“ดุสิตโพล” สำรวจประชาชน 76% ไม่เห็นด้วย นปช.ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐ 52% ไม่แน่ใจว่าจะมีการโกงประชามติหรือไม่ เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ทำงานโปร่งใส แนะประชาชนออกมาลงคะแนน ป้องกันการสวมสิทธิ
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศห้ามกลุ่ม นปช.จัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศ พร้อมกำชับจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดหากยืนยันจะเดินหน้าต่อ ในขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวให้เหตุผลว่าเป็นการตั้งขึ้นเพื่อเน้นรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงประชามติให้มากที่สุดโดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งนี้ สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,233 คน ระหว่างวันที่ 13-17 มิถุนายน 2559สรุป
ผลสำรวจประชาชนคิดอย่างไร ต่อการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติที่จัดตั้งโดยแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร้อยละ 76.64 ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแล ร้อยละ 74.45 อาจขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง ไม่น่าจะจัดตั้งได้ ร้อยละ 71.29 เป็นเกมการเมือง สร้างกระแส ต้องการกดดันรัฐบาล ร้อยละ 63.50 มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อาจเกิดปัญหาหรือความวุ่นวายตามมาภายหลัง ร้อยละ 52.80 หากมีการจัดตั้งขึ้นจริงขอให้คำนึงถึงประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าจะมีการโกงการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 หรือไม่ ร้อยละ 52.11 ไม่แน่ใจ เพราะ ต้องรอดูสถานการณ์ ความคิดเห็นของแต่ละคนแตกต่างกัน การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน ฯลฯ ร้อยละ 35.21 มี เพราะ เป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย มักจะมีการโกงเกิดขึ้นเสมอ ขั้นตอนการลงประชามติอาจมีช่องโหว่การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฯลฯ ร้อยละ 12.68 ไม่มี เพราะเชื่อมั่นในการควบคุมดูแลของ คสช.มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารจัดการ มีการป้องกันอย่างเข้มงวด การตรวจสอบการทำงานอย่างเป็นระบบ ชัดเจน ฯลฯ
ส่วนประชาชนคิดว่าควรทำอย่างไร ต่อการลงประชามติจึงจะไม่มีการโกงเกิดขึ้น ร้อยละ 85.40 ประชาชนต้องออกมาใช้สิทธิ ป้องกันคนสวมสิทธิ ร้อยละ 80.05 เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส ตรวจสอบได้ ร้อยละ 78.10 มีระบบการตรวจสอบที่ดี รอบคอบ รัดกุม มีบทลงโทษเด็ดขาด ร้อยละ 71.53 รณรงค์สร้างจิตสำนึก รวมทั้งกระตุ้นให้ทุกคนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการลงประชามติ ร้อยละ 70.56 ทุกคนต้องยึดหลักความถูกต้อง ซื่อสัตย์ สุจริต
ประชาชนจะช่วยให้การลงประชามติโปร่งใสได้อย่างไรนั้น ร้อยละ 82.24 ต้องออกไปใช้สิทธิและตัดสินใจด้วยตนเอง ร้อยละ 79.32 ช่วยภาครัฐดูแลสอดส่อง เป็นหูเป็นตา ร้อยละ 68.61 ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบที่กำหนดไว้ ร้อยละ 62.04 ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ มติที่เป็นเอกฉันท์ ร้อยละ 56.69 มีวิจารณญาณ ไม่ตกเป็นเครื่องมือหรือหลงเชื่อใครง่ายๆ
ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะสามารถดำเนินการเรื่องการลงประชามติได้อย่างโปร่งใสมากน้อยเพียงใด? ร้อยละ 36.67 ค่อนข้างเชื่อมั่น เพราะดูจากการทำงานที่ผ่านมา น่าจะสามารถจัดการได้ดี ทุกฝ่ายน่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ฯลฯ ร้อยละ 35.70 ไม่ค่อยเชื่อมั่น เพราะจากข่าวสารที่เผยแพร่ออกมา ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจต่อการจัดการลงประชามติ ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการทำงานได้ ฯลฯ ร้อยละ 17.36 ไม่เชื่อมั่น เพราะ เป็นเกมการเมือง ที่ผ่านมาการเลือกตั้งในทุกระดับก็มักมีการทุจริตเกิดขึ้นเสมอ อาจมีการกำหนดผลไว้ล่วงหน้า ฯลฯ ร้อยละ 10.27 เชื่อมั่นมาก เพราะ การลงประชามติมีความสำคัญต่อบ้านเมือง ต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ มีการวางแผนเตรียมการเป็นอย่างดี มีความเด็ดขาด ฯลฯ
สิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีการลงประชามติ ร้อยละ 78.59 ควรเปิดโอกาสและรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ร้อยละ 75.67 การดำเนินการต่างๆ ต้องโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ ร้อยละ 64.96 หากมีการทุจริต ควรมีบทลงโทษที่รุนแรง เด็ดขาด ร้อยละ 61.07 ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ นำเสนอข้อมูลที่เข้าใจง่ายแก่ประชาชน ร้อยละ 53.53 ควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน ยอมรับผลที่ออกมา
