้กรอบของกฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 ส.ค. 59 ด้วยว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันในการใช้สิทธิของท่านหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง รัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่างในส่วนของรัฐบาลได้มีการมอบหมายเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ความรับผิดชอบในการทำประชามติ โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปก้าวล้ำ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเอง กฎหมายต่าง ๆ ที่ออกมาก็ให้ระมัดระวังการบังคับใช้เสียหน่อย ใครที่มีเจตนา บริสุทธิ์ก็ไม่น่าจะเป็นกังวล ไม่ต้องไปกลัว กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน อะไรคือผิด อะไรคือถูก อย่าไปชี้นำหรือข่มขู่ประชาชน ให้ทุกคนมีอิสระทางความคิดของแต่ละบุคคล หลายคนที่เป็นนักการเมืองก็ไปพูดจาบิดเบือนอยู่ใน ในพื้นที่ระดับท้องถิ่น เช่น รัฐบาลจะลดการศึกษาฟรี 15 ปี หรือยกเลิกการใช้บัตรทอง เป็นต้น คนเหล่านี้ คสช. จะเข้าไปดำเนินการฐานพูดโกหกบิดเบือนอย่างเลวร้าย รวมไปถึงพวกที่ขยายความขัดแย้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม

“การกระทำอันไม่มีเหตุผลสมควร ไม่สนใจข้อกฎหมาย ทำให้สังคมเชื่อไปว่า รัฐมี 2 มาตรฐาน มันต้องมาตรฐานเดียว กฎหมายตัวเดียวกัน ไม่เคยคิดจะไปละเมิดสิทธิ์ใคร และก็ไม่พยายามจะใช้อำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ก็จำเป็นที่ต้องใช้ เพราะคนปั่นป่วนยังมีอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

นายกฯ กล่าวอีกว่า ต้องช่วยอธิบายให้ต่างชาติเข้าใจว่าสถานการณ์ประเทศไทยวันนี้กำลังก้าวหน้าไปในทางที่ดี มีศักยภาพ มีหลายประเทศให้ความเชื่อมั่นและต้องการมาลงทุนกับเรา แต่ก็ติดปัญหาในเรื่องทางการเมือง ตนขอยืนยันด้วยความสัตย์จริงว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 57 เป็นต้นมา ยังไม่มีใครต้องบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการที่ คสช. เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ แต่ก็อาจมีการใช้กฎหมายพิเศษตามสถานการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น บางกรณีก็มีการใช้มวลชนมาเป็นโล่กำบัง หลายคนก็ใจร้อน ทำไมไม่ใช้กฎหมายพิเศษทำให้เร็ว อยากให้เข้าใจรัฐบาลบ้าง เราไม่สามารถจะฝ่าคนเป็นพัน ๆ เข้าไปได้ แต่อยู่ที่ทำยังไงคนเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ คนเหล่านั้นจะยุติ แล้วก็ผลักดันให้คนที่มีปัญหาออกมาต่อสู้คดีตามกฎหมาย

“ที่บอกว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อประเทศชาติมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เอ๊ะทำได้เหรอ ไม่น่าทำได้นะ วันนี้ผิดก็ต้องลงโทษวันนี้ กระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว เพียงแค่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ท่านต่อสู้คดี เราอาจจะต้องใช้มาตรา 44 ในการควบคุมตัวเข้าจับกุม เพราะกฎหมายปกติไม่ค่อยเอื้อ แต่เข้าไปจับกุมดำเนินคดีก็ใช้วิธีการอันละมุนละม่อม ไม่เคยต้องไปทำร้าย ไปทุบตีอะไรต่าง ๆ ไปทรมาน ไม่เคยทำซักอย่าง เพียงนำพามา และสอบสวนให้สู้คดีเท่านั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯเปิดเผยด้วยว่า ยังมีบางกรณีที่เคยให้ความเมตตา ให้ประกันตัวออกมา ไม่ว่าจะนิสิต นักศึกษา แต่ก็บอกไม่ประกัน จะขออยู่ในคุก ก็แล้วแต่ ตามใจ ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ไปบังคับให้เขาอยู่ แต่เขาไม่อยากออกจากคุก จนกว่าจะมีประชาธิปไตย ตรงนี้บังคับกันไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับคนไทยจะคิดยังไง กลายเป็นเราไปรังแกเขาอีก วันนี้เราต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดในสังคมไทยและในต่างประเทศ ซึ่งคนที่บิดเบือนส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ร่วมในขบวนการทำความผิดทั้งสิ้น คนที่หนีไปแล้วไปพูดให้ประเทศเสียหาย ตนคิดว่าไม่น่ากลับมาแล้ว คนไทยคงไม่ยอมอยู่แล้ว ที่ไปประณามประเทศตัวเอง

“คนเหล่านี้ คนไทยไม่น่าจะยอมรับได้ มีหลายคน วันหลังน่าจะเอาชื่อขึ้นจอ คนที่หนี ๆ ไป หนีด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หนีแล้วก็ไปด่าประเทศไทย ผมไม่เข้าใจจริง ๆ และก็ไปสนับสนุนอยู่พวกเดียวกันนั่นแหละ” หัวหน้า คสช.กล่าว

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 1 กรกฎาคม 2559


สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ทรงอุทิศพระองค์ เพื่อช่วยเหลือชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ และได้มีการพัฒนาข้าวไทยในทุก ๆ ด้าน อาทิ ทรงให้ความสำคัญกับพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทรงทำนาข้าวทดลอง และทรงริเริ่มกิจการโรงสีข้าวตัวอย่าง เป็นโครงการส่วนพระองค์ในสวนจิตรลดา และทรงสนับสนุนให้มีการก่อตั้งธนาคารข้าว เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรที่ยากจนทั่วประเทศ เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อยกย่องในพระปรีชาสามารถของพระองค์ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถวายพระนามแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ทรงเป็นพระบิดาแห่งการวิจัย และพัฒนาข้าวไทย ในโอกาสนี้ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ร่วมใจกันสนองปณิธานของพ่อหลวงไทย ด้วยการเห็นคุณค่าของข้าว และความสำคัญของชาวนาไทย เพราะข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยทุกคนนะครับ

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2559 นี้ เป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ของปวงชนชาวไทย ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ประเทศชาติ และประชาชนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทรงเป็นประธานมูลนิธิจุฬาภรณ์ มีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เกิดจากการรวมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ กับสถาบันบัณฑิตจุฬาภรณ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การแพทย์สาธารณสุข ตลอดจนให้บริการทางการแพทย์ เพื่อนำไปเผยแพร่และประยุกต์ใช้งาน ทั้งนี้ ก็เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ความมุ่งหมายต่อไป ก็คือ ในด้านสาธารณสุขนั้น ทรงดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท เพื่อสานต่อพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งสืบสานพระราชปณิธานในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยทรงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ที่ประชาชนจะเรียกขานอาสาสมัครเหล่านี้ ว่า หมอกระเป๋าเขียว ในการบำบัดทุกบำรุงสุขแก่ราษฎร ให้พสกนิกรมีความเป็นอยู่ที่ดี ห่างไกลจากโรคร้าย

ในโอกาสนี้ผมขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญในการพัฒนาประเทศตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 นั้น แตกต่างจากที่ผ่านมานั้น ซึ่งหลายพรรคการเมืองอาจจะมุ่งสร้างเฉพาะความพึงพอใจประชาชน ด้วยการทำนโยบายประชานิยมบ้าง ที่มีปัญหา อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ประเทศชาติ และประชาชนในการสร้างความเข้มแข็ง สร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง อาจจะด้วยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

ดังนั้น รัฐบาลนี้ได้นำแนวทางประชารัฐ ซึ่งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ อุดรอยรั่วช่องโหว่ของภาครัฐ ไทยแลนด์ 4.0 นั้น จะเป็นทิศทางการพัฒนาประเทศ การปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ด้วยความเข้าใจ ด้วยความสมัครใจ บนวิสัยทัศน์เดียวกัน ก็คือ ความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จะได้เป็นการขับเคลื่อนประเทศบนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ บวกนวัตกรรมและเทคโนโลยีในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ให้เกิดความสมดุลกับทางสังคม และสิ่งแวดล้อม

เราได้กำหนด 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น

1. กลุ่มอาหารและเกษตรกรรม มีการจัดตั้งเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรของประเทศ ครบวงจร สร้างความมั่นคงทางอาหารให้โลก และตอบสนองนโยบาย ประเทศไทยเป็นครัวโลก

2. กลุ่มสุขภาพมีการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา ทั้งพืชสมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อให้ไทยเป็นเมืองสมุนไพร หรือ ศูนย์กลางสุขภาพครบวงจร Medical Hub ในภูมิภาค ตอบสนองสังคมผู้สูงอายุของเราและโลกที่กำลังมาถึง การมาเมืองไทยนั้นจะได้ทั้งการรักษาสุขภาพ พักผ่อน ท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึมซับวัฒนธรรมอันงดงามและความเป็นไทย

3. กลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์อัตโนมัติ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม อาทิ หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม ที่โลกมีความต้องการสูง จำเป็นต่อเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมหนักในอนาคต ทุกแขนง

สำหรับ 4. คือ กลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ และเคมีชีวภาพ รัฐบาลกำลังผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นระเบียงเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า Eastern Economic Corridor มีศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม คิดเป็นร้อยละ 39 ของเศรษฐกิจประเทศด้วยการลงทุนด้านปิโตรเคมี พลังงาน ยานยนต์ และกิจกรรมต่อเนื่อง จากผู้ประกอบการภายในและต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมใน 5. อุตสาหกรรม เช่น การบิน โลจิสติกส์ โดยได้วางกรอบการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2.2 ล้านล้านบาท อาทิ เส้นทางหลวงพิเศษกรุงเทพ - พัทยา - ระยอง ท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังให้มีขีดความสามารถรองรับปริมาณสินค้า เพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้าน TEU ต่อปี พร้อมกับการก่อสร้างท่าเรือชายฝั่ง ที่สามารถรองรับสินค้าได้ 3 แสน TEU ต่อปี

ศูนย์การขนส่งทางราง ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางได้ปีละ 2 ล้าน TEU ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบที่ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่อเรือ โดยพัฒนาท่าเรือเฟอร์รี เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทย พัทยา - จุกเสม็ด - ชะอำ สนามบินอู่ตะเภาให้สามารถรองรับผู้โดยสาร 5 ล้านคนต่อปี และการพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน เพื่อขยายศักยภาพให้สามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค สามารถซ่อมบำรุงอากาศยานได้ 144 ลำต่อปี และซ่อมเครื่องยนต์ได้ 72 เครื่องต่อปี

ทั้งนี้ เราได้คิดให้มีระบบรถไฟ และรถไฟความเร็วสูง เพื่อจะเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางการคมนาคม ทุกระบบทั้งทางบก ทางราง ทางเรือ ทางอากาศด้วยนะครับ เพื่อให้รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งผมได้สั่งการให้ดำเนินการจัดทำแผนการลงทุนแล้วให้สำเร็จภายใน 3 เดือน

ทั้งนี้ มี 6. กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นอุตสาหกรรมเดิม ที่ไทยมีศักยภาพ เรามีจุดแข็งในการเป็นฐานการผลิต และส่งออกรถยนต์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว โดยสามารถผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เช่น รถไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าในอนาคต พลังงานสีเขียว เป็นมิตรกับธรรมชาติ เป็นทิศทางของโลกในอนาคต ในระยะยาว แทนการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ที่มาจากฟอสซิลนะครับ ในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ เราต้องลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในการที่โลกกำลังร้อนขึ้นทุกวัน และนับวันเชื้อเพลิงเหล่านั้นก็จะร่อยหรอลงทุกทีนะครับ สิ่งที่ภาครัฐกำลังดำเนินการอยู่ ในทุกมิตินั้น ได้แก่

1. คือ การสร้างความรับรู้ทั้งในเรื่องพลังงานทดแทน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ความเชื่อมั่นในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่จะใช้แทนรถยนต์พลังงานน้ำมันในอนาคตนะครับ คงไม่ใช่ทั้งหมดในวันนี้ แล้วก็แทนรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติด้วย โลกต้องเปลี่ยนแปลงเราต้องเตรียมการตั้งแต่บัดนี้ ขณะเดียวกัน เราต้องส่งเสริมรถยนต์พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล แก๊สโซฮอล์ และ อีโคคาร์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วันนี่เราเป็นศูนย์กลางการผลิตอีโคคาร์ เราหยุดไม่ได้อยู่แล้ว ก็ทำคู่ขนานกันไปนะครับ ให้เกิดความสมดุล ไม่มีผลกระทบกันทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนก็คงจะเป็นทางเลือกของประชาชนในโอกาสต่อไปนะครับ ในระยะแรกเพื่อให้เป็นการสร้างความคุ้นเคยเราก็ได้อนุญาตให้มีการนำเข้ารถโดยสารประจำทางไฟฟ้า มาให้บริการสาธารณะให้ประชาชนได้รู้จัก ได้คุ้นเคยก่อนที่จะขยายไปสู่รถยนต์ส่วนบุคคล ระยะแรกอาจจะต้องนำเข้า แต่ราคาสูงนะครับ ถ้าเอาเข้ามาแล้วก็ต้องเร่งรัดในเรื่องการวิจัยและพัฒนา การร่วมทุนต่าง ๆ จะได้ทันต่ออนาคต

เรื่องที่ 2 คือ การส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมการผลิตทั้งระบบ ทั้งตัวรถ ชิ้นส่วนประกอบ แบตเตอรี หัวจ่าย สถานีชาร์จ และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้มีความพร้อมแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งมีหลายกระทรวง และหน่วยงานทั้งภาคเอกชน ก็สามารถเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องส่วนร่วม อาจจะเป็นการสร้างความมั่นใจ และเกิดความชัดเจนมากขึ้น ขณะนี้ได้ให้บีโอไอไปศึกษาแล้วให้เกิดการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

เรื่องที่ 3 คือ การสร้างแรงจูงใจนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ในเรื่องสิทธิประโยชน์ มาตรการทางภาษีต่าง ๆ รวมทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบ การขออนุญาตการเสียภาษี การจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อกระตุ้นการลงทุน และพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจังในอนาคต

แล้วก็ 4. คือ การส่งเสริมการสร้างแรงงานฝีมือ วางระบบการศึกษา อาชีวะ วิศวกร รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการจัดตั้งศูนย์ทดสอบ สนามทดสอบ ล้อรถ ยางรถยนต์ และรถยนต์ ในประเทศอีกด้วยนะครับ

ทั้งนี้ ไทยแลนด์ 4.0 ยังมี 7. กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิตอล เป็นเสมือนกระดูกสันหลังในด้านข้อมูลข่าวสาร การศึกษา โทรคมนาคม การติดต่อสื่อสาร เพื่อรองรับการพัฒนากิจกรรมต่างๆ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายข้างต้น รวมทั้งวิสาหกิจเริ่มต้นใหม่ Start-up ที่ภาครัฐให้ความสำคัญในเรื่อง

1. คือ การปรับปรุงกฎหมาย ให้ทันสมัยเป็นสากล รองรับการเติบโตของ Start-up ซึ่งเป็นไปตามกระแสของโลกในปัจจุบัน

2. มาตรการทางภาษี การเงิน การคลัง เช่น การลดภาระค่าธรรมเนียม การค้ำประกันสินเชื่อ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อส่งเสริมให้เกิดเถ้าแก่ใหม่ กล้าลงทุนเป็นเจ้าของเปิดกิจการใหม่ แล้วก็เป็นทางเลือกให้สังคมด้วย โดยเฉพาะ Eco System หรือธุรกิจที่เป็นมิตรกับธรรมชาติระบบนิเวศ

3. การสร้างแรงจูงใจ การอำนวยความสะดวก ช่วยการดึงนักลงทุน นักการตลาด นักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาลงทุนทำงานในเมืองไทย นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีชั้นสูงสมัยใหม่เข้ามาเพิ่มศักยภาพให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ของไทย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการที่จะแตกกิ่งก้านสาขาใหม่ ๆ ให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย และโดยอีกบทบาทหนึ่งของภาครัฐ คือ 4. เป็นผู้กำกับด้านนโยบาย เช่น ผลักดันให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในระบบไอซีที การคมนาคมสื่อสาร อินเทอร์เน็ตให้เกิดการเชื่อมองค์ความรู้ เทคโนโลยี

สำหรับนักวิจัยหน้าใหม่ ในลักษณะศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ หรือ Think Tank ซึ่งรัฐบาลได้ขับเคลื่อนแล้ว ตามแผนพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม Digital Economy ซึ่งนอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนแล้ว ยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วย

ในเรื่องนี้อีกเรื่องที่ผมเป็นห่วง ก็คือ เรื่องของการประกอบการของธุรกิจ SMEs ซึ่งเราแบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ประเภท 1 2 3 ได้มีการดำเนินการไปแล้ว ในการที่จะขยายกิจการ เพิ่มทุนให้เจริญเติบโตในประเทศ แล้วก็ส่งเสริมไปต่างประเทศ แต่มีประเภทที่ 4 ก็คือ ประเภทที่ต้องฟื้นฟูที่เขาขาดสภาพคล่อง แล้วก็ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมบ้าง ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจบ้างอะไร แต่ยังมีศักยภาพอยู่แต่ขาดเงินหมุนเวียนนี่จะต้องทำยังไง รัฐบาลรับเรื่องนี้มาพิจารณา เมื่อวันก่อนผมได้พบกับเขา ก็สงสารเขาหลายกิจการหมดเนื้อหมดตัวกัน แล้วกู้ยืมเงินใครก็ไม่ได้ แล้วก็จะต้องถูกธนาคารยึดไป ทั้งโรงงานทั้งพื้นที่ อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ที่ดิน เขาก็ลำบาก แต่เราต้องมาดูซิว่าจะทำยังไง

ถ้าเราจะทำอะไรต่อไปนี้ เราคงต้องใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดูด้วย การมีเหตุมีผล การลงทุนพอประมาณ และการมีคุณสมบัติที่ดี คือ มีความรู้ และมีคุณธรรม ถ้าเราโตเร็วเกินไปใช้เงินมากเกินไป พอมันเสียหายขึ้นมา มันก็มีผลกระทบมาก เราก็ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปก็ได้ บางครั้งเราต้องเตรียมรับความเสี่ยงในอนาคตไว้ด้วยจากปัจจัยภายใน และภายนอก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะดูแลมากน้อยตามที่เรามีงบประมาณอยู่ หรือเป็นไปตามกฎหมาย มันหลายส่วนด้วยกัน ทั้งแหล่งเงินของรัฐ งบกลาง หรือในส่วนของธนาคารพาณิชย์เหล่านี้ ถ้าเราใช้มากเกินไป หลายอย่างก็เป็นเรื่องของการพาณิชย์ก็ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน รัฐบาลก็พยายามจะแก้ให้ ที่ผ่านมาหลายรายมีผลกระทบจากน้ำท่วม ตั้งแต่ปี 54 - 55 ก็ยังค้างคากันอยู่ เนี่ยนะ ก็เป็นจำนวนเงินหลายสตางค์อยู่เหมือนกันแหละ ก็ใจเย็น ๆ นิดหนึ่งผมจะดูแลให้ แต่ขอให้ฟังกันด้วยนะ บางอย่างมันต้องดูงบประมาณ ดูกฎหมายด้วยอะไรด้วย

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของการค้ามนุษย์ หรือ IUU ที่กำลังทำอยู่วันนี้ ผมเคยบอกไว้แล้วว่า ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม เรายังยืนยันว่าเราจะทำอย่างเต็มที่ และทำต่อไปต่อเนื่อง เพราะมันมีผลกระทบกับประเทศเพื่อนบ้าน ต่อโลก ต่อทรัพยากรทางทะเลด้วยนะครับ อันนี้ถ้าหากว่าผลออกมาเป็นการดี ผมก็ขอขอบคุณนะครับ ทุกพวกทุกฝ่ายที่เป็นผลจากการทุ่มเทการทำงาน จากบูรณาการกันทุก ๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนด้วยนะครับ

ก็ถือว่าสิ่งที่ได้รับมานั้นเป็นของขวัญ เป็นกำลังใจในการทำงานในขั้นต้นของพวกเราเท่านั้นเอง ขอให้ทุกคนได้มีการประเมินสถานการณ์ในเรื่องคอร์รัปชัน และภาพพจน์ของประเทศในสายตาของคนไทย และนานาชาติไปด้วย จากสถาบันและองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ วันนี้รัฐบาลเอามาดูหมด และการประเมินจากต่างประเทศ

วันนี้เรื่องทุจริตมีหลายหน่วยด้วยกันนะครับของต่างประเทศ CPI CSI PERC IOD PWC และจุฬาฯ นะครับ พบว่า สถานการณ์คอร์รัปชันในประเทศดีที่สุด ในรอบ 3 ปี

2. ภาพลักษณ์ประเทศด้านความโปร่งใสในสายตานานาชาติ ดีที่สุด รอบ 10 ปี และ 3.การเรียกรับสินบนลดลงมากกว่าร้อยละ 50 เทียบกับ 15 ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะลดลงอีก

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากรัฐบาล และ คสช. ได้ผลักดันกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.การอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ และ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ รวมทั้ง มาตรการกลไก นโยบายต่าง ๆ ในการทำงานทั้งหมด เราได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งหมด ขอขอบคุณประชาชน ภาคธุรกิจ การค้าต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือด้วยนะครับ เราจะต้องไม่ให้มีการทุจริตอีกต่อไป

ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติของ คสช. บวกด้วยการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ต้องมีการปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมอีกเรื่อย ๆ (e - Market) วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมด มันเป็นการเริ่มต้นไป การทำสัญญาคุณธรรม (IP) ระบบ COST ที่เป็นสากลในการตรวจสอบนะครับ และเราได้มีช่องทางของรัฐบาล G-Channel มาใช้ เพื่อป้องกันการคอร์รัปชันเชิงระบบ หรือระบบพวกพ้องในระยะยาวนะครับ ท่านคงต้องตามดูนะครับว่า มันจะมีช่องหนึ่งที่เขาเขียนว่า ภาษีไปไหน

อันที่ 2 ก็คือ G-News นะครับ ซึ่งจะเป็นข้อมูลของทุกหน่วยงานทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องที่เขาทำงานอยู่วันนี้ ถ้าท่านเปิดดูท่านจะมีความรู้มากขึ้น จะได้เข้าใจการทำงานของรัฐ และจะได้แสวงหาข้อมูลกันได้ ถ้าไม่เปิดดู ท่านจะใช้ความรู้สึก มีความขัดแย้ง กระทบกระทั่งไม่เข้าใจกันไปแบบนี้ไปตลอด มันเป็นช่องทางให้หลายพวกหลายฝ่ายเข้ามาหาประโยชน์ได้ จากความไม่เข้าใจของพวกเรา

สำหรับในด้านการเดินหน้าประเทศ ปัญหาบางประการ ท่านทราบดีอยู่แล้ว ขอความร่วมมือท่านช่วยกันกับผม กับรัฐบาล กับ คสช.ว่า เราจะต้องถึงเวลาแล้วในการที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ และลูกหลานในอนาคต สำคัญที่สุด คือ การเคารพกฎหมาย การที่เราขาดจิตสำนึก เราต้องปลูกจิตสำนึกให้ได้ อันนี้มันต้องอยู่ที่ตัวคน การขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเป็นต้นเหตุให้มีเหตุการณ์ที่น่าเสียใจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจล่าช้า การเดินหน้าประเทศไม่ราบรื่นไม่ดีเท่าที่ควร หลายอย่างก็เป็นเพราะมีความคิดสุดโต่ง หารือกันไม่ได้ หาทางออกไม่ได้ หรือคิดได้พูดได้แต่ทำไม่เป็นเหล่านี้มันต้องมาช่วยกัน

บางอย่างผมพร้อมรับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์ของท่าน ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรไปกว่าท่าน เพียงแต่ว่ามันต้องมาคุยกัน โดยไม่มีผลประโยชน์ใดใดทั้งสิ้น ต้องไม่มีตัวตนทั้งสิ้น ถ้าเราฟังกันบ้างลดราวาศอกกันบ้าง มันก็มีอะไรที่มันสามารถทำได้ในวันนี้ อย่าเอาความขัดแย้งมาพูดก่อน อย่าเอาการผิดกฎหมายมาพูดก่อน มันทำไม่ได้ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นภายใต้กรอบของกฎหมาย

เรื่องสำคัญต่อไปคือ เรื่อง การทำประชามติ ซึ่งใกล้เข้ามาทุกวันนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันในการใช้สิทธิ์ของท่านหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง ผมทำหน้าที่ของผม ท่านทำหน้าที่ของท่านที่จะลงประชามติ รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างในส่วนของรัฐบาลได้มีการมอบหมายเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องของการรับผิดชอบในการทำประชามติ โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปก้าวล้ำก้าวล่วง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเอง กฎหมายต่าง ๆ ที่ออกมาก็ระมัดระวังหน่อย ผมคิดว่าถ้าทุกคนมีเจตนาดี บริสุทธิ์ก็ไม่น่าจะเป็นกังวล ไม่ใช่อาจจะมีอยู่หลายคนหลายพวกก็บอกว่า กฎหมายเยอะเนี่ยก็อย่าไปเลย เดี๋ยวจะมีความผิด ผมว่าถ้าชี้นำแบบนี้ ผมว่ามันน่าจะไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของชาติ หน้าที่ของทุกคนก็ไปทำประชามติ ไม่ต้องไปกลัว เขาเขียนไว้ชัดเจนอะไรคือผิด อะไรคือถูก

เพราะฉะนั้นอย่าไปข่มขู่ประชาชนว่า อย่าไปเลย แต่ถ้าทุกคนไปให้ใครชี้นำอยู่ในทางที่ไม่ถูกต้องแบบนี้ มันก็ไม่สามารถปลดล็อกตัวเองได้ เป็นอิสระจากคนอื่นเขาได้ อยากให้ทุกคนมีอิสระทางความคิดของแต่ละบุคคล กรุณาให้ความสำคัญหน่อยมีไม่กี่ข้อ มีไม่กี่เรื่องที่มีผลกระทบกับประชาชน แต่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ไปอ่านเอาเอง ก็หลายคน หลายนักการเมืองไปพูดจาบิดเบือนอยู่ในวันนี้ ในพื้นที่ในระดับท้องถิ่น ตามหมู่บ้านบ้างอะไรบ้างนะ เช่น รัฐบาลจะลดการศึกษาฟรี 15 ปี ยกเลิกการใช้บัตรทอง ผมจะให้ คสช. เขาดำเนินการนะครับ พูดโกหกบิดเบือนอย่างเลวร้าย คนพวกนี้แย่มาก

เรื่องที่ 3.การขยายความขัดแย้งใด ๆ ก็ตาม โดยสื่อโซเชียล ทั้งโดยเจตนา หรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โดยไม่สนใจข้อกฎหมาย มันเลยทำให้สังคมเชื่อไปว่า รัฐมีการดำเนินการ 2 มาตรฐาน มันต้องมาตรฐานเดียวสิครับ เพราะมันกฎหมายตัวเดียวกัน ไม่เคยคิดจะไปละเมิดสิทธิ์ใคร และก็ไม่พยายามจะใช้อำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่มันก็จำเป็นที่ต้องใช้ เพราะคนปั่นป่วนยังมีอยู่ไง ถ้าไม่มีผมจะใช้ทำไม สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยอธิบายให้ต่างชาติได้เข้าใจว่าสถานการณ์ประเทศไทยเป็นอย่างไร วันนี้เรากำลังก้าวหน้าไปในทางที่ดี มีเสถียรภาพ มีหลายประเทศต้องการมาลงทุนกับเรา หลายประเทศก็ให้ความเชื่อมั่นในเรื่องของการปฏิรูปประเทศหรือการแก้ปัญหา ก็มีอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่ยินยอมกันอยู่ ก็คือ เรื่องทางการเมือง อยากให้ประชาชนได้เข้าใจว่า อะไรมันสำคัญกว่ากันล่ะตอนนี้ จริงๆ แล้วมันสำคัญทั้งคู่นะครับ ถ้ามันเดินไปพร้อม ๆ กันได้ก็ดี คือการเมืองก็คือการเมืองที่มันเป็นสุจริต แล้วก็ในเรื่องของการปฏิรูปก็ช่วยกันทำไปแล้ววันหน้าการเมืองเหล่านั้นก็เข้ามาทำต่อ มันมีปัญหาตรงไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมยืนยันได้เป็นความสัตย์จริงว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาฯ 2557 เป็นต้นมา ยังไม่มีใครต้องบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เลยจากการที่เราเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้

ฉะนั้น ไปตรวจสอบได้ แม้กระทั่งใช้กฎหมายปกติหรือกฎหมายพิเศษ ไม่มีเลย หลายคนนี่ดื้อดึงขัดขืนหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้จับกุม ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังอะไรเหล่านี้ แต่ถ้าดำเนินการได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดี อาจจะต้องใช้กฎหมายพิเศษบ้าง แต่ต้องทำในสถานการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องเข้าใจหลายคนก็ใจร้อน ทำไมไม่ใช้มาตราโน้นมาตรานี้ ทำให้เร็ว ผมไม่สามารถจะฝ่าคนเป็นพัน ๆ เข้าไปได้ มันอยู่ที่ทำยังไงคนเป็นพัน ๆ หมื่นคนเหล่านั้นจะยุติซะ แล้วก็ผลักดันให้คนที่มีปัญหาออกมาต่อสู้คดีตามกฎหมาย เพราะมันเหมือนไม่เคารพกฎหมาย ก็บอกว่า อะไรนะ จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อประเทศชาติมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เขาทำได้เหรอ ไม่น่าทำได้นะ ผมถามประชาชนทั้งประเทศว่าทำได้ไหม ช่วยกันตอบผมหน่อยเถอะ ถ้าระหว่างนี้ทำผิดอะไรก็ได้ไม่เป็นไร แล้ววันหน้าค่อยมีรัฐบาลเลือกตั้ง แล้วค่อยมามอบตัว กันตอนนั้น ผมว่ามันไม่ใช่นะ วันนี้ผิดวันนี้ก็ต้องลงโทษวันนี้ กระบวนการยุติธรรมเขาก็มีอยู่แล้ว เราเพียงแค่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ท่านต่อสู้คดี เราอาจจะต้องใช้มาตรา 44 ในการควบคุมตัวเข้าจับกุม เพราะว่ามันหลายอย่างด้วยกันนะครับ ท่านก็รู้ดีอยู่ กฎหมายปกติไม่ค่อยเชื่อ แต่เข้าไปจับกุมดำเนินคดีก็ใช้วิธีการอันละมุนละม่อมไม่เคยต้องไปทำร้าย ไปทุบตีอะไรต่าง ๆ ไปทรมาน ไม่เคยทำซักอย่าง ถ้าทำผมก็ลงโทษนะ

ฉะนั้น เพียงนำพามา และสอบสวนให้สู้คดี ต่างคนต่างก็พยายามที่จะบิดเบือนไปเรื่อย ๆ หลายคนก็เคยให้ความเมตตาแล้ว ให้ออกมาอะไรมา ให้ประกัน บอกไม่ประกันอีก จะขออยู่ในคุกก็แล้วแต่ตามใจ นั่นก็ต้องเข้าใจนะครับ ไม่ใช่ผมไปบังคับให้เขาอยู่ ต้องการให้เขาติดคุก ไม่ใช่ ผมเมตตาอยู่แล้วไม่ว่าจะนิสิตนักศึกษา แต่เขาบอกเขาไม่อยากออกจากคุก จนกว่าจะมีประชาธิปไตย ก็แล้วแต่นะ ผมบังคับท่านไม่ได้อยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับประเทศไทย คนไทย จะคิดยังไงว่าผมรังแกเขาหรือเปล่า พ่อแม่เดือดร้อนร้องไห้ แล้วกลายเป็นว่าพ่อแม่ก็มาเกลียดชังผมเข้าไปด้วย จริง ๆ มันไม่น่าใช่นะ ไปคิดเอา

วันนี้เราต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดในสังคมไทย ในต่างประเทศด้วย ทำไมต้องให้ผมเหน็ดเหนื่อยทำทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ผมต้องไปอธิบายเขาอีก ทำไมไม่สนใจหน้าตาภาพลักษณ์ของประเทศกันเลยหรือ ผมเข้ามาแบบนี้ผมรู้ตัวของผมดี แต่ผมรู้ว่าผมเข้ามาทำอะไร หลายคนก็รู้ว่าผมเข้ามาทำอะไร แต่ทำไมคนบางคนเนี่ยไม่เข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นคนที่ร่วมในขบวนการทำความผิดทั้งสิ้น อันนี้ผมฝากให้ชาวโลกได้ดูด้วยแล้วกัน ให้รับทราบด้วย กรุณาสอบถามนะครับ กรณีผู้ที่อยู่ต่างประเทศหนีไปพูดโน่นพูดนี่ ประชุมโน่นนี่ กลับมาเล่นงานประเทศไทย ผมคิดว่าไม่น่ากลับมาอะนะ กลับมาก็กลับไม่ได้ ผมคิดว่าคนไทยคงไม่ยอมอยู่แล้วคนเหล่านี้ คือไปประณามประเทศตัวเอง ผมคิดว่าคนเหล่านี้คนไทยไม่น่าจะยอมรับได้ มีหลายคนนะครับ วันหลังน่าจะเอาชื่อขึ้นจอซะทีที่หนีไปเนี่ย หนีด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หนี แล้วก็ไปด่าประเทศไทย ผมไม่เข้าใจจริง ๆ และไปสนับสนุนอยู่พวกเดียวกันนั่นแหละ ก็คิดเอาแล้วกัน

ช่วยกันนะครับ เราต้องรู้ว่าเราจะอยู่กันยังไง เราเป็นคนไทย แล้วทำไมคนเหล่านั้นถึงเอาประเทศเป็นตัวประกัน แล้วทำร้ายประเทศชาติ เอาประชาชนเป็นโล่กำบัง ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมานั่นแหละ ทำลายประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ทั้ง ๆ ที่มีคนไม่กี่คนที่ทำความผิดแล้วหลบหนีคดี จริงๆ แล้วคนเดียวนั่นแหละ ก็ทำทุกอย่างมันบานปลายไปหมด คนอื่นก็ตามกันไปด้วยความหลงเชื่อ หรือจะเชื่อมั่นศรัทธายังไงก็แล้วแต่ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้นะ มันผิดกฎหมาย ทั้งหมดก็ผิดหมด

เรื่องที่ 4 เรื่องการปฏิรูป ถ้าเราไม่เคารพกฎหมายกันแล้ว ไม่ร่วมมือกันไม่มีใครทำได้หรอกครับ อย่างมากมันก็ได้แต่พูดกัน พูดอย่างนี้อย่างนั้นพูดถึงปัญหา พูดถึงสิ่งที่เราต้องแก้ไข แต่ไม่มีวิธีการ วันนี้รัฐบาลกำลังหาวิธีการแล้วก็ใช้วิธีการหลายอย่างทำมาแล้ว ทำมา 1 ปี 9 เดือน ไม่ใช่ง่ายๆ กว่าจะหากฎหมายได้ กว่าจะหาวิธีการได้ กว่าจะปรับแก้วิธีการบริหารจัดการได้ กว่าจะให้ข้าราชการได้เข้าใจ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้สร้างการเรียนรู้เหล่านี้ไว้ อันนี้คือความยาก

หลายคนอย่ามาบอกว่าไม่ได้ผลอะไรเลย ปฏิรูปก็ไม่ได้ปฏิรูป อันที่ 1 บ้านเมืองสงบไหมครับ อันที่ 2 กฎหมายที่ออกมามันมีประโยชน์ต่อประชาชนไหม อันที่ 3 สิ่งที่เราทำมาแล้ววันนี้ มันสนับสนุนการลงทุนต่างประเทศหรือเปล่า กฎ ระเบียบกติกา กฎหมายที่เป็นสากลออกมาใหม่ให้หรือเปล่า แล้วทำไมประเทศต่าง ๆ ถึงมารุมเยือนประเทศไทยเพื่อจะมาแสวงหาความร่วมมือกับประเทศไทย แต่มีคนไทยต่อต้านทุกประการ ผมเลยไม่เข้าใจว่านี้คือประเทศไทยหรือไง

เพราะฉะนั้นคนไทยกรุณาแสดงความคิดเห็นออกมา ก็อย่าเงียบกันมากนัก ส่วนใหญ่ก็สนับสนุนตลอดครับตลอดเต็มที่กำลังใจ สนับสนุนได้พูดได้แต่อย่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันในสังคม แสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ แล้วก็เพื่อการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในอนาคต

ฉะนั้น อย่าต่อว่ารัฐบาลมากนักเลย ผมไม่ได้ออกมาบ่นอะไรนักหรอก ยังไงท่านบ่นยังไงผมก็ทำผมก็จะอยู่ตรงนี้ บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์นะท่าน รัฐบาลกำลังทำให้แข็งแรง ถ้าหากต้องการปฏิรูป ประชาชนทุกคนต้องเรียกร้องต้องการปฏิรูปก็แสดงความคิดเห็นกันออกมา อยากปฏิรูปแต่จะปฏิรูปยังไงท่านก็บอกมาแล้วกัน ผมก็จะทำให้ ใครที่ไม่ต้องการการปฏิรูปก็บอกมาให้ชัดเจนเลยว่าไม่ต้องการปฏิรูป ถ้าไม่ต้องการปฏิรูปจะเดินหน้าประเทศยังไงบอกมาให้ชัด อย่ามาพูดให้ไขว้เขวกันไปไขว้เขวกันมาแล้วก็อ้างประชาชนต้องการ ผมไปต่างจังหวัดผมก็เห็นประชาชนต้องการให้รัฐบาลทำนี่ทำโน่นให้เขาแล้วผมก็ทำไปให้เขาตั้งเยอะแล้ว ก็ยังไปเอาสิ่งที่มันบิดเบือนมาพูดอีก ตัวเลขโพลต่าง ๆ ก็ไปดูเอาแล้วกัน มันก็แล้วแต่จะทำนะ หลายอย่างมันอยู่ที่คำถาม อยู่ที่คำตอบด้วย และอยู่ที่ไปถามใคร เพราะฉะนั้นประชาชนก็ต้องเชื่อมั่นตัวเอง แล้วก็เพิ่มพูนความรู้ เรียนรู้ตัวเองว่าเราจะรู้เท่าทันเขาอย่างไร ประชาชนทุกคนผมถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาจริงใจกับทุกคนนั่นล่ะ เพราะฉะนั้นใครที่จริงใจกับเขา นั่นล่ะครับ เขาก็จะตอบสนองท่าน แต่ถ้าใครไม่จริงใจต่อเขา นั่นล่ะเป็นการทำร้ายพวกเขา หยุด อย่าให้เขาหลอก ประชาชนต้องอย่าให้เขาหลอกเพื่อให้เป็นบันไดปีนขึ้นสู่อำนาจและผลประโยชน์ในอนาคต ก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง

ในเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางกฎหมาย อย่าไปพิจารณาเอง อย่าไปคิดเอาเอง จริง ๆ แล้วการจะลงโทษอะไรก็ตามไม่ใช่ง่ายๆ นะ ไม่ใช่อยู่ดีๆ สั่งนี่สั่งโน่น ไม่ใช่ มันต้องมีกระบวนการเริ่มต้น มีการร้องเรียน มีอะไรต่าง ๆ มา ผมก็ให้ไปสอบสวน นำเข้าคณะพิจารณา คณะพิจารณาขึ้นมา ถ้าจำเป็นต้องใช้กฎหมายปกติได้ ก็ปกติไป กฎหมายพิเศษเพื่อจะสอบสวนต่อ ผมยังไม่ได้ว่าใครผิด ใครถูก สักคนเลย แต่มันก็จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาครหาต่อไป ก็ต้องขอโทษถ้าหากว่าทำให้ท่านต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันด้วยความจำเป็น เพราะมันเป็นเรื่องที่มีผลกับประเทศ ในกิจการหลาย ๆ กิจการ ก็ถือว่าเพื่อสร้างความชัดเจนขึ้นก็แล้วกัน ก็ขอร้องกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่ให้มีประชาธิปไตยแบบเดิม ๆ มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีการเพิกเฉยไม่บังคับใช่กฎหมาย ไม่ว่าจะโดยใครก็แล้วแต่ ผู้มีอิทธิพล นักการเมือง รัฐบาล มันทำให้บ้านเมืองไร้ขื่อแป ธุรกิจผิดกฎหมายมากมาย ไม่สุจริต บ้านเมืองไม่เป็นระเบียบ วันนี้ไปดูสิ จับอะไรได้บ้าง จับได้ทุกวันนะ ไม่ว่าจะการพนัน บุกป่า ทุกวันนี้ยังมีอยู่เลย บุกป่า ตัดไม้พะยูง ล่าสัตว์ป่า วันก่อนผมก็ไปร่วมงานวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 มิถุนายน เพิ่งจัดมาเมื่อ 2 - 3 วันนี้ หยุดล่า หยุดขาย หยุดค้า แล้วก็หยุดกิน ก็คือสัตว์ป่านั่นล่ะ ไม่เกิดประโยชน์ ผมสงสารเขา ผมเห็นรูป ลิง ช้าง ดูเทียบแววตาเขากับแววตาคนสิ มันเหมือนกันนั่นล่ะ เขาก็คือชีวิตๆ หนึ่ง โลกมันต้องประกอบไปด้วย คน สัตว์ พืช และทรัพยากรธรรมชาติ มันต้องอยู่ด้วยกันสิครับ มีที่ให้กินตั้งเยอะตั้งแยะมีอย่างอื่นให้กินตั้งมากมาย แล้วไปกินในสิ่งที่มีชีวิตในที่มันไม่ใช่อาหาร ไม่ได้เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์ไง ผมว่าบาปกรรมนะ บาปกรรม ไม่ดีหรอก ธรรมะ พุทธศาสนาก็สอนไว้ว่าไม่ดีหรอก รัฐบาลนี้พยายามทำทุกอย่างนะครับ

ก็ขอให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณของตนเอง อย่าให้ใครมาปิดหูปิดตา หรือเปิดหูเปิดตาในทางที่มันไม่ถูกต้อง ฟังความทั้ง 2 ทาง ฟังผมก็ได้ แล้วฟังเขาบ้าง แล้วถามเขาว่าไอ้ที่ผมพูดเนี่ยว่าไง ถ้าเขาตอบผิดก็มาถามผมว่าใช่หรือเปล่า ถ้าเขาบอกสิ่งที่ผมพูดในทางที่มันไม่ดีกับท่านก็มาถามผมกลับที่ทำเนียบ ผมพร้อมตอบทุกคำถาม แต่ท่านถามเขา ก็ให้เขาตอบทุกคำถามด้วยแล้วกัน แล้วเอาคำตอบเขามาบอกผม แล้วผมจะอธิบายให้ดูว่าทุกเรื่องมันเป็นยังไง ทุกอย่างนี้ที่ผมเอาจริงเอาจังวันนี้เพราะว่ามันเป็นอนาคตของเรา ของประเทศชาติ และลูกหลานในอนาคต ผมไม่อยากให้เวลามันเสียเปล่าที่เข้ามา

วันนี้ต้องมาพูดทุกเรื่อง ทุกประเด็น แทนที่จะพูดถึงเรื่องที่เป็นความก้าวหน้าพูดถึงสิ่งที่มันเป็นประโยชน์ ต้องมาตอบโต้ในสิ่งที่มันบิดเบือนอยู่อย่างนี้ มันเสียเวลาของผม เสียอารมณ์ด้วยนะ เพราะฉะนั้นอยากให้ไปเปรียบเทียบดูซิว่าที่ผ่านมามีรัฐบาลไหนบ้างที่มาชี้แจงทุกเรื่องแบบวันนี้ เสร็จแล้วท่านก็มาเก็บประเด็นเล็กประเด็นน้อยมาจับผิดผม มันไม่น่าใช่นะ ท่านคงอยากให้ไม่ต้องพูดอะไรเลยมั้ง แบบเก่าหรือเปล่าล่ะ ต่างคนต่างไม่ต้องรู้อะไรกัน อนาคตยังไงก็ไม่ต้องรู้ ถ้าเป็นแบบนั้นประเทศชาติก็อยู่ที่เดิม อยากให้ทุกคนใช้สติปัญญาให้มาก มากกว่าการใช้อารมณ์ใช้ความรู้สึก ใช้ธรรมะให้มาก น้อมนำแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองคน ครองเรือน ประกอบกิจการงานในสิ่งที่ถูกที่ควร อันจะนำความเจริญมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนตลอดไป

สุดท้ายนี้ผมอยากให้ครอบครัวคนไทยใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ พักผ่อนให้มีความสุข เช่น 1.ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบ 5 - 24 กรกฎาคมนี้ จะเป็นตลาดจำหน่ายสินค้าจากวัตถุดิบธรรมชาติและชุมชน มีกิจกรรมสร้างจิตสำนึก อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะ การลดใช้ถุงพลาสติก การเพิ่มใช้ถุงผ้า เป็นต้น วันนี้ผมอยากให้เพิ่มเป็นสัก 2 วันนะ เพิ่มวันเดียวลดไปหลาย 10 ล้านตัน เพราะฉะนั้นถ้า 2 วัน ใช้ถุงผ้าแทน มันจะลดได้เป็น 2 เท่า หรือ 3 วันก็ 3 เท่า มันต้องลดให้มากทั้งบนบกทั้งในทะเล ในทะเลก็เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ ตายเยอะเลย ปลาใหญ่ ปลาเล็ก กินถุงพลาสติกเข้าไป เขาไม่รู้หรอกครับ ท่านน่ะทำบาปนะครับ เพราะฉะนั้นลดการใช้ถุงพลาสติกให้มากนะครับ อย่าเอาสะดวกอย่างเดียว ขอเชิญชวนห้างร้านต่าง ๆ ภาคธุรกิจเอกชน กรุณาสนับสนุนในเรื่องถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติกกับรัฐบาลด้วย ถือว่าช่วยกันนะครับ

อีกเรื่องก็คลองผดุงกรุงเกษมเหมือนกัน ผมก็ได้ให้นโยบายไปแล้ว แล้วทาง กทม.ก็เริ่มปฏิบัติไปแล้ว ก็คือนำเรือมาวิ่งให้บริการผู้โดยสาร อาจจะเป็นลำเก่าก่อน เป็นเวลาไหนที่ระดับน้ำสามารถวิ่งได้ก็วิ่ง ระดับไหนที่วิ่งไม่ได้ก็ต้องหยุดไปก่อน อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้น แล้วต่อไปเขากำลังจะมีแผนงานที่จะทำให้มันสมบูรณ์ในอนาคตด้วย ก็ขอขอบคุณ กทม. นะครับ แล้วอีกประการหนึ่งผมมีนโยบายให้มีเรือขายกาแฟ ผมอยากให้มันเป็นคลองที่กลับไปทบทวน เหมือนคลองที่ผมเคยอยู่ตอนเด็ก ๆ ผมเคยอยู่ริมคลองบางหลวง เช้า กลางวัน เย็น ผมก็นั่งรอเรือก๋วยเตี่ยวพายมาขาย ก็อร่อยดีนะ แต่มันต้องดูว่าเขาเอาน้ำในคลองหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าเขาใช้น้ำในตามที่เขาเอามาเอง อันนี้ก็ต้องช่วยกันนะ เรื่องเรือก๋วยเตี่ยว เรื่องกาแฟ ผมอยากให้เริ่มต้นก่อน เสาร์ - อาทิตย์ นี้ ทันหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ต้องมาเพราะใครหรอก มันมีคนตั้งเยอะตั้งแยะที่เขาเลิกไป วันหน้าอาจจะมีเรือจ้างก็ได้ เรือแจวเรือจ้าง เรือเงียบ ๆ เป็นเรือท่องเที่ยว แล้วก็มีอุปกรณ์ในการป้องกันในเรื่องของอุบัติภัยทางน้ำด้วยก็แล้วกัน มีห่วงยางมีอะไรต่างๆ ให้เรียบร้อย ทุกคนรู้ตัวอยู่แล้วว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็น ถ้าไม่เป็นก็อย่าลงไป ถ้าเราเริ่มต้นอย่างนี้ได้ คลองเหล่านี้ก็จะต่อไปยังคลองอื่น ๆ เราก็จะได้พัฒนาคลองอื่นไปด้วย แล้วคลองที่เหลือเราจะทำยังไง ถ้าบอกว่าติดสะพาน ท่านก็ไปต่อตรงสะพานนู้นก็ได้ มีอีกช่วงหนึ่งที่จะไปขึ้นเรืออีกลำหนึ่ง ไปอีกสะพานหนึ่ง ก็ไปทำท่าเทียบเรือให้ได้ คิดแบบนี้ มันถึงจะเกิดได้ วันหน้ามันก็จะสามารถไปได้ทุกคลอง ถ้าเราทำอย่างนี้ได้มันก็จะลดการใช้รถลงไปได้พอสมควร อันที่สองก็ไม่ต้องไปกังวลรถติด ไม่ต้องสร้างมลภาวะด้วย คิดแบบนี้ ถ้าเรือลำใหญ่มันติด ก็เรือลำเล็ก ใช่ไหมล่ะ ถ้ามันไปไม่ได้ น้ำมันตื้น ก็เรือท้องแบน เขาเรียกคิดแบบนี้มันถึงจะไปได้ คิดนอกกรอบซะบ้าง วิธีการแก้ปัญหามีเยอะแยะไป

เรื่องกีฬาเหมือนกันนะครับ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นกำลังใจให้กับนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในการแข่งขันกับทีมบราซิลในวันพุธที่ 6 กรกฎาคมนี้ เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ร่วมกันเป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลหญิงเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2016 รอบสุดท้าย ณ อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6 - 10 กรกฎาคมนี้ ก็ขอบคุณนะครับทีมวอลเลย์บอล ขอให้เต็มที่ ผมเห็นแล้ว แข่งไม่หยุดเลยนะอาทิตย์หนึ่งแข่งไม่หยุดเลย รักษาสุขภาพให้ดี กีฬามันอยู่ที่วิทยาศาสตร์การกีฬา ก่อนแข่งและหลังแข่ง ก่อนแข่งครั้งต่อไป หลังแข่งมันต้องมีการฟื้นฟู ฟื้นฟูด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างไร เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น และอีกเรื่องก็คือเรื่องของนักจิตวิทยา แล้วขณะเดียวกัน ก็อย่าหลงลืมว่าเราเล่นกีฬาไปตลอดชีวิตไม่ได้ อายุมากหลายคน หลายทีม ก็ไปหานักกีฬาใหม่ ๆ มาสิ ที่ขายาว ๆ แขนยาว ๆ ขายาว ๆ ตบแรง ๆ ไปหามา ผมว่ามีนะคนไทยรุ่นใหม่ เพียงแต่ว่าเขาอาจจะยังไม่รู้ว่าเขามีพรสวรรค์ทางนี้หรือเปล่า ไปหามาเถอะครับ ช้างเผือกเยอะแยะไป จะได้สนับสนุนดูแลเขาได้

เรื่องน้ำท่วม การจราจร ก็อย่าถือว่าเป็นการโทษใคร ๆ เลย เพราะฉะนั้นผมว่าต้องช่วยกัน สรุปว่าต้องช่วยกัน นี่ผมก็สั่งการไปหลายอย่าง ให้มีมาตรการในการช่วยเหลือ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กทม. ต้องช่วยกันทั้งหมด เพราะสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ท่านก็เห็นอยู่แล้ว พื้นถนน ท่อระบายน้ำ อะไร เป็นยังไง ซึ่งมันพัฒนาไม่ทัน อันนี้ก็ต้องไปดูซิว่าความเป็นระเบียบจะทำยังไง ก็เมื่อในวันนี้ถนน เส้นทาง ผังเมือง มันทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะมันปล่อยปะละเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว การที่เราจะไปรื้อใหม่ ทำใหม่ทั้งหมด ก็ไม่ได้อีก จะไปทำเพิ่มเติมก็ไม่รู้จะทำตรงไหน เพราะมันติดคนไปหมด นั่นล่ะที่เขาเรียกว่าการเจริญเติบโตของเมืองใหญ่ที่ไม่มีการวางแผนงานไว้ล่วงหน้า

ผมถึงบอกว่าวันนี้ต้องไปคิดแล้วนะครับว่าใน 18 กลุ่มจังหวัด ใน 76 จังหวัด คือ อย่าไปคิดแต่อยู่ในเมืองกัน ต้องตีกรอบข้างนอกแล้วว่าจะทำอย่างไร ว่าจะขยายเมืองออกข้างนอกได้อย่างไร เพราะฉะนั้นก็ไปดูสิในศักยภาพของแต่ละกลุ่มจังหวัด ทั้ง 18 กลุ่ม จะทำยังไง ถ้าเมืองไหนเป็นศูนย์กลาง ตรงนั้นก็ต้องไปความเชื่อมโยงกับจังหวัดในกลุ่มจังหวัดของตัวเองได้อย่างไร ไม่ใช่ทุกคนต้องการความเจริญเหมือนกันหมด ต้องการถนน 8 เลน เท่ากันหมดมันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องไปหาวิธีการให้ได้ นี่คือ แนวทางที่รัฐบาลได้ส่งเสริมลงไปและกำหนดนโยบายลงไป ต้องร่วมมือกันทั้งรัฐ เอกชน ประชาสังคม แม้กระทั่ง NGO ต่าง ๆ ก็ตาม ทำเพื่อประเทศไทยนะครับ ทุกอย่างมันสำเร็จแน่ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น