รมว.ยุติธรรม เผยพระผู้ใหญ่ทุกลำดับชั้นเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ประสานงานคดี “ธัมมชโย” แล้ว แนะศิษย์ธรรมกายแยกแยะเรื่องศรัทธากับการปฏิบัติตามกฎหมาย บอกขอให้เห็นใจที่สมาชิกเครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ถูกโกงจนหมดเนื้อหมดตัวนับพันนับหมื่นคนบ้าง
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงผลการหารือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่าอธิบดีดีเอสไอได้รายงานว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ท่านได้ให้ความร่วมมือและเมตตาเป็นอย่างดี ขอให้ใจเย็น เพราะตอนนี้พระผู้ใหญ่ทุกลำดับชั้นลงมาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ช่วยประสานงาน
ส่วนที่ทางวัดพระธรรมกายมีการขึงรั้วลวดหนามป้องกันวัดทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดหรือไม่นั้น พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่เข้าไป อย่ามองในแง่ร้ายจนเกินไป แต่เจ้าหน้าที่ต้องไตร่ตรองทำให้รอบคอบ เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีการพูดคุย ส่วนที่เจ้าหน้าที่วัดระบุอาจควบคุมลูกศิษย์ไม่ได้นั้น เรารับฟัง และตนต้องพูดกับสื่อเพื่อชี้แจงบรรดาลูกศิษย์และคนที่เกี่ยวข้องทุกวัน ข้อสงสัยในเรื่องความไม่เป็นธรรมหรือการรังแกพระนั้นสามารถจัดคณะมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือตนได้ จะได้ชี้แจงว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร แต่เรื่องของความศรัทธาขอให้แยกกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ขอร้องบรรดาลูกศิษย์อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะกลายเป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่
พล.อ.ไพบูลย์เชื่อว่าเราคงมีความเข้าใจตรงกันว่าทำไมต้องมีวิธีการมากกว่าผู้ต้องหาปกติ เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา แต่ต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม ส่วนวิธีการต้องทำด้วยความละมุนละม่อม รอบคอบ แต่เราจะไม่ยอมเด็ดขาดให้กฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมาย ขอให้เข้าใจ อยากให้สื่อช่วยชี้แจง เพราะบางทีอาจเข้าใจกันว่าเจ้าหน้าที่แหยง ไม่ทำ ที่จริงเจ้าหน้าที่เขาเหนื่อย เนื่องจากต้องทำตามรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ เหนื่อยที่ต้องรับผิดชอบกฎหมาย เหนื่อยเพราะติดตามผู้กระทำความผิด ตนถึงพูดว่าต้องดูไปถึงคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่มีประชาชนถูกโกงจนหมดเนื้อหมดตัวเป็นพันเป็นหมื่นคนด้วย
“เราต้องตามเอาทรัพย์สินตรงนั้นคืนมา วันนี้ได้มาคนละเล็กละน้อยเขาจะอยู่อย่างไร นี่เขาทนมาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้าเราไม่หาผู้กระทำความผิดเสียก่อนแล้วจะเอาทรัพย์สินคืนมาได้อย่างไร จะวิ่งไปหาแล้วบอกเอาคืนมาๆ คงไม่ได้ ในแง่กฎหมายศาลต้องตัดสินเรียบร้อยถึงนำทรัพย์สินมาคืนได้ ขอให้คิดหลักเช่นนี้ เราจึงต้องทำ ถึงจะเอาเงินกลับมาให้คนที่รอคอยการทำงานของเราและความเป็นธรรมอยู่ได้ ดังนั้นจึงต้องมองความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหายเหล่านี้ด้วย ถึงจะเข้าใจคดีทั้งระบบ ขอฝากไปยังศิษยานุศิษย์ให้มองคนที่หมดเนื้อหมดตัวจากคดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นบ้าง เพราะถ้าพระธัมมชโยไม่เกี่ยวข้อง ต่อสู้ในศาล ศาลก็ปลดล็อกให้ ทำไมต้องสร้างปัญหา และไอ้คำว่ารังแกพระ ไม่เป็นธรรม ประชาชนต้องพิจารณาขั้นตอนทั้งหมดแล้วจะเข้าใจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
