“หมอวรงค์” ย้อน “ยิ่งลักษณ์” ใช้สิทธิเต็มกระบวนการฟ้องคนอื่น ศาลวินิจฉัยแล้วต้องยอมรับเช่นกัน ชี้สังคมทราบถึงความเสียหายจำนำข้าว มองฟ้อง “จิรชัย” แก้เกี้ยวเป็นข้ออ้างคดีอาญา “ราเมศ” ย้อนไม่ควรฟ้อง จนท.รัฐเพราะทำตามหน้าที่ เชื่อหวังให้เสียขวัญ พร้อมเป็นกำลังใจให้
วันนี้ (23 มิ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปยื่นอุทธรณ์คดีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง คดีที่นายจิรชัย มูลทองโล่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว ที่ถูกฟ้องว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบในการรวบรวมพยานหลักฐานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสิทธิที่จะทำได้ตามที่กฎหมายให้โอกาส แต่สิ่งที่สำคัญเมื่อศาลมีคำวินิจฉัยออกมาก็ต้องยอมรับในกระบวนการ และในทำนองเดียวกัน วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้สิทธิเต็มที่ตามกระบวนการ ดังนั้น สิ่งที่คนอื่นเขาฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผลจะออกมาเช่นไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต้องยอมรับเช่นกัน ส่วนผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จะยืนตามศาลชั้นต้นหรือมีการเปลี่ยนแปลง ตนคิดว่าเราคงไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ทุกภาคส่วนในสังคมก็รับทราบว่านายธีระชัยได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ที่มอบหมาย และสังคมก็รับทราบถึงความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นของโครงการรับจำนำข้าว
“แต่ผมมีข้อสังเกตการฟ้องคุณจิระชัยครั้งนี้ เนื่องจากคุณจิระชัยจะต้องไปเป็นพยานศาลในคดีอาญาของคุณยิ่งลักษณ์ด้วย ดังนั้น การมาฟ้องครั้งนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีละเมิด อาจจะเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวเพื่อจะได้มาเป็นข้ออ้างบางอย่างในคดีอาญาก็ได้” นพ.วรงค์กล่าว
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์เป็นสิทธิของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตามกฎหมาย แต่ตนคิดว่าคดีนี้ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่น่าจะฟ้อง เพราะนายจิระชัยถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งทำตามกระบวนการและหน้าที่ ไม่มีประเด็นจุดไหนที่กระทำโดยมิชอบหรือกลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นกระบวนการตามขั้นตอนการสอบสวน ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถต่อสู้ได้ทุกกระบวนการของกฎหมายอยู่แล้ว แต่กรณีนี้อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับคดีจำนำข้าวเสียขวัญและกำลังใจ ก็เป็นเทคนิคการต่อสู้คดีของทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์
นายราเมศกล่าวว่า ขอให้กำลังใจนายจิระชัย เพราะสังคมก็เห็นว่านายจิรชัยปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และดำเนินการไปตามกฎหมายกำหนด และให้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องพูดความจริง ทำในสิ่งที่ถูกต้องมากที่สุด เพราะถ้าทำถูกต้องแล้วแม้ใครจะมาฟ้องคงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าไปเกรงกลัวไม่พูดความจริง ท้ายที่สุดก็จะกลับมาเข้าตัวเอง ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ที่ศาลอุทธรณ์จะยืนตามศาลชั้นต้นนั้น นายราเมศกล่าวว่า เป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ว่าจะพิพากษาอย่างไร