รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลหารือนายกฯ กับ ผอ.สำนักงานสาขาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยันรัฐบาลให้ความสำคัญเร่งแก้ปัญหา ขอบคุณที่เข้าใจสถานการณ์ด้านการบินเป็นอย่างดี รับจำเป็นต้องได้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เดินงานถูกและมีมาตรฐาน ยันมุ่งมั่นแก้ระยะยาว ด้าน ICAO ขอบคุณให้ตั้งสำนักงานในประเทศ เชื่อจะแก้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ชูไทยฮับการบินในภูมิภาค
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่นายอรุน มิชรา (Arun Mishra) ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ ICAO เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าในการหารือนั้นทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้พบและขอบคุณที่เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของไทย
โดยนายกรัฐมนตรีในนามรัฐบาลไทยกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่ ICAO เห็นความสำคัญและเข้าใจสถานการณ์ปัญหาด้านการบินพลเรือนไทยเป็นอย่างดี และให้ความช่วยเหลือโดยการส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแก้ไขปัญหา การติดต่อและแจ้งข่าวสาร ให้คำปรึกษาในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns : SSC) ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับคำแนะนำ และช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจาก ICAO เพื่อให้ดำเนินงานไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีมาตรฐาน ทั้งนี้ ICAO ได้ให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา และคำแนะนำในการตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Certification) โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ร่วมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อมาช่วยดำเนินการการตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้กำหนดนโยบายและแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการ รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาการบินพลเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกทั้งจัดงบประมาณสนับสนุนเพื่อฝึกอบรมบุคลากรด้านผู้ตรวจสอบความปลอดภัยการบิน
“นายกรัฐมนตรียืนยันถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทั้งการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพื่อกำกับดูแลด้านการบิน เพื่อมุ่งเน้นการยกระดับระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนในทุกกิจกรรม และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ข้อกำหนด และข้อเสนอแนะของ ICAO โดยจะมีการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆ การกำกับดูแลด้านความปลอดภัย การออกใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ การปรับปรุงด้านอากาศยาน และการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน” พล.ต.วีรชนกล่าว
รองโฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ICAO กล่าวขอบคุณไทย สำหรับการอนุญาตให้ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศไทย และเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ไทยจะสามารถดำเนินการแก้ปัญหาการบินพลเรือนได้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมทั้งเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญ ไม่ใช่แค่กับ ICAO เท่านั้น แต่ไทยยังถือเป็นศูนย์กลาง (hub) การบินทางอากาศ (air traffic) และเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย